Thursday, December 29, 2011

ผมเป็นใคร

ผมเป็นใคร

ที่ช่องออกบัตรที่นั่งผู้โดยสารเครื่องบินในวันที่มีผู้โดยสารต่อคิวยาวมากเป็นพิเศษ

เพราะวันต่อไปเป็นวันหยุดราชการหลายวันติดต่อกัน

พนักงานออกบัตรที่นั่งพยายามที่จะทำงานให้เป็นที่ถูกใจแก่ผู้โดยสารทุกคน

โดยการพูดจาอย่างสุภาพ และทำงานโดยรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นผู้โดยสารที่อยู่ในคิวแถว

ก็ยังมีท่าทีกระวนกระวาย ต่างชะเง้อชะแง้ดูว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวของตัวเองสักที

ผู้โดยสารชายคนหนึ่ง เดินมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มาจากมุมไหนไม่มีใครสังเกต

ขอให้พนักงานหญิงคนนั้นออกบัตรที่นั่งให้เขาก่อนโดยด่วน

พนักงานสาวหายใจเข้าปอดอย่างแรง พยายามระงับอารมณ์โกรธ แล้วพูดอย่างสุภาพว่า

"คุณขา ใครใครเขาก็ต่อแถวเรียงคิวเป็นระเบียบนะคะ ดิฉันไม่สามารถจัดการให้คุณก่อน

หรอกค่ะ กรุณาไปต่อแถวเหมือนคนอื่นๆเถอะค่ะ"

ชายผู้นั้นหน้าแดงกล่ำด้วย พูดเสียงดังด้วยความโกรธว่า

"คุณรู้หรือเปล่า ว่าผมเป็นใคร?"

พนักงานสาวหันไปมองหน้าผู้โดยสารคนนั้น หายใจเข้าแรงๆอีกครั้ง

แล้วกดสวิทช์ไมโครโฟน พูดประกาศออกไปว่า

"ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้มีชายคนหนึ่งอยู่ที่ช่องออกบัตรที่นั่งผู้โดยสารหมายเลข 13

ไม่ทราบว่าตนเองเป็นใคร ถ้าท่านผู้โดยสารคนใดสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้

กรุณาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ด้วย ค่ะ ขอบคุณ" แล้วต่อด้วยภาษาอังกฤษว่า

"Attention please! There is a man at the ticket counter No:13

who does not know who he is. Anyone who may be able to identify

this man is asked to please step forward and identify him. Thank you".

ชายผู้นั้นรู้สึกอับอายขายหน้าไม่รู้จะทำอย่างไรดี นอกจากด่ากลับไปว่า

"ฟัก you!!!- .....กะ---"

พนักงานสาวก็สวนกลับทันควันด้วยเสียงอันสุภาพว่า

"นั่นก็ยังไม่ทราบว่าชาติหน้าตอนค่ำๆจะถึงคิวคุณหรือไม่ ต้องต่อคิวเหมือนกันนะค่ะ"

Tuesday, December 20, 2011

อยู่ที่อาตมา...

อยู่ที่อาตมา...

เจ้าภาพงานศพมีความต้องการอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงไปขอหลวงพ่อที่กุฏิ

เจ้าภาพ : หลวงพ่อครับ...ห้องเก็บถ้วย, ชาม กุญแจล็อคจากข้างใน ลูกกุญแจอยู่ไหนหรอครับ

หลวงพ่อ?

หลวงพ่อ : อยู่ที่แม่ชี

เจ้าภาพ : แล้วกุญแจห้องเก็บแก้วกับเหยือกน้ำล่ะ อยู่ไหนครับ?

หลวงพ่อ : อยู่ที่แม่ชี

เพื่อนที่มาร่วมงานด้วยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นึกแกว่งอย่างไรไม่รู้ จึงถามบ้าง

เพื่อน : แล้วกุญแจห้องแม่ชี อยู่ไหนครับ?

หลวงพ่อ : อยู่ที่อาตมา

ครั้งละ 1 เม็ด

ครั้งละ 1 เม็ด

คู่สมรสพึ่งแต่งงานใหม่ๆ อยู่1 คู่ หลังจากเบื่อการใช้ถุงยางฝ่าย

ภรรยาจึงไปปรึกษาหมอเพื่อคุมกำเนิด..

ส้ม: สวัสดีค่ะ หมอ ดิฉันจะมาปรึกษาคุณหมอเพื่อซื้อยาคุมกำเนิดค่ะ

หมอ: คุณเคยใช้ยาคุมกำเนิดบ้างรึป่าวครับ

ส้ม: ยังไม่เคยค่ะ คุณหมอช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ

หมอ: หลังจากแนะนำสรรพคุณ เสร็จหมอก็บอกว่าให้กินครั้งละ 1 เม็ด แล้วถามส้มว่าเข้าใจมั้ย

ส้ม: เข้าใจค่ะ ดิฉันขอถือโอกาส ลาคุณหมอเลยนะค่ะ

หมอ:โชคดีคับ แล้วมาหาหมอใหม่นะ

หลังจากนั้น 7 วัน ส้มก็กลับมาหาหมออีกที...

ส้ม: หวัดดีค่ะ หมอ ดิฉันมาขอยาคุมอีกค่ะ

หมอ: ทำมัยหมดเร็วจังครับ

ส้ม: ดิฉันก็ทำตามที่หมอสั่งนี่ค่ะ ก็หมอสั่งว่า ให้กินครั้งละ 1 เม็ด 7 วัน ก็หมดพอดีค่ะ

Thursday, December 15, 2011

จดหมายรักสีชมพู

จดหมายรักสีชมพู

บุญดอนเป็นวิศวกรหนุ่มรูปหล่อทำงานมาแล้วหลายปี

ถึงแม้จะมีตำแหน่งงานดีเงินเดือนดีแต่เขาก็ยังหาแฟนไม่ได้สักที

วันหนึ่ง เขาไปส่งจดหมายที่ไปรษณีย์ เขาเห็นชายสูงอายุหัวล้านพุงพลุ้ยอยู่คนหนึ่ง

กำลังง่วนอยู่กับจดหมายกองโต เมื่อเขาเดินเข้าไปชะโงกดูเห็นชายสูงอายุคนนี้

กำลังเอาแปรงเล็กๆ ขนาดแปรงยาทาทาเล็บป้ายน้ำหอมใส่โปสการ์ด

แล้วใส่เข้าไปในซองสีชมพูซองแล้วซองเล่า

บุญดอน : จดหมายรักหรือครับ ?

ชายสูงอายุ : ครับ จดหมายรักทั้งหมดเลย

บุญดอน : โห ขอดูหน่อยได้ไหม ?

เมื่อชายสูงอายุยื่นซองจดหมายมาให้บุญดอน เขาเห็นชื่อผู้รับบนหน้าซองเป็นชื่อผู้หญิง

เมื่อเปิดซองดู กลิ่นหอมของน้ำหอมโชยมาเตะจมูกมีข้อความบนโปสการ์ดที่เป็น

รูปหัวใจสีชมพูเขียนด้วยลายมือสวยงามอ่านว่า
" ที่รัก คิดว่าคุณคงประทับใจนะครับ ผมหวังว่าจะได้เจอกับคุณอีก จากผม............."

บุญดอนรู้สึกทึ่งมากที่ชายสูงอายุหัวล้านพุงพลุ้ยคนนี้จะมีทีเด็ด ถึงกับมีแฟนได้มากขนาดนี้

ในขณะที่หนุ่มรูปหล่ออย่างเขายังหาแฟนไม่ได้แม้แต่คนเดียว

เขายื่นซองจดหมายคืนด้วยความอิจฉา

บุญดอน : คุณทำอย่างไรจึงได้มีแฟนมากขนาดนี้ ? ช่วยบอกหน่อยได้มั้ยครับ

ชายสูงอายุ : พวกเธอเหล่านี้ไม่ใช่แฟนผมหรอก พวกเธอแต่งงานหมดแล้ว

บุญดอน : อ้าว แล้วคุณส่งจดหมายรักเหล่านี้ไปถึงพวกเธอทำไม ? เดี๋ยวสามีเขาก็เข้าใจผิดหรอก

ชายสูงอายุ : ก็ผมเป็นทนายความผู้เชี่ยวชาญคดีหย่าร้างไงครับ

เติมเต็มถังแถมเซ็กส์ฟรี 1ครั้ง

เติมเต็มถังแถมเซ็กส์ฟรี 1ครั้ง

หลังจากเรียนจบจากคณะสัตวบาล บุญญาได้แต่งงานกับพยาบาลสาวคนหนึ่ง

และไปทำฟาร์มโคนมอยู่ที่อำเภอโคกพัฒนา วันหนึ่ง เพื่อนเก่าได้มาเยี่ยมเยือน

เขาจึงขับรถพาเพื่อนไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในละแวกนั้น

เมื่อขับรถเที่ยวไปครึ่งค่อนวันปรากฏว่าน้ำมันใกล้หมดถัง เพื่อนเก่ามองเห็น

ป้ายขนาดใหญ่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งมีข้อความเขียนเป็นตัวโตๆอ่านได้ว่า

" เติมเต็มถัง แถมเซ็กส์ฟรี 1 ครั้ง ? "

เพื่อนเก่า : เราแวะเติมน้ำมันที่นี่ดีกว่า ดูมีรายการโปรโมชั่นที่น่าสนใจ

แปลกนะทำไมจึงมีเครื่องหมายคำถามด้วย

บุญญา : โปรโมชั่นอย่างนี้มีเกือบทุกอาทิตย์ แต่คนเติมเต็มถังแล้วต้องตอบปัญหา

ได้ถูกต้องด้วย จึงจะได้รางวัล

เมื่อทั้งคู่ให้เขาเติมน้ำมันจนเต็มถังแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องตอบปัญหา

ผู้จัดการ : ตอบซิว่า ผมคิดเลขอะไรไว้ในใจ ระหว่างเลขหนึ่งถึงเลขสิบ

บุญญา : ผมทายว่าเลขสาม

ผู้จัดการ : ผิด

เพื่อนเก่า : เลขเจ็ด เพราะตอนนี้กำลังฮิต

ผู้จัดการ : ผิด

เพื่อนเก่า : เฮ้ย อย่างนี้ใครจะทายถูกวะ ผมว่าไม่มีใครได้เซ็กส์ฟรีหรอก หลอกลวงกันชัดๆ

บุญญา : ไม่ เขาไม่ได้หลอกลวงหรอก เมียผมมาทีไรเธอทายถูกทุกทีเลย

Friday, December 9, 2011

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

บุญเขตเข้าไปซื้อกับข้าวที่ห้างโลตัส หลังจากชำระเงินแล้วเขาต้องหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง

ไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ลานจอดรถ ขณะที่เดินผ่านช่องแคบๆระหว่างรถสองคันที่จอดอยู่

บังเอิญถุงข้าวของไปสะกิดถูกด้านข้างของรถคันหนึ่ง ซึ่งมีชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังนั่งจู๋จี๋กัน

อยู่พอดี ชายหนุ่มอยากโชว์ออฟให้แฟนสาวได้เห็น จึงเปิดประตูรถลงมาดูร่องรอย

บุญเขต : ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้ถุงข้าวของไปโดนรถคุณ อย่างไรก็ตาม

ผมไม่เห็นมีอะไรเสียหาย

ชายหนุ่ม : ไม่เสียหายให้เห็นก็จริง แต่มันเสียความรู้สึก

บุญเขต : ก็ผมขอโทษแล้วไง

ชายหนุ่ม : ขอโทษไม่พอหรอก

บุญเขต : งั้นถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้นได้แล้วละก็ ผมให้คุณไปเตะรถผมคืนก็แล้วกัน

นั่นรถผม !

บุญเขตพาชายหนุ่มเดินไปที่รถปิ๊กอัพคันหนึ่งที่จอดอยู่ในล็อกถัดไป ชายหนุ่มจัดการเตะ

ปิ๊กอัพด้วยความเมามัน สักครู่ต่อมา มีหนุ่มใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม

หนุ่มใหญ่ : คุณมาเตะรถผมทำไม ?

ชายหนุ่ม : อ้าว รถคุณเหรอ เมื่อสักครู่ผู้ชายคนนี้......

พอเขาหันไปหาบุญเขต ปรากฏเขาไม่เห็นบุญเขตเสียแล้ว แต่เขาเห็นรถโตโยต้าเก่าๆคันหนึ่ง

ซี่งเมื่อสักครู่จอดแถวนั้นขับออกไปอย่างรวดเร็ว

เสียงรำพึงรำพัน

เสียงรำพึงรำพัน

บุญตอบเป็นคนที่ดูแลสุขภาพของตนเองอย่างเข้มงวด เขาจะออกกำลังกายด้วยการเข้ายิมฯ

ทุกเช้าโดยเขาจะวิ่งอย่างน้อยวันละ 10 กม. แล้วยกน้ำหนักอีกวันละ 1 ชม. เขากินอาหาร

ที่มีคุณประโยชน์เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบทั้งห้าหมู่โดยเฉพาะสารที่เสริมสร้างแคลเซี่ยม

แต่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเขาจึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินดีจากแสงแดดด้วย

เขาจึงไปเล่นกอล์ฟทุกวันเสาร์ว่ายน้ำทุกวันอาทิตย์ จนทำให้เขามีร่างกายที่สมส่วนแข็งแรง

มีผิวสีแทน ยกเว้นแต่บริเวณของสงวนเท่านั้นที่ไม่เคยโดนแสงแดดเลย

วันหนึ่งเขาไปพักผ่อนที่หาดส่วนตัวแถวนายายอาม เขาขุดทรายเป็นหลุมขนาดที่ตัวเขาลงไป

นอนได้แล้วโกยทรายมากลบหลุมจนเหลือแต่ของสงวนโผล่พ้นทรายขึ้นมารับแสงแดด

ไม่นานเขาก็นอนหลับไป บังเอิญขณะนั้นสายโฉมกับสายละไม สองสาวคู่หูวัยดึกที่มีบ้านพัก

ตากอากาศอยู่แถวนั้นด้วยได้ออกมาเดินเล่นกินลมแถวชายหาดพอดี

สายโฉม : อุ๊ย ! นั่นอะไร โผล่ขึ้นมาจากพื้นทราย ?

สายละไม : ไหน ไหน ขอเข้าไปดูใกล้ๆหน่อยซิ

สายโฉม : ต๊าย..ตาย มันเหมือนจะเป็นอ้ายนั่นนะเธอ

สายละไม : จริงด้วย โธ่เอ๊ย... ชีวิตหนอชีวิต

สายโฉม : เธอหมายความว่าอย่างไร ?

สายละไม : จะหมายความว่าอะไรเสียอีก ก็ตอนฉันอายุ 20 ฉันได้แต่ฉงนในมัน

พออายุได้ 30 ฉันก็ชอบและหลงไหลในมัน ครั้นอายุ 40 ฉันได้แต่โหยหาถึงมัน

พออายุ 50 ฉันต้องจ่ายเพื่อให้ได้มัน ตอนอายุ 60 ฉันได้แต่บนบานเพียงขออภินิหาร

เพื่อให้ได้มัน และพออายุ 70 ฉันจึงสามารถที่จะลืมมัน แต่มาวันนี้ฉันอายุ 80

มันเหมือนสวรรค์ฟ้าดินมาแกล้งฉัน ทำไมมันจึงมีของอย่างนั้นโผล่ขึ้นมาจากดินได้ง่ายๆอย่างนี้ใน

ขณะที่ไฟในตัวฉันมอดไหม้ไปหมดแล้ว

Thursday, December 8, 2011

กำลังใครแรงกว่า

กำลังใครแรงกว่า

บุญเด็ด อดีตนายธนาคารใหญ่หลังเกษียณอายุแล้ววันๆจะใช้เวลาไปงานแสดงสินค้าต่างๆ

เพื่อฆ่าเวลา

วันหนึ่ง เขาขับรถเมอร์ซิเดส เบนซ์ 500 CDI ป้ายแดงซึ่งเขาเพิ่งถอยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เพื่อไปดูงานแสดงนาฬิกา อัญมณีและเครื่องประดับ แต่เนื่องจากรถที่มางานมีจำนวนมาก

ทำให้เขาหาที่จอดรถไม่ได้แม้จะต้องขับวนอยู่หลายรอบแล้วก็ตาม จนกระทั่งเขาเห็น

ผู้หญิงคนหนึ่งหอบของพะรุงพะรังเดินไปที่รถของเธอ เขาขับรถเข้าไปรอโดยเปิดไฟกะพริบค้างไว้

อย่างใจเย็น ครู่ใหญ่ๆหลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ขับรถออกไป ไม่ทันที่บุญเด็ดจะขับรถ

เมอร์ซีเดสเข้าจอดแทนปรากฏว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถโตโยต้า แคมรีป้ายแดงเข้าไปเสียบ

เสียก่อน บุญเด็ดตะลึงไปชั่วครู่แล้วเขาก็โกรธจนตัวสั่น เขาลงจากรถแล้วเดินตรงไปหา

ชายหนุ่มทันที

บุญเด็ด : คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร ? คุณไม่เห็นหรือว่าผมเปิดไฟกะพริบค้างไว้เพื่อแสดงว่า

ผมกำลังรอจอดรถในช่องนี้อยู่

ชายหนุ่ม : ผมไม่สน คนหนุ่มอย่างผมมีกำลังและว่องไวมากกว่าก็ต้องได้เป็นธรรมดา

หลังจากชายหนุ่มพูดเสร็จเขาก็ลงจากรถ ล็อกประตูอย่างไม่แยแสแล้วรีบเดินเข้างานแสดงสินค้า

แต่เมื่อเขาคล้อยไปได้เพียงประมาณ 20 เมตรเท่านั้น เขาก็ได้ยินเสียง โครม !

ดังสนั่นหวั่นไหว เขาหันมองตามเสียงนั้นไป แล้วเขาต้องสะดุ้งตกใจ เพราะภาพที่เขาเห็น

เป็นรถเมอร์ซีเดสป้ายแดงคันหนึ่งชนเข้ากับรถโตโยต้า แคมรีของเขา สภาพรถพังยับเยินทั้งคู่

เขาจึงหันหลังกลับแล้วรีบไปที่รถของเขาทันที ภาพที่เขามองเห็นคือบุญเด็ดยืนยิ้มอยู่ตรง

ที่เกิดเหตุ เขาตรงรี่เข้าไปหา

ชายหนุ่ม : คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร ? รถผมพังเสียหายหมดแล้ว

บุญเด็ด : ผมไม่สน คนแก่อย่างผมมีกำลังเงินมากกว่าก็ต้องเลือกทำอย่างนี้เป็นธรรมดา

ถึงผมจะไม่ใช่.....?

ถึงผมจะไม่ใช่.....?

บุญญาณเป็นเจ้าของโรงไม้เล็กๆ วันๆเขาจะยุ่งอยู่กับการขายไม้ การคำนวน การจัดไม้

ให้เป็นไปตามออร์เดอร์จนรู้สึกว่าจะเครียดอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งตกเย็นพอเลิกงานแล้ว

เขาจะรู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้นเขาจึงไปเป็นแขกประจำของโจแห่งบาร์บุญขจร

คืนนี้ก็เช่นเคย ขณะที่เขากำลังดื่มด่ำกับวิสกี้บลูลาเบลผสมโซดาอยู่นั้น

บังเอิญมีหญิงสาวสวยคนหนึ่งแต่งตัวชะเวิบชะวาบเดินเข้ามาในบาร์ เธอมานั่งใกล้ๆกับเขา

แล้วชายตามองเขาอย่างเชื้อเชิญ แต่เขาก็ยังคงดื่มด่ำกับวิสกี้ของเขาต่อไปอย่างนิ่งเฉย

จนกระทั่งพักใหญ่

หญิงสาว : ใจคอจะไม่เลี้ยงเหล้าฉันสักแก้วเลยหรือคะคุณ ?

บุญญาณ : ก็ได้ ถึงผมจะไม่รวยเท่าคุณเจริญ ผมก็เลี้ยงคุณได้ นี่โจ รินเหล้าให้คุณผู้หญิง

แก้วหนึ่งซิ

หญิงสาว : ขอบคุณค่ะ และเพื่อให้ได้บรรยากาศคุณจะไม่ขึ้นไปร้องเพลงให้ฟังสักเพลงหรือคะ ?

บุญญาณ : เอ้อ ถึงผมจะเสียงไม่ดีเท่าคุณสุเทพ แต่ผมก็ยินดีขึ้นไปร้องให้คุณฟังครับ

หลังจากบุญญาณขึ้นไปร้องเพลง ลงมาดื่ม และซื้อเหล้าให้หญิงสาวดื่มสลับกันอยู่จนคนทั้งสอง

สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น จนกระทั่ง

หญิงสาว : ไปต่อที่อพาร์ทเมนท์กับฉันไหมคะ ? อยู่ใกล้ๆแถวนี้เอง

บุญญาณ : ถึงผมจะไม่หล่อเท่าคุณสมบัติ แต่ผมก็ยินดีไปกับคุณครับ

หญิงสาวพาบุญญาณไปที่อพาร์ทเมนท์ของเธอ แล้วคนทั้งสองก็มีอะไรๆกันอย่างที่เขาคิด

อยู่ในใจตลอดเวลา หลังจากเสร็จกิจเรียบร้อยแล้ว

หญิงสาว : แล้วเรื่องเงินล่ะคะ ?

บุญญาณ : เงินเหรอ ? อืม์... ถึงผมจะไม่ใช่แมงดา แต่ผมก็ยินดีรับเงินครับ

Wednesday, December 7, 2011

มุมมองที่น่าคิด (18+)

มุมมองที่น่าคิด (18+)

เด็กชายบุญชนะเป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 เขาเป็นเด็กที่ฉลาดกว่าเด็กใดๆในห้องเดียวกัน

ในชั่วโมงคณิตศาสตร์ คุณครูสายใจสอนการลบเลข

ครูสายใจ : มีนก 8 ตัวเกาะอยู่บนรั้ว ครูเอาปืนลูกซองยิงไปหนึ่งนัด ถูกนกตกลงมาตาย 3 ตัว คงเหลือนกบนรั้วกี่ตัว

นักเรียน1 : 5 ตัวครับ

ครูสายใจ : เก่งมาก เอ้า ! เด็กชายบุญชนะ เหลือนกกี่ตัว ?

บุญชนะ : ไม่เหลือสักตัวครับ

ครูสายใจ : ทำไมจึงไม่เหลือสักตัว ?

บุญชนะ : พอได้ยินเสียงปืนนกที่เหลือมันตกใจ เลยบินหนีไปหมดครับ

ครูสายใจ : อืม แม้คำตอบไม่ตรงตามเจตนาแต่มันก็เป็นมุมมองหนึ่งที่น่าคิด

ครูชอบมุมมองนี้เหมือนกัน

บุญชนะ : คุณครูครับ ขอผมถามคุณครูหน่อยครับว่า มีหญิงสาว 3 คน นั่งกินไอศกรีมโคนอยู่ใน

สวนสาธารณะ คนที่หนึ่งใช้ลิ้นเลียไอศกรีม คนที่สองใช้ฟันกัดไอศกรีม คนที่สามใช้ปากดูด

ไอศกรีม อยากทราบว่าผู้หญิงคนไหนที่แต่งงานแล้ว

ครูสายใจรู้สึกขวยเขินต่อคำถามนี้เล็กน้อย แต่เพื่อฝึกให้นักเรียนกล้าตอบกล้าแสดงออก

เธอก็ตอบแบบอายๆ

ครูสายใจ : ครูว่า คนที่ใช้ปากดูดไอศกรีมนะซิ

บุญชนะ : ไม่ใช่ครับ คำตอบที่ถูกคือคนที่สวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางครับ แต่ผมว่าคำตอบของ

คุณครูมันเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าคิดเหมือนกันครับ

ไม่เข้าใจภาษามือ (18+)

ไม่เข้าใจภาษามือ (18+)

บุญแนมกับบุญปรอดเป็นหนุ่มหูหนวกกันทั้งสองคน แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อนที่รักกันมาก

วันหนึ่ง บุญแนมขับรถไปหาบุญปรอดที่อพาร์ทเมนท์แล้วส่งภาษามือคุยกัน

บุญแนม : ไปเที่ยวอาบอบนวดกันไหม ?

บุญปรอด : ดีเหมือนกัน แต่ผมไม่มีถุงยางอนามัย

บุญแนม : ไม่มีปัญหา ประเดี๋ยวแวะซื้อที่ร้านขายยาข้างหน้า

บุญปรอดกระโดดขึ้นรถในทันที บุญแนมขับรถไปไม่ไกลเท่าไรก็พบร้านขายยาอยู่ริมถนน

บุญปรอดอาสาที่จะลงไปซื้อถุงยางอนามัยเอง 4-5 นาทีให้หลังเขากลับมาที่รถ

เคาะกระจกหน้าต่าง ส่งภาษามือคุยกัน

บุญแนม : มีปัญหาอะไร ?

บุญปรอด : คนขายเขาไม่เข้าใจภาษามือ

บุญแนม : กลับไปใหม่ เอาแบงค์ร้อยบาทวางไว้บนตู้กระจกแล้วควักอ้ายนั่นของคุณ

วางไว้บนตู้กระจกคู่กับแบงค์ร้อยด้วย ทีนี้ละก็เขาจะเข้าใจแน่นอน

บุญปรอดหายเข้าไปในร้านขายยาอีกครั้งหนึ่ง 5 นาทีต่อมา เขาเดินมาเคาะกระจกหน้าต่าง

รถอีก บุญแนมเริ่มหงุดหงิด จึงส่งภาษามือออกไป

บุญแนม : มีปัญหาอะไรอีกล่ะ ?

บุญปรอด : ผมทำตามที่คุณบอกผมทุกอย่าง แต่คนขายเขาก็ควักอ้ายนั่นของเขาขึ้นมา

วางบนตู้กระจกคู่กับของผม ปรากฏว่าของเขาใหญ่กว่าของผมมาก เขาเลยหยิบแบงค์ร้อยใส่

กระเป๋าไปแถมยังยิ้มเยาะผมอีกด้วย

Tuesday, December 6, 2011

โธ่เอ๊ย...เพิ่งนึกออก

โธ่เอ๊ย...เพิ่งนึกออก

บุญผาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บที่ขาข้างขวา

จากการตรวจของหมอพบว่าขาของเขาหัก จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

หมอจึงต้องการทราบสาเหตุของการบาดเจ็บ

หมอ : มันเกิดอะไรขึ้นกับขาของคุณ ?

บุญผา : คือว่า... เมื่อ ยี่สิบปีที่แล้ว...

หมอ : เรื่องที่ผ่านไปแล้วอย่าสนใจเลย เอาเป็นว่าที่ขาหักนี้เพราะอะไร ?

บุญผา : ก็มันเกี่ยวกับเรื่องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย

แล้วไปสมัครงานในฟาร์มแห่งหนึ่ง ผมต้องกินอยู่ในฟาร์มกับเจ้าของฟาร์ม

ในคืนวันแรก ลูกสาวคนสวยของเจ้าของฟาร์มได้เข้ามาหาผมถึงที่ห้องนอน

เธอถามผมว่า " คุณต้องการอะไรไหม? "

ผมตอบเธอว่า " ไม่ครับ ขอบคุณ "

เธอถามผมอีกว่า " คุณแน่ใจหรือ "

ผมตอบไปว่า " ผมแน่ใจ "

เธอถามผมอีกว่า " มีอะไรที่ฉันจะทำให้คุณได้บ้างไหม? "

ผมตอบว่า " ไม่มีครับ ขอบคุณ "

หมอ : " เฮ้ย ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับเรื่องที่คุณขาหักเลยนี่ "

บุญผา : " เกี่ยวซิครับ พอดีเมื่อเช้านี้ผมปีนขึ้นไปซ่อมเสาอากาศบนหลังคาบ้านของผม

ผมคิดถึงเรื่องนี้พอดี โธ่เอ๊ยผมเพิ่งคิดออกว่าผมนี้โง่จริงๆ ผมเลยเอามือข้างหนึ่งมาเขกหัวตัวเอง

มืออีกข้างหนึ่งหลุดจากการจับเสาผมเลยตกลงมาจากบนหลังคา ทำให้ผมขาหักครับ "

เคล็ดลับในการเพิ่มพลังเซ็กส์ (18+)

เคล็ดลับในการเพิ่มพลังเซ็กส์ (18+)

ในวงสนทนาของผู้ชายตั้งแต่สองคนขึ้นไปมักจะมีเรื่องเซ็กส์เป็นหัวข้อการสนทนาด้วย

แม้แต่บุญเหย้าและบุญโพด สองผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านสุขเสมอก็เช่นเดียวกัน

เช้าวันหนึ่ง คนทั้งสองนั่งคุยกันในสวนหย่อมของหมู่บ้าน เริ่มจากเรื่องสารทุกข์สุกดิบ

ไปจนถึงเรื่องสัพเพเหระและที่สุดก็มาลงเอยที่เรื่องเซ็กส์จนได้

บุญเหย้า : เมื่อคืนนี้ ผมไปเที่ยวแล้วได้นอนกับสาวอายุ 30 ผมทำได้ตั้ง 3 ที

บุญโพด : จริงเหรอ ? โอ้โห ! คุณมียาดีอะไรบอกหน่อย ของผมมันไม่แข็งตัวเลย

บุญเหย้า : ผมจะบอกความลับให้ ผมไม่ได้กินยาอะไรหรอก หมอแนะนำผมกินขนมปังโฮลวีท

(Wholewheat ขนมปังทำจากข้าวสาลีกล้อง) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยกินจำนวนมากทุกวัน

มาเป็นเวลานานแล้ว ของผมแข็งตัวดีและมีเซ็กส์ได้ทุกวันด้วย

บุญโพดได้ยินเช่นนั้นก็รีบผละไปจากสวน เขาตรงไปที่ร้านขายขนมปังหน้าปากซอย

คนขาย : สวัสดีครับ ต้องการซื้ออะไรดีครับ ?

บุญโพด : ที่นี่มีขายขนมปังโฮลวีทไหม ?

คนขาย : มีครับ เรามีขนมปังโฮลวีทขาย เรามีทั้งแถวสั้นกับแถวยาว ต้องการแบบไหนครับ ?

บุญโพด : ขอซื้อแถวยาว 6 แถว

คนขาย : ซื้อมากนะครับ ผมคิดว่า... อืม....มันจะแข็งก่อนที่จะกินหมดเสียด้วยซ้ำ

บุญโพดคิดในใจ "เฮ้ย อะไรกันนี่ ใครๆเขาก็รู้ถึงความลับนี้กันหมดยกเว้นเราคนเดียว

เรานี้โง่เง่าจริงๆเลย"

Wednesday, November 30, 2011

ทำไมคุณจึงโง่อย่างนี้

ทำไมคุณจึงโง่อย่างนี้

บุญพลิ้วเป็นหนุ่มรูปหล่อประจำหมู่บ้านโคกสอางค์ แม้เขาจะผ่านผู้หญิงทั้งสาวแก่แม่หม้าย

มาแล้วหลายคนก็ตาม แต่ในที่สุดเขาก็มาตกหลุมรักสายชบาลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน

สายชบาเป็นสาวสวยบริสุทธิ์และไร้เดียงสา

ผู้ใหญ่บ้านจึงหวงแหนลูกสาวคนนี้มาก บุญพลิ้วทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนยอมรับ

และในที่สุดเขาก็ได้แต่งงานกับสายชบาสมดังตั้งใจ หลังจากสัปดาห์ฮันนีมูนผ่านไป

สายชบา : ฉันไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย และก็ไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งนั้นของผู้ชาย

มันจะมีประโยชน์ และให้ความสุขแก่ฉันมากถึงขนาดนี้

ด้วยความหึงหวงในตัวหญิงสาว เขาไม่อยากให้เธอไปสนใจชายอื่นอีก

ความคิดแว่บหนึ่งเข้ามาในสมอง

บุญพลิ้ว : ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะมีสิ่งนั้นเสียเมื่อไร ผมเป็นคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่มีสิ่งนั้น

หลายวันผ่านไป ผู้ใหญ่บ้านใช้ให้บุญพลิ้วไปทำธุระที่ต่างจังหวัดนานหนึ่งเดือน

หลังจากทำธุระเสร็จเขาก็รีบกลับบ้านมาหาภรรยาเขาทันที เขาต้องแปลกใจ

ที่เธอไม่ได้อยู่ที่บ้านแต่เธอมาอยู่ที่ร้านกาแฟกับบุญเทียบเพื่อนสนิทของเขาเอง

เขาเดินเข้าไปหวังจะต่อว่าคนทั้งสอง แต่สายชบากลับเป็นคนลุกเดินมาหาเขาด้วย

อารมณ์ฉุนเฉียว

สายชบา : คนโกหก ไหนคุณบอกว่าคุณเป็นคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่มีสิ่งนั้นยังไง?

นี่บุญเทียบเขาก็มีสิ่งนั้นเหมือนกัน

บุญพลิ้ว : อ๋อ บังเอิญผมมีอยู่สองอันน่ะ ผมเห็นว่าบุญเทียบเป็นเพื่อนที่ดีของผม

ผมเลยแบ่งให้เขาอันหนึ่ง

สายชะบา : โธ่เอ๊ย.....ทำไมคุณจึงโง่อย่างนี้? คุณดันแบ่งอันที่ดีกว่าให้เขาไปได้

นักพนันตัวจริง

นักพนันตัวจริง

บุญสมัยไปออกกำลังกายทุกเช้าที่คาลิฟอร์เนีย ว้าว หลังจากการออกกำลังในเช้าวันหนึ่ง

เขาไปนั่งดื่มน้ำผลไม้ที่เคาน์เตอร์บาร์ใกล้ๆกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมานั่งอยู่ก่อนแล้ว

ขณะนั้นเป็นเวลา 08.05 น. ในโทรทัศน์ มีข่าวชายนิรนามคนหนึ่งยืนอยู่บนระเบียงดาดฟ้า

ของตึกโกลเด้นไดมอนด์กำลังทำท่าจะกระโดดตึกลงมา บรรดาช่างภาพและนักข่าว

ออกันเต็มไปหมดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย

หญิงสาว : คุณว่าเขาจะกระโดดจริงไหม ?

บุญสมัย : ผมว่าเขากระโดดจริง

หญิงสาว : ฉันว่าเขาไม่กระโดดหรอก

บุญสมัย : งั้นเรามาพนันกันไหม 500 บาท ผมว่าเขากระโดด

หญิงสาว : โอเค ฉันพนัน 500 บาท เขาจะไม่กระโดด

พอพูดขาดคำเท่านั้น ชายนิรนามก็กระโดดจากตึกตกลงมาถึงพื้นเสียชีวิตทันที

หญิงสาวส่งเงิน 500 บาทให้เขาด้วยความผิดหวัง

บุญสมัย : ผมรับเงินคุณไม่ได้หรอกครับ

หญิงสาว : อ้าว ทำไมหรือ ? ก็คุณชนะพนัน ฉันแพ้ฉันก็ต้องจ่าย

บุญสมัย : คือว่า.... ผมดูข่าวนี้ตั้งแต่ตอน 05.05 น.ไปครั้งหนึ่งแล้ว

มันเป็นการโกงคุณถ้าผมรับเงินของคุณ

หญิงสาว : ฉันก็ดูข่าวนี้เมื่อตอนตีห้าเช่นเดียวกัน

บุญสมัย : อ้าว... แล้วถ้าอย่างนั้นคุณยังมาพนันกับผมทำไมล่ะ ?

หญิงสาว : ก็ฉันไม่คิดว่าเขาจะกระโดดเป็นครั้งที่สองนะซี

Tuesday, November 29, 2011

ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง

ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง

เมื่อไม่นานมานี้ ชายสามคน ได้เสียชีวิตลง คนหนึ่งเป็นครู, คนหนึ่งเป็นคนเก็บขยะ

และอีกคนหนึ่งนั้น เป็นทนายความ วิญญาณของพวกเขาก็ล่องลอยตุุ๊บป่องๆ

มาโผล่ที่หน้าประตูสวรรค์ เซนต์ปีเตอร์ก็แจ้งให้พวกเขาทราบว่า

การที่จะผ่านเข้าประตูสวรรค์ได้นั้น พวกเขาจะต้องตอบคำถามคนละหนึ่งข้อ

ถ้าตอบไม่ได้หรือตอบผิด ก็หมดสิทธิผ่าน

เซนต์ปีเตอร์ได้ถามคุณครูว่า

"ไหนลองบอกมาซิ ว่าเรือ ลำที่แล่นไปชนภูเขาน้ำแข็งที่เขานำมาสร้างเป็นหนังนั้น

มีชื่อว่าอะไร?"

คุณครูรีบตอบ

"มันชื่อ"ไททานิค"ครับท่าน" เซนต์ปีเตอร์ก็อนุญาตให้ผ่านได้

เซนต์ปีเตอร์หันไปทางคนเก็บขยะ และก็คิดว่าเจ้าคนนี้ตัวเหม็น ถ้าให้ผ่านเข้าไป

สวรรค์ก็คงจะเหม็นแย่ อย่ากระนั้นเลย ต้องถามเรื่องที่มันยากขึ้นมาหน่อย

"ไหนท่านลองบอกมาซิ ว่าในคราวนั้น มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดกี่คน?"

คนดี ผีคุ้ม นับว่าโชคยังดี ที่คนเก็บขยะ เพิ่งจะไปดูหนังเรื่องนี้มา

เขาจึงตอบ

"1,228 คน ครับท่าน"

เซนต์ปีเตอร์

"ถูกต้อง! ขอเชิญท่าน ผ่านเข้าประตูได้"

แล้วเซนต์ปีเตอร์ ก็หันไปหาทนายความ ซึ่งตามสมุดบันทึกเวรกรรม

ทนายคนนี้หน้าเลือดมาก เซนต์ปีเตอร์ไม่อยากจะให้เขาขึ้นสวรรค์ จึงถามว่า

"จงบอกชื่อ พวกเขาทุกคน"

นักบุญฮีโร่พันธุ์นรก

นักบุญฮีโร่พันธุ์นรก

ทนายความคนหนึ่งแห่งมหานครลอส แอนเจลิส ได้ถึงแก่ความตาย และวิญญาณของเขา
ได้มาโผล่ที่ประตูสวรรค์

เซนต์ ปีเตอร์ถามว่า

"ไหนลองบอกมาซิ ว่าเจ้าเคยทำคุณงามความดีอะไรมาบ้าง เพื่อที่จะได้ผ่านเข้าประตูสวรรค์
แห่งนี้?"

ทนายหนุ่มคิดย้อนถึงเรื่องราวในอดีตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบ

"เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ ข้าได้ให้เงินสลึงหนึ่งแก่พวกคนจรจัดบนท้องถนน ครับท่าน"

เซนต์ ปีเตอร์ก็หันไปบอกเทพกาบริเอล ให้ตรวจดูบันทึกดูซิ เทพกาบริเอลก็เปิดบันทึกดู แ
ล้วกล่าวยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

เซนต์ ปีเตอร์

"อืม..นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่ดี..แต่ก็ไม่นับว่าดีพอ ที่จะให้เจ้าผ่านเข้าประตูสวรรค์แห่งนี้"

ทนายหนุ่ม


"เดี๋ยวๆ ครับท่าน !" "คือว่า ยังมีอีกนะครับ! ขอบอก คือว่า เมื่อสามปีก่อน ครั้งหนึ่ง
ข้านั้น ก็เคยได้ให้เงินสลึงหนึ่งแก่พวกคนจรจัดบนท้องถนนนะท่าน"

เซนต์ ปีเตอร์ก็หันไปพยักหน้าให้เทพกาบริเอลตรวจเช็คดูบันทึกอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งเทพกาบริเอลก็ได้ทำการตรวจดูแป๊บนึง แล้วก็พยักหน้าตอบกลับมาว่า ที่บอกมานั้นเป็นความจริง

เซนต์ ปีเตอร์จึงกระซิบถามเทพกาบริเอล

"อืม..ไหนท่านช่วยบอกมาซิว่า เราจะเอายังไงกับเจ้าหมอนี่ดี?"


เทพกาบริเอลเหลือบตาชำเลืองมองทนายหนุ่มแว๊บหนึ่ง แล้วตอบว่า

"คืนสองสลึงนั่นให้มันไป แล้วถีับมันลงนรกไปเลย"

Monday, November 28, 2011

ค้างคาวเหินฟ้า พสุธากัมปนาท

ค้างคาวเหินฟ้า พสุธากัมปนาท

บนเครื่องบินลำหนึ่ง ขณะบินฝ่ากระแสพายุ ผู้ร่วมชะตากรรม มีอยู่ 5 คน

ประกอบด้วย นักบิน, ไมเคิล จอร์แดน, บิล เกตส์, โป๊ป และคนส่งพิซซ่า

แล้วทันใดนั้น นักบินก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องโดยสาร และร้องบอกว่า เครื่องบินโดนฟ้าผ่า

กำลังจะตกภายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ พวกเรา 5 คน แต่มีร่มชูชีพแค่เพียง 4 อันเท่านั้น

"ผมเป็นนักบิน ผมขออันหนึ่ง"ว่าแล้ว เขาก็คว้าเอาร่มอันหนึ่ง แล้วกระโดดลงไป

ไมเคิล จอร์แดน ร้องบอก : "ผมเป็นยอดนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ โลกต้องการคนอย่างผม

ผมตายไม่ได้"

ว่าแล้ว ไมเคิล จอร์จ ก็คว้่าเอาร่มอันหนึ่ง แล้วกระโดดลงไป

บิล เกตส์ : "ผมเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก โลกต้องการคนอย่างผม ผมจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป"

ว่าแล้ว เขาก็คว้าเอาร่มอันหนึ่ง แล้วกระโดดลงไป

โป๊ปหันมากล่าวกับคนส่งพิซซ่า :

"พ่อก็อยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว แต่เธอนั้นเป็นคนหนุ่ม ยังมีอนาคตที่ยาวไกล

เธอเอาร่มอันสุดท้ายไปเถอะ พ่อขออยู่บนเครื่องบินนี้แหละ"

คนส่งพิซซ่า

"หลวงพ่อไม่ต้องอยู่หรอกครับ ไอ้เจ้าคนฉลาดที่สุดในโลก มันคว้าเอาเป้ของผมโดดลงไปอ่ะ

นี่ครับ ร่มชูชีพของเรา 2 คนครับ"

พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง

พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง

ผมจะบอกอะไรให้นะครับ ว่า "ผู้หญิงขับรถ"เนี่ย เป็นอะไรที่"น่าสยอง"มาก
เมื่อเช้านี้ อีตอนที่ผมขับรถอยู่บนทางด่วนเพื่อที่จะไปทำงาน

ผมเหลือบตามองดูทางซ้าย ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอกำลังห้อเจ้ามัสแตงสีแดง

ด้วยความเร็วแรงแซงทะลุนรก 80 ไมล์/ช.ม. เธอนั้น ขับรถไปด้วย

แล้วก็เขย่งก้นขึ้นมาชะโงกหน้าดูกระจกเพื่อแต่งหน้าเขียนตาไปด้วย

อึ๋ย!!! น่ากัวสุดๆ

ผมหันหน้ากลับมามองทางแป๊บนึง พอหันกลับไป โอ้! พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง

ปรากฎว่า รถของเธอนั้น ได้เป๋กินเลนเข้ามาในเลนของผมถึงครึ่งเลนแล้ว..จ๊ากกก!!!.

ผมตกใจสุดขีด จนเครื่องโกนหนวดหลุดจากมือ หล่น "ต๋อม" ลงไปในถ้วยกาแฟ

กระฉอกขึ้นมาโดนโทรศัพท์มือถือจนเปียกเลอะเทอะไปหมด..ซวยเจงๆ!!!

Thursday, November 24, 2011

การปฐมพญายมเบื้องต้น

การปฐมพญายมเบื้องต้น


สองหนุ่มขณะกำลังซ้อนแมงกะไซค์ห้อตะบึงบนถนนในชนบทแห่งหนึ่ง

แล้วจู่ๆไอ้หนุ่มคนขับก็เบาเครื่องยนต์ลงและโฉบเข้าจอดข้างทาง ปรากฏว่า

เก่งของเขาเกิดซิปแตกดังโพล๊ะ ทำให้เสื้อมันเปิดต้านลม พัดกระพือ

ดังอีแร้งกระพือปีก พั่บๆๆๆ.

ไอ้หนุ่มคนขับ : "ฉันขับไปต่อไม่ได้ ลมมันตีหน้าอกฉันว่ะ"

เพื่อน : "นายถอดแจ๊กเก็ตออกมา แล้วใส่กลับ เอาซิปไปไว้ข้างหลังสิ"

เมื่อเสร็จสรรพ พวกเขาก็ห้อตะบึงเจ้าแมงกะไซค์ต่อไป ด้วยความเร็วแรงแซงทะลุนรก

และแล้ว เมื่อมาถึงทางโค้งแจ้งมรณะ เหมือนฟ้าบันดาล

พวกเขาแหกโค้งตีลังกาหลายตะหลบลงไปนอนโก้งโค้งอยู่ข้างทาง

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด คนดี ผีย่อมคุ้มครองคนดี ผีคุ้ม ช่างบังเอิญ

ผ่านมาเจอเข้าพอดี จึงรีบวิ่งไปโทรแจ้ง 911

ตำรวจ :: "พวกเขาตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ.. ยังโอ.เค.ใช่มั้ยครับ?"

แจ๊ค :: "เอ้อ..คนขับ..เมื่อกี้ยังโอ.เค.นะครับ.ยังหายใจอยู่..แต่พอผมช่วยบิดหัวเค้า ให้กลับไป

ข้างหน้าเรียบร้อย ตอนนี้เค้าเงียบไปแล้วครับ!! ..แหะๆๆ

คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด

คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด


ลูกค้าชายร่างล่ำบึ้กที่พูดติดอ่างอย่างรุนแรงคนหนึ่ง ได้เดินไปที่เคาน์เตอร์ แล้วถามว่า

"ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆ-ผู้ๆ-ชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"

พนักงานที่เคาน์เตอร์จ้องมองเขาแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร

ลูกค้าคนนั้น ก็ถามซ้ำอีกหลายครั้งว่า

"ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆ-ผู้ๆ-ชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"

พนักงานคนนั้นก็ไม่ยอมตอบ จนท้ายที่สุด ลูกค้าคนนั้นก็โมโหเดือดปุดๆ
และปึงปังเดินออกจากห้างไป

ลูกค้าที่ยืนเข้าคิวต่อจากชายคนนั้น ก็เอ่ยถามพนักงาน

"ทำไมถึงไม่ยอมตอบที่เขาถามล่ะ?"

พนักงาน

"คะๆๆ-คุณ-คิๆๆ-คิด-ว่า-ผะๆๆ-ผม-อยาก-จะ-หะ-หาเรื่อง-โดๆๆ-โดน-ชก-รึๆ-ไง?"

Friday, November 18, 2011

มะพร้าวหล่นไม่ไกลต้น

มะพร้าวหล่นไม่ไกลต้น

ณ.งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง สุภาพสตรีสูงอายุคนหนึ่ง ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรม
ของเด็กวัยรู่นในยุคนี้ว่า

สุภาพสตรี : "ดูแม่สาวน้อยคนนั้นสิ ไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงสมัยนี้เค้าเป็นอะไรกันนะ ดูสิ..เธอใส่กางเกงยีนส์ของเด็กผู้ชาย, เสื้อเชิ้ทก็ของเด็กผู้ชาย แล้วตัดผมตัดเผ้าก็หยั่งกะเด็กผู้ชายเด๊ะ
ถ้าไม่บอก คุณก็ไม่มีทางรู้ได้เลย ว่านั่นน่ะ เป็นเด็กผู้หญิง..คุณว่ามั้ย?"

คู่สนทนา : "อืม..ฉันว่าฉันรู้นะ เพราะนั่นน่ะ คือลูกสาวของฉันเอง"

สุภาพสตรี : "อ้าว..เหรอ..ขอโทษนะคะ..ฉันไม่รู้ว่าคุณน่ะเป็นพ่อ"

คู่สนทนา : "ฉันไม่ใช่พ่อ..ฉันเป็นแม่ย่ะ "

นกมหัศจรรย์

นกมหัศจรรย์

สุภาพสตรีผู้ซึ่งเป็นมารดาของชายหนุ่มคนหนึ่ง พำนักอาศัยอยู่ในเมืองลากูน่าบีช
ผู้เป็นบุตรชายก็ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยนัก ผู้เป็นบิดา ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ลูกชายนั้นกลัวว่าแม่จะเหงา เมื่อถึงวันเกิดของผู้เป็นแม่ ลูกชายจึงได้หาซื้อนกแก้วชั้นดี
ให้ตัวหนึ่ง เจ้านกตัวนี้ได้รับการฝึกฝนให้พูดได้ถึงเจ็ดภาษา เขาได้ให้พนักงานส่งของนำมันไปมอบให้แก่ผู้เป็นมารดา หลังจากนั้น 2-3วัน เขาก็โทรไปถามข่าวคราว

ชายหนุ่ม :"คุณแม่ครับ เจ้านกน้อยเป็นยังไงบ้าง?"

มารดา :"มันก็ดีหรอกนะ แต่เนื้อมันค่อนข้างจะเหนียวไปหน่อย แม่น่าจะอบให้มันเปื่อย
กว่านั้นอีกสักนิด"

ชายหนุ่ม : "พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง! คุณแม่กินมันเหรอครับ..โธ่ถังกะละมังแตก เจ้านกนั่นน่ะ
มันแพงสุดๆเลยนะครับ..ขอบอก มันพูดได้ตั้งเจ็ดภาษาแน่ะ.!..โธ่ๆๆ"

มารดา : "อ้าว!..แม่ขอโทษ..ถ้ามันฉลาดอย่างที่ว่า..ทำไมไม่เห็นมันพูดอะไรเลยล่ะ
อีตอนที่แม่จับมันยัดเข้าเตาอบ?"

Thursday, November 17, 2011

โอ๊ย!..จะบ้าตาย

โอ๊ย!..จะบ้าตาย

สาวผมบลอนด์ที่ดูี่อ่อนระโหยโรยแรงคนหนึ่ง ค่อยๆลากสังขารที่กะปลกกะเปลี้ย
ไปพบคุณหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง

สาวบลอนด์ : "คุณหมอคะ คือว่ายังงี้นะคะ แถวๆบ้านของดิฉัน มันมีหมาเยอะแยะเต็มไปหมด พวกมันเห่าหอนกันทั้งกลางวันกลางคืน จนฉันนั้นไม่เป็นอันหลับอันนอนเลยละค่า"

คุณหมอ :"เรื่องแค่นี้สบายมาก" ว่าแล้วคุณหมอก็ล้วงลงไปค้นหายาในลิ้นชัก
"อะฮ้า! นี่ไง ยานอนหลับชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมาก แค่ไม่กี่เม็ด
ปัญหาของคุณ ก็เป็นอันจบ"

สาวบลอนด์ : "แหม..ดีจังเลยค่ะ อะไรก็เอามาเถอะค่ะ ดิฉันจะลองดู"

หลังจากนั้น 2-3สัปดาห์ แม่สาวผมบลอนด์คนนั้นก็กลับมา่ เธอดูโทรมยิ่งกว่าเดิม

สาวบลอนด์ :"คุณหมอคะ วิธีของคุณ ไม่ได้ผลค่ะ ดิฉันยิ่งแย่หนักกว่าเดิมค่ะ!"

คุณหมอ :"อืม..มันยังไงกันนะ" คุณหมอส่ายหัวง่อกแง่กด้วยความไม่เข้าใจ
"ที่ผมให้ไปน่ะ เป็นยานอนหลับที่แรงที่สุดเลยนะครับ !"

สาวบลอนด์ : "นั่นก็อาจจะจริงค่ะ" เธอตอบอย่างเซ็งในอารมณ์
แต่ฉันก็ยังต้องอดหลับอดนอนตลอดทั้งคืน วิ่งไล่จับเจ้าพวกหมาบ้าเหล่านั้น
แล้วพอจับได้ตัวหนึ่ง ก็ต้องปล้ำเอายายัดใส่ปากมัน..กว่ามันจะกลืนลงไป..
โอ๊ย!..จะบ้าตาย"

เด็กเอ๋ย เด็กดี

เด็กเอ๋ย เด็กดี

มิสซิส บราวน์ คุณครูประจำชั้นเกรด 4 ได้ถามนักเรียนในชั้นของเธอว่า
มีใครบ้างที่คิดว่าตัวเองนั้นโง่ ถ้ามี ขอให้ยืนขึ้น

ปรากฏว่ามีเพียงเจ้าหนูโทนี่คนเดียวเท่านั้นที่ยืนขึ้น

มิสซิสบราวน์ : "โทนี่ เธอคิดว่าเธอโง่เหรอ?"

โทนี่ : "เปล่าครับ คือว่าผม ไม่อยากให้คุณครูต้องยืนคนเดียวครับ"

ชาวประมง

ชาวประมง

ชาวประมงคนหนึ่ง ขณะเมื่อมาถึงริมฝั่งแม่น้ำเพื่อที่จะตกปลา ก็ปรากฏว่า
เขาได้ลืมเอาเหยื่อมา พอดีเขาเหลือบไปเห็นเจ้างูน้อย ซึ่งเพิ่งจะจับไส้เดือนได้ตัวหนึ่ง
เลื้อยผ่านมา

ชาวประมงตะปบเอาเจ้างูน้อยขึ้นมาแล้วก็แย่งเอาไส้เดือนไป เขารู้สึกเสียใจที่ไปแย่ง
อาหารกลางวันของมัน เขาจึงคว้าเอามันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
แล้วก็กรอกเบียร์ลงไปในปากมันนิดหนึ่ง แล้วจึงเดินไปตกปลา
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ชาวประมงคนนั้นก็รู้สึกเหมือนมีใครมากระตุกขากางเกง
เมื่อก้มลงมองดู เขาเห็นเจ้างูน้อย คาบไส้เดือนมาให้อีกสามตัว

Wednesday, November 16, 2011

ตามมาเลยพวก

ตามมาเลยพวก

ค้างคาวดูดเลือดตัวหนึ่งกลับจากการออกหากิน บินกลับมายังถ้ำที่อาศัย
ร่างของมันนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือดสดๆ มันบินโฉบขึ้นไปเกาะที่เพดานถ้ำเพื่อที่จะนอน

ในไม่ช้า ค้างคาวตัวอื่นๆก็ได้กลิ่นคาวเลือด และอยากจะไปกินบ้าง
พวกมันก็เข้ามามะรุมมะตุ้มถามว่า ไปเจอแจ๊คพอท ณ ที่ใด

เจ้าตัวแรกก็บอกพรรคพวกให้ออกไปห่างๆ เพราะว่ามันนั้นอยากจะนอน
พวกเพื่อนๆก็ไม่ยอม รบเร้าเซ้าซี้ จนในที่สุด เจ้าตัวแรกก็ต้องยอมแพ้

เจ้าตัวแรก : "โอเค พวกแกบินตามฉันมานะ" ว่าแล้วมันก็โผบินออกไป
โดยมีพรรคพวกบินตามไปเป็นร้อย

มันบินผ่านหุบเขา ข้ามแม่น้ำ เข้าสู่ป่าใหญ่

แล้วในที่สุดเจ้าตัวแรกก็ลดความเร็วลง พรรคพวกก็บินเข้ามารุมล้อมกระดี๊กระด๊าด้วยความตื่นเต้น

เจ้าตัวแรก : "เอาละ พวกแกเห็นต้นไม้ต้นนั้นมั้ย"

เพื่อนๆก็ร้องบอกว่า : "เห็นสิ เห็นๆๆๆ"

เจ้าตัวแรก : "เห็นก็ดีแล้ว!..ตอนนั้นฉันไม่เห็นว่ะ"

นางฟ้าประจำตัว

นางฟ้าประจำตัว

ชายคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินไปตามถนน เขาก็ได้ยินเสียงเตือนว่า

"หยุด! แล้วยืนนิ่งๆ ถ้าคุณเดินไปอีกก้าวหนึ่งละก็ จะมีอิฐก้อนหนึ่งหล่นลงมาบนหัวคุณ และคุณก็จะตาย"

เขาก็หยุดเดิน ทันใดนั้นก็มีอิฐขนาดยักษ์ก้อนหนึ่งหล่นลงมาตรงหน้าเขา ชายหนุ่มถึงกับตะลึง

เขาก้าวเดินต่อไป สักพักหนึ่ง จังหวะที่เขานั้นกำลังจะข้ามถนน ก็มีเสียงร้องเตือนให้ได้ยินอีกครั้งหนึ่งว่า

"หยุด! แล้วยืนนิ่งๆ ขืนเดินไปอีกก้าวเดียวละก็ คุณจะโดนรถทับตาย"

ชายหนุ่มก็ทำตาม ทันใดนั้น ก็มีรถคันหนึ่งเลี้ยวฟ้าบออกมาด้วยความเร็ว เฉียดร่างชายหนุ่มไปแค่เพียงนิดเดียว

ชายหนุ่ม : "คุณอยู่ที่ไหน?""คุณเป็นใครครับ?"

มีเสียงตอบว่า : "ฉันก็คือ นางฟ้าประจำตัวของเธอไงล่ะ"

ชายหนุ่ม : "อ๋อเหรอ แล้วอีตอนที่ฉันแต่งงาน เธอไปซุกหัวอยู่ที่ไหนจ๊ะ?"

Tuesday, November 15, 2011

การสนทนาของสามเฒ่า

การสนทนาของสามเฒ่า

ชายชราสามคน นั่งพูดคุยกันถึงเรื่องความยากลำบากของวัยชราอยู่บนบันได
ของสถานพักฟื้นคนชราแห่งหนึ่ง

ชายอายุหกสิบ : "อายุหกสิบนั้นโหดที่สุด คุณจะรู้สึกปวดฉี่อยู่ตลอดเวลา พอคุณจะฉี่
ก็ดันฉี่ไม่ออก!"

ชายอายุเจ็ดสิบ : "เฮ้ยยย!.ไม่เห็นมีอะไรเลย ลองเจ็ดสิบอย่างฉันสิ คุณจะอึ๊ไม่ออก
คุณกินยาถ่ายเข้าไปก็แล้ว กินกล้วยก็แล้ว คุณนั่งอยู่บนโถส้วมทั้งวัน ยังไงๆก็อึ๊ไม่ออก"

ชายอายุแปดสิบ : "ถ้าจะให้พูดกันจริงๆละก็ แปดสิบนี่แหละโหดที่สุด"

ชายอายุหกสิบ : "คุณฉี่ไม่ออกเหมือนกันเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ : "ก็ไม่นะ ฉันฉี่ตรงเวลาตอนหกโมงเช้าทุกวัน ฉี่พุ่งออกมาหยั่งกะม้าแข่งแน่ะ ไม่มีปัญหาอะไร"

ชายอายุเจ็ดสิบ : "คุณอึ๊ไม่ออกเหมือนฉันเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ : "เปล่านะ ก็อึ๊ออกมาสบายๆ ตรงเวลาทุกเช้า หกโมงครึ่งเป๊ะ"

ชายอายุหกสิบฟังแล้วชักมึน จึงกล่าว : "เดี๋ยวๆๆๆ..อะไรนะ..คุณฉี่ทุกเช้าตอนหกโมง และก็ถ่ายทุกเช้าตอนหกโมงครึ่ง แล้วไอ้อายุแปดสิบเนี่ย มันยากลำบากตรงไหนเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ : "ฉันจะหลับไม่รู้เรื่อง จนกว่าจะถึงสิบโมงของทุกวัน
พร้อมทั้งเลอะเทอะไปหมดทั้งตัวเลย"

หูตึงหรือเปล่า

หูตึงหรือเปล่า

ชายชราคนหนึ่งเกิดมีความสงสัยว่า ภรรยาของเขานั้นหูตึงหรือไม่
ดังนั้น คืนวันหนึ่ง เขาก็ลองทดสอบดู โดยการแอบเข้าไปยืนอยู่ห่างๆ ข้างหลังเธอ
ขณะที่เธอนั้นกำลังนั่งสบายอารมณ์อยู่บนเก้าอี้

ชายชราถามเธอเบาๆ :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ"

เขาไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ

ชายชราขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วถามอีกครั้ง :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ"

เขาก็ยังคงไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ

ชายชราก็เลยขยับเข้าประชิด แล้วถามอีกครั้ง :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ"

ภรรยา :: "ฉันตอบเธอเป็นครั้งที่สามแล้วนะว่า "ได้ยินจ้า" "

Thursday, November 10, 2011

หน้าผาวิเศษ

หน้าผาวิเศษ

วันหนึ่งชายสามคนได้พากันเดินทางไปยังหน้าผาวิเศษ อิทธิฤทธิ์หรือความวิเศษของหน้าผานี้
ก็คือว่า เพียงแค่คุณวิ่งไปที่ริมหน้าผา แล้วกระโดดลงมาพร้อมร้องตะโกนขานชื่อ
สิ่งที่คุณอยากจะเป็น คุณก็จะได้เป็นสมดั่งใจปราถนา
ชายคนแรกออกสตาร์ท กระโจนแล้วร้องตะโกนว่า "นก" เขาก็กลายร่างเป็นนก
แล้วโผผินบินไปในอากาศ
ชายคนที่สองออกวิ่งแล้วกระโดดลงมาพร้อมร้องตะโกนว่า "ปลา"
เขาก็กลายร่างเป็นปลาโลมาแหวกว่ายไปในมหาสมุทร
ชายคนที่สามออกวิ่งสุดฝีเท้า เกิดไปสะดุดเอาท่อนไม้ จึงร้องอุทานออกมาว่า
"เชียท" และในทันใดนั้น
เขาก็กลายร่างเป็นขี้กองโตกองหนึ่งอย่างน่าอัศจรรย์เป็นยิ่งนัก

ร่วมไว้อาลัย

ร่วมไว้อาลัย

ชายคนหนึ่งได้ไปร่วมงานศพทนายของเขา และรู้สึกประหลาดใจที่มีคนมามากมาย
เขาก็ลองหันไปถามผู้คนที่มาร่วมงานว่า:

"ทำไมพวกคุณถึงได้แห่กันมามากมายแบบนี้?"

ชายคนหนึ่ง : "พวกเราล้วนเป็นลูกความของเขา"

ชายคนแรก : "พวกคุณคงมาแสดงความเคารพศพสินะ อืม..ช่างน่าประทับใจอะไรยังงี้"

ชายคนนั้น : "ไม่ใช่หรอก..พวกเรามาดูให้แน่ใจ ว่ามันน่ะ ตายแล้วจริงๆ"

Wednesday, November 9, 2011

ลาก่อนครับ แม่

ลาก่อนครับ แม่

ชายหนุ่มคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินซื้อของอยู่ในซุปเปอร์มาเก็ต เขาสังเกตเห็นหญิงชรา
คนหนึ่ง เดินตามเขาตลอดเวลา ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดอะไร เขาก็หยิบสินค้าที่ต้องการ
แล้วเดินไปเข้าแถวที่ช่องจ่ายเงิน แต่ปรากฎว่าหญิงชราคนนั้น ได้ไปยืนเข้าแถวอยู่ก่อนแล้ว

หญิงชรา : "ขออภัยนะพ่อหนุ่ม ถ้าการที่ฉันจ้องมองเธอ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดละก็
เป็นเพราะว่าเธอนั้น มีหน้าตาเหมือนกับลูกชายของฉันที่เพิ่งเสียไปเมื่อไม่นานมานี้"

ชายหนุ่ม : "เสียใจด้วยนะครับ คุณป้ามีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ?"

หญิงชรา : "มีสิจ๊ะ..ตอนที่ฉันจะเดินจากเธอไป เธอช่วยพูดว่า"ลาก่อนครับแม่.!"ได้มั้ย?"
"นั่นจะช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากๆเลยละพ่อหนุ่ม"

ชายหนุ่ม :"ได้ครับ"

เมื่อหญิงชรารับเอาถุงบรรจุสินค้าข้าวของที่เธอซื้อแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มก็ร้องบอกเธอว่า
"ลาก่อนครับแม่.!" เมื่อถึงคิวที่เขานั้นจะต้องชำระค่าสินค้า ปรากฎว่ายอดบิลของเขานั้น
เป็นเงินสูงถึง 280 เหรียญ ชายหนุ่มก็โวยลั่น : "เป็นไปได้ยังไง?..ผมซื้อของจิ๊บจ๊อย
แค่2-3อย่างเท่านั้น!"

แคชเชียร์ : "คุณแม่ของคุณบอกว่า คุณจะเป็นคนจ่ายส่วนของเธอด้วย"

สุดยอดหญิงผู้เสียสละ

สุดยอดหญิงผู้เสียสละ

คนสิบเอ็ดคนโหนเชือกห้อยต่องแต่งอยู่ใต้ท้องเฮลิคอปเตอร์ซึ่งลอยอยู่บนอากาศ
เป็นชายสิบคนและหญิงคนหนึ่ง เชือกที่พวกเขาห้อยโหนอยู่นั้นทำท่าว่าจะขาด
ทุกคนเห็นตรงกันว่า พวกเขาคนหนึ่งจะต้องสละชีวิตมิฉะนั้นจะตายกันทั้งหมด
แต่ก็ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นคนคนนั้น และแล้วฝ่ายหญิงได้พูดขึ้นว่า
เธอจะขอเป็นคนที่จะปล่อยมือจากเชือกก็แล้วกัน เนื่องจากเธอนั้นเป็นผู้หญิง
ซึ่งปกติก็มักจะเป็นผู้ที่ต้องคอยเสียสละเพื่อสามีและลูกๆเป็นประจำอยู่แล้วโ
ดยมิได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
ทันทีที่เธอพูดจบ ชายทั้งสิบคนก็ตบมือให้ด้วยความซาบซึ้งใจ

Tuesday, November 8, 2011

เรื่องที่อยากได้ยิน

เรื่องที่อยากได้ยิน

สามสหายได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ วิญญาณก็ล่องลอยไปยังประตูสวรรค์

ณ.ที่นั้น เซนต์ ปีเตอร์ ได้ขอให้พวกเขาตอบปัญหาข้อหนึ่ง

"เมื่อตอนที่พวกคุณนอนหงิกอยู่ในโลงและมีเพื่อนฝูง, ญาติโยมมาร้องห่มร้องไห้แสดงความเสียใจนั้น คุณอยากได้ยินพวกเขาพูดถึงคุณว่ายังไง?"

ชายคนแรก:"ผมอยากได้ยินพวกเขาพูดว่า ผมนั้นเป็นหมอที่เก่งกาจและเป็นคนที่รักครอบครัวมาก"

ชายคนที่สอง:"ผมอยากได้ยินพวกเขาพูดว่าผมนั้นเป็นสามีที่ประเสริฐและเป็นครูที่ดีของเด็กๆและเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดพัฒนาการที่สำคัญยิ่งในเด็กรุ่นใหม่"

ชายคนที่สาม:"ผมอยากได้ยินพวกเขาพูดว่า "เฮ้ย! ดูสิ..เขาฟื้นแล้ว

Wednesday, November 2, 2011

ฝรั่งเขียน

ฝรั่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องมาเที่ยวกรุงเทพฯ ในหนังสือถาม รู้ไหมว่า ขณะที่คนไทยกินอาหารอยู่นั้น เขาคิดอะไรอยู่ มีเพื่อนคนไทยทำงานในสถานทูตประเทศอาฟริกันแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ข้าราชการของสถานทูตนั้นถามเพื่อนว่า เมืองไทยมีบันไดไฟฟ้าเลื่อนด้วยหรือ

เรื่องแปลก ๆ ที่คนต่างชาติเค้าเจอที่ไทยมีอะไรบ้าง

- เป็ปซี่ใส่น้ำแข็งใส่ถุง

- ช้างเดินเล่นกลางถนน ตำรวจไม่จับ

- คนไทย ทำไมต้องมีชื่อเล่น

- มีเพื่อนอเมริกันมาเที่ยวเมืองไทย ตอนเห็นข้าวหลามครั้งแรก
เอามือป้องปาก ตกใจ Oh My God !!!!! ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้
ข้าวหลามกระบอกเดียวถ่ายรูปมันทุกมุม ตื่นเต้นกว่าถูกล็อตโต้เสียอีก

- เอาปลาเน่ามาทอดกิน เหม็นตลบไป 3 บ้าน

- กระดาษสำหรับใช้เช็ดดาก เอามาใช้เช็ดปากก็ได้ด้วย

- ร้านอาหารจัดวางกระโถนไว้ใต้โต๊ะ ฝรั่งถามว่ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม

- บ้านมีศาลพระภูมิ ฝรั่งถาม บ้านหลังเล็กๆหน้าบ้าน เอาไว้ให้อะไรอยู่

- อาหารข้างทาง ริมถนน หาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

- กินผลไม้จิ้มเกลือ กินก๋วยเตี๋ยวแล้วใส่น้ำตาล

- คนไทยจูงมือคนแก่กับเด็ก ๆ ข้ามถนน, ลุกให้คนแก่นั่ง ... ฝรั่งเห็นแล้วซึ้ง

- ข้ามถนน ตรงไหนก็ได้

- ผู้ใหญ่ตีเด็ก ฝรั่งเห็นแม่ค้าที่ตลาดจตุจักรตีก้นลูกผลั๊ว ๆ ฝรั่งตกใจตาค้างเลย

- ละครไทย ทำไมตัวละครหญิงต้องทำเสียงแปร๋น ๆ พร้อมกับทำตาเถลือกถลน

- คนไทยกินกันทั้งวันทั้งคืน กินได้ทุกที่ ไปที่ไหนๆ ก็มีอาหารขายข้างทางทั่วประเทศไทย

- อาหารเช้า กลางวัน เย็น เหมือนกันหมดใครอยากกินตอนไหน อยากกินอะไรก็กิน

- ทำไมคนไทยชอบกินอาหารนก ( เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแตงโม )

- มีเพื่อนเคยถามว่ เธอไปโรงเรียนยังไง มีรถขับรึเปล่า
เราก็ตอบเขาไป มีรถ แล้วเพื่อนถามกลับมาพร้อมทำตาโต
จริงเหรอ เรานึกว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียน แป่ว..=__=

-
เพื่อนฝรั่งได้ยินพระสวดงานทำบุญบ้าน ถามว่าทำไมต้องให้คนเหล่านี้มาร้องเพลง

- ละครพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทอง สามีชอบดู ทั้งที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
ถามว่า-ทำไมเด็กหญิงคนนั้นรักต้นมะเขือเทศ พอถูกตัด มะเขือเทศร้องไห้เสียงดัง
ดิฉัน ตอบว่า- เพราะมะเขือเทศเคยเป็นแม่ของเด็ก ก่อนหน้านั้นเป็นคนจริงๆ
พอแม่ตายกลายเป็นปลาทอง ถูกจับกินทิ้งก้างไว้เลยกลายเป็นมะเขือ
เดี๋ยวยูดูนะ ต่อไปมะเขือจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ มีใบเป็นสีเงินสีทองด้วยแหละ
นี่ยังเล่าไม่จบเลยนะว่าเด็กหญิงโตขึ้นถูกนางอิจฉาฆ่าตาย แล้วกลายเป็นนกแขกเต้า!

- ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านการทำนาที่แปลกมาก
(
คือพัฒนาได้ช้านั่นเอง) ทั้งๆที่เป็นอาชีพประจำประเทศ
อันนี้เทียบกับญี่ปุ่นคือ สมัยก่อนญี่ปุ่นมีปัญหาขาดแคลนข้าวอย่างหนัก
จนต้องนำเข้าข้าวของไทย แต่พี่ไทยพอเห็นเงินก้อนใหญ่ดันโลภ เอาข้าวปลอมปนไปขายให้เค้า
เค้าเลยไม่ยอมซื้อข้าวกับเราอีกเลย หลังจากนั้นญี่ปุ่นเลยทำนาเอง
เค้าสามารถทำนาได้สุดยอดมากๆ สามารถเกี่ยวข้าวทั้งไร่ได้ภายในวันเดียว เป็นระเบียบมาก
และสามารถสั่งข้าวผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ผุ้บริโภคสามารถซื้อข้าวกับชาวนาได้โดยตรง (ขอย้ำว่าสามารถจัดการได้ใน 1 วัน)

- ทามมายโคนทายชอบขี้.. ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้บ่น ขี้โม้ ขี้เห่อ ขี้อิจฉา ขี้มูก ขี้ตา ขี้เหม็น etc....
เอะอะ อะไรก็ขี้ๆๆๆๆๆ ...shit this shit that all the time

-
ผู้ชายเจ้าชู้จะโดนภรรยาตัดอวัยวะเพศ แล้วจะขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1

-
คนไทยรักพระมหากษัตริย์มาก ฝรั่งตกใจว่าไม่คิดว่ าคนไทยจะรักพระมหากษัตริย์มากถึงเพียงนี้

- ชาวมาเลย์ตกใจมากที่เห็นคนไทยเอารถราคาเป็นล้านมาทำ Taxi นั่งแล้ว ไม่อยากลง

- ใส่เสื้อผ้าเต็มสูบเล่นน้ำทะเล น้ำตก

- ฝรั่งงงกับภาษาของกระเป๋ารถเมล์มากคือคำว่าไป-ป้าย มันออกเสียงเหมือนกัน
ทำไมคำนึงรถถึงจอด กับอีกคำรถถึงวิ่งออกไป ฝรั่งฟังแล้วงงว่ามันคำเดียวไม่ใช่เหรอ

- ร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมมีทั้งบนบกกับในเรือ คือทำไมบางร้านขายบนบกต้องเอาเรือมาจอด
แล้วทำไมคนขายต้องไปนั่งขายในเรือด้วยทั้งๆ ที่อยู่บนบกแท้ๆ

- ฝรั่งงงบางวันมีคนใส่เสื้อสีชมพูเยอะแยะไปหมด

- ทำไมเวลาขึ้นรถไฟฟ้าประเทศไทยแล้วเดินไปแลกเหรียญที่เคาน์เตอร์
ถึงซื้อตั๋วที่นั่นเลยไม่ได ต้องแลกเป็นเหรียญแล้วเดินกลับมาหยอดอีก

- ฝรั่งงงคนไทยนิสัยประหลาดผลไม้ไม่สุกก็เอามากิน เช่น มะม่วง

- คนเยอรมันประทับใจห้างในกรุงเทพฯ เปิดทุกวัน

- คนญี่ปุ่นตกใจมากกับคำว่า "กินเล่นๆ" บอกว่าคนไทยกินตลอดเวลาเลย
ถามว่ากินทำไม ..?บอกว่ากินเล่น ตกใจมากเพราะที่ญี่ปุ่นไม่มีกินเล่นๆ มีแต่กินจริงจัง

- สาววัยรุ่นชาวฮอลแลนด์มาอยู่แถวอ.นาแก จ.นครพนม ไม่ยอมกลับบ้าน
แม่ตามให้กลับบ้านเท่าไรก็ไม่กลับบอกว่ากลับไปบ้านก็ไม่มีอะไรกิน หนาวก็หนาว
อยู่นี่มีกินทั้งปี อยากกินอะไรดึกแค่ไหนก็เดินออกมาซื้อกินได้ตลอด ผลไม้มีกินทั้งปี
กลับบ้านไปมีกินแต่หน้าร้อน ดอกไม้ก็บานทั้งปี ไม่ใช่ได้ดูแค่หน้าร้อนแบบบ้านเขา

- นักร้องคลิสตี้ติดอาหารไทยจนกลับไปบ้านเยี่ยมปู่ยา ต้องพกมาม่าไปด้วยเพราะ
กินอาหารบ้านตัวเองไม่ได้ มันเลี่ยนนมเนย

- ทำไมคนไทยชอบชวนกินข้าว

- เวลาเล่นเน็ตคนไทยชอบพิมพ์ "555+"

ฝรั่งเขียน

ฝรั่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องมาเที่ยวกรุงเทพฯ ในหนังสือถาม รู้ไหมว่า ขณะที่คนไทยกินอาหารอยู่นั้น เขาคิดอะไรอยู่ มีเพื่อนคนไทยทำงานในสถานทูตประเทศอาฟริกันแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ข้าราชการของสถานทูตนั้นถามเพื่อนว่า เมืองไทยมีบันไดไฟฟ้าเลื่อนด้วยหรือ

เรื่องแปลก ๆ ที่คนต่างชาติเค้าเจอที่ไทยมีอะไรบ้าง

- เป็ปซี่ใส่น้ำแข็งใส่ถุง
-
ช้างเดินเล่นกลางถนน ตำรวจไม่จับ
-
คนไทย ทำไมต้องมีชื่อเล่น
-
มีเพื่อนอเมริกันมาเที่ยวเมืองไทย ตอนเห็นข้าวหลามครั้งแรก
เอามือป้องปาก ตกใจ Oh My God !!!!! ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้
ข้าวหลามกระบอกเดียวถ่ายรูปมันทุกมุม ตื่นเต้นกว่าถูกล็อตโต้เสียอีก
-
เอาปลาเน่ามาทอดกิน เหม็นตลบไป 3 บ้าน
-
กระดาษสำหรับใช้เช็ดดาก เอามาใช้เช็ดปากก็ได้ด้วย
-
ร้านอาหารจัดวางกระโถนไว้ใต้โต๊ะ ฝรั่งถามว่ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม
-
บ้านมีศาลพระภูมิ ฝรั่งถาม บ้านหลังเล็กๆหน้าบ้าน เอาไว้ให้อะไรอยู่
-
อาหารข้างทาง ริมถนน หาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
-
กินผลไม้จิ้มเกลือ กินก๋วยเตี๋ยวแล้วใส่น้ำตาล
-
คนไทยจูงมือคนแก่กับเด็ก ๆ ข้ามถนน, ลุกให้คนแก่นั่ง ... ฝรั่งเห็นแล้วซึ้ง
-
ข้ามถนน ตรงไหนก็ได้
-
ผู้ใหญ่ตีเด็ก ฝรั่งเห็นแม่ค้าที่ตลาดจตุจักรตีก้นลูกผลั๊ว ๆ ฝรั่งตกใจตาค้างเลย
-
ละครไทย ทำไมตัวละครหญิงต้องทำเสียงแปร๋น ๆ พร้อมกับทำตาเถลือกถลน
-
คนไทยกินกันทั้งวันทั้งคืน กินได้ทุกที่ ไปที่ไหนๆ ก็มีอาหารขายข้างทางทั่วประเทศไทย
-
อาหารเช้า กลางวัน เย็น เหมือนกันหมดใครอยากกินตอนไหน อยากกินอะไรก็กิน
-
ทำไมคนไทยชอบกินอาหารนก ( เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแตงโม )
-
มีเพื่อนเคยถามว่ เธอไปโรงเรียนยังไง มีรถขับรึเปล่า
เราก็ตอบเขาไป มีรถ แล้วเพื่อนถามกลับมาพร้อมทำตาโต
จริงเหรอ เรานึกว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียน แป่ว..=__=
-
เพื่อนฝรั่งได้ยินพระสวดงานทำบุญบ้าน ถามว่าทำไมต้องให้คนเหล่านี้มาร้องเพลง
-
ละครพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทอง สามีชอบดู ทั้งที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
ถามว่า-ทำไมเด็กหญิงคนนั้นรักต้นมะเขือเทศ พอถูกตัด มะเขือเทศร้องไห้เสียงดัง
ดิฉัน ตอบว่า- เพราะมะเขือเทศเคยเป็นแม่ของเด็ก ก่อนหน้านั้นเป็นคนจริงๆ
พอแม่ตายกลายเป็นปลาทอง ถูกจับกินทิ้งก้างไว้เลยกลายเป็นมะเขือ
เดี๋ยวยูดูนะ ต่อไปมะเขือจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ มีใบเป็นสีเงินสีทองด้วยแหละ
นี่ยังเล่าไม่จบเลยนะว่าเด็กหญิงโตขึ้นถูกนางอิจฉาฆ่าตาย แล้วกลายเป็นนกแขกเต้า!
-
ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านการทำนาที่แปลกมาก
(
คือพัฒนาได้ช้านั่นเอง) ทั้งๆที่เป็นอาชีพประจำประเทศ
อันนี้เทียบกับญี่ปุ่นคือ สมัยก่อนญี่ปุ่นมีปัญหาขาดแคลนข้าวอย่างหนัก
จนต้องนำเข้าข้าวของไทย แต่พี่ไทยพอเห็นเงินก้อนใหญ่ดันโลภ เอาข้าวปลอมปนไปขายให้เค้า
เค้าเลยไม่ยอมซื้อข้าวกับเราอีกเลย หลังจากนั้นญี่ปุ่นเลยทำนาเอง
เค้าสามารถทำนาได้สุดยอดมากๆ สามารถเกี่ยวข้าวทั้งไร่ได้ภายในวันเดียว เป็นระเบียบมาก
และสามารถสั่งข้าวผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ผุ้บริโภคสามารถซื้อข้าวกับชาวนาได้โดยตรง (ขอย้ำว่าสามารถจัดการได้ใน 1 วัน)
-
ทามมายโคนทายชอบขี้.. ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้บ่น ขี้โม้ ขี้เห่อ ขี้อิจฉา ขี้มูก ขี้ตา ขี้เหม็น etc....
เอะอะ อะไรก็ขี้ๆๆๆๆๆ ...shit this shit that all the time
-
ผู้ชายเจ้าชู้จะโดนภรรยาตัดอวัยวะเพศ แล้วจะขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1
-
คนไทยรักพระมหากษัตริย์มาก ฝรั่งตกใจว่าไม่คิดว่ าคนไทยจะรักพระมหากษัตริย์มากถึงเพียงนี้
-
ชาวมาเลย์ตกใจมากที่เห็นคนไทยเอารถราคาเป็นล้านมาทำ Taxi นั่งแล้ว ไม่อยากลง
-
ใส่เสื้อผ้าเต็มสูบเล่นน้ำทะเล น้ำตก
-
ฝรั่งงงกับภาษาของกระเป๋ารถเมล์มากคือคำว่าไป-ป้าย มันออกเสียงเหมือนกัน
ทำไมคำนึงรถถึงจอด กับอีกคำรถถึงวิ่งออกไป ฝรั่งฟังแล้วงงว่ามันคำเดียวไม่ใช่เหรอ
-
ร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมมีทั้งบนบกกับในเรือ คือทำไมบางร้านขายบนบกต้องเอาเรือมาจอด
แล้วทำไมคนขายต้องไปนั่งขายในเรือด้วยทั้งๆ ที่อยู่บนบกแท้ๆ
-
ฝรั่งงงบางวันมีคนใส่เสื้อสีชมพูเยอะแยะไปหมด
-
ทำไมเวลาขึ้นรถไฟฟ้าประเทศไทยแล้วเดินไปแลกเหรียญที่เคาน์เตอร์
ถึงซื้อตั๋วที่นั่นเลยไม่ได ต้องแลกเป็นเหรียญแล้วเดินกลับมาหยอดอีก
-
ฝรั่งงงคนไทยนิสัยประหลาดผลไม้ไม่สุกก็เอามากิน เช่น มะม่วง
-
คนเยอรมันประทับใจห้างในกรุงเทพฯ เปิดทุกวัน
-
คนญี่ปุ่นตกใจมากกับคำว่า "กินเล่นๆ" บอกว่าคนไทยกินตลอดเวลาเลย
ถามว่ากินทำไม ..?บอกว่ากินเล่น ตกใจมากเพราะที่ญี่ปุ่นไม่มีกินเล่นๆ มีแต่กินจริงจัง
-
สาววัยรุ่นชาวฮอลแลนด์มาอยู่แถวอ.นาแก จ.นครพนม ไม่ยอมกลับบ้าน
แม่ตามให้กลับบ้านเท่าไรก็ไม่กลับบอกว่ากลับไปบ้านก็ไม่มีอะไรกิน หนาวก็หนาว
อยู่นี่มีกินทั้งปี อยากกินอะไรดึกแค่ไหนก็เดินออกมาซื้อกินได้ตลอด ผลไม้มีกินทั้งปี
กลับบ้านไปมีกินแต่หน้าร้อน ดอกไม้ก็บานทั้งปี ไม่ใช่ได้ดูแค่หน้าร้อนแบบบ้านเขา
-
นักร้องคลิสตี้ติดอาหารไทยจนกลับไปบ้านเยี่ยมปู่ยา ต้องพกมาม่าไปด้วยเพราะ
กินอาหารบ้านตัวเองไม่ได้ มันเลี่ยนนมเนย
-
ทำไมคนไทยชอบชวนกินข้าว
-
เวลาเล่นเน็ตคนไทยชอบพิมพ์ "555+"

ญี่ปุ่น กับไทย ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

เป็นเรื่องให้ต้องเปรียบเทียบระหว่างญี่ปุ่น กับไทย ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ว่าเราเป็นอย่างไร และเขาเป็นอย่างไร

ญี่ปุ่น :: ลดราคาของและแจกฟรี
ไทย :: ของขึ้นราคาตามระดับน้ำ
ญี่ปุ่น :: ซื้อน้ำได้คนละขวดเท่านั้น
ไทย :: กักตุนอาหารใครมีตังค์ซื้อได้เท่าไหร่ซื้อไป
ญี่ปุ่น :: เข้าแถวต่อคิวรับของบริจาค
ไทย :: แย่งกันแล้วแย่งกันอีก ฉันกลัวไม่ได้
ญี่ปุ่น :: แจกน้ำคนละสองขวดแต่เอาขวดเดียวกลัวไม่พอคนอื่น
ไทย :: ฉันได้มากเท่าไหร่ยิงดี ของฟรี
ญี่ปุ่น :: ร่วมกันสร้างร่วมกันแก้ไข
ไทย :: แตกแยกไปของใครของมัน
ญี่ปุ่น :: ช่วยกันป้องกันก่อสร้างส่วนที่พังไป
ไทย :: ช่วยกันทำลาย ฉันท่วม เธอก็ต้องท่วม
ญี่ปุ่น :: ส่งแจ้งเตือนแผ่นดินไหวทางโทรศัพท์
ไทย :: น้ำมาฉันจุดพลุเตือน บ้านฉันไม่ท่วมแต่ฉันสะดุ้ง
ญี่ปุ่น :: ไม่มีของหายไม่มีทรัพย์สินโดนขโมย
ไทย :: เป็นช่วงนาทีทองของขโมยจริงๆ
ญี่ปุ่น :: แก้ไขสถานการณ์ได้ดีจากทุกฝ่าย
ไทย :: ตอนนี้มีฝ่ายไหนบ้างฉันยังไม่รู้เลย ฉันช่วยตัวเองตลอด
ญี่ปุ่น :: พร้อมใจกันตัดไฟเพื่อช่วยชาติ
ไทย :: อย่าตัดไฟนะเดี๋ยวฉันออนเฟสไม่ได้
ญี่ปุ่น :: บริจาคร้อยล้านไม่ต้องออกข่าว
ไทย :: บริจาคหมื่นเดียวก็ออกข่าวเจ็ดวันเจ็ดคืน
ญี่ปุ่น :: เสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมไปซ่อมโรงไฟฟ้าจนตาย
ไทย :: ฉันกลัวจระเข้ไม่กล้าลงน้ำ(จะบ้าตาย)
ญี่ปุ่น :: หน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือทั้งวันทั้งคืน
ไทย :: บ้านอยู่ลึกน้ำลึกเข้าไปไม่ได้ รอพรุ่งนี้เช้านะ
ญี่ปุ่น :: แก้ไขปัจจุบันให้ดีที่สุด
ไทย :: เตรียมพร้อมรับมืออนาคตเท่านั้น(แนวคิดเก๋ๆ)
ญี่ปุ่น :: สั่งอพยพคนได้อย่างรวดเร็ว
ไทย :: ประกาศออกโทรโข่งแล้วแต่ไม่ได้ยิน โทรโข่งถ่านอ่อน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อยมาก พื้นที่เป็นเกาะ มีภัยธรรมชาติจากลมพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดอยู่บ่อยๆ พื้นที่ก็น้อย อาหารการกินไม่สะดวกสบายเหมือนบ้านเรา แต่เนื่องจากประชาชนในประเทศของเขามีประสิทธิภาพ ขยันขันแข็ง มีวินัย ใฝ่หาความก้าวหน้า และมีหลักในการปกครองประเทศที่ดี พลเมืองมีความสามัคคี มีความรักชาติ จึงส่งผลให้ประเทศญี่ปุ่นพัฒนา และเจริญรุ่งเรือง กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกก็ว่าได้

ส่วนพี่ไทย ประเทศมีสภาพภูมิศาสตร์ดีเยี่ยม ไม่มีภัยธรรมชาติที่รุนแรง หากเปรียบน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ กับแผ่นดินไหว และสึนามิที่ญี่ปุ่น เขายิ่งกว่าเราหลายเท่า อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ที่ยังขาดอยู่คือ พี่ไทยยังขาดวินัย ยังมีความมานะพากเพียรไม่พอ ถึงแม้ประเทศไทยจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ มีธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่เรายังเห็นแก่ความสะดวกสบายของตน เรานำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติเพียงบางส่วน เช่น มีน้ำใจ มีเมตตา แต่ขาดความมานะ พากเพียร และวินัย ทำให้แม้ประเทศไทยจะน่าอยู่กว่าหลายๆ ประเทศ แต่ก็ยังล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ

เชื่อว่าหลังผ่านวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ไป นี่คงเป็นบทเรียนสำคัญที่เราได้เรียนรู้พร้อมๆกันทั้งประเทศ ว่าเราควรทำอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ เรียนรู้จักที่จะเพิ่งตนเอง มากว่ารอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เรียนรู้จักการเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรียนรู้การบางปัน และที่สำคัญที่สุดคือเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ไม่ใช่เอาชนะธรรมชาติ ...

Friday, October 28, 2011

แปลเนียนๆไปเลย

แปลเนียนๆไปเลย

เจ้าพ่อมาเฟียแห่งเมืองลองบีช กำลังมองหาสมุนคนใหม่ เพื่อทำหน้าที่เก็บเงินค่าคุ้มครอง
จากเจ้าของธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พวกเหล่าร้ายก็เลยเลือกเอาคนหูหนวกและเป็นใบ้ (น่าจะหมายถึง deaf-and-dumb)
มาทำหน้าที่ดังกล่าว ด้วยคิดว่าถ้ามันโดนจับ ก็คงคุยกับตำรวจไม่รู้เรื่อง
จะได้ไม่เดือดร้อนมาถึงทุกๆคน

สัปดาห์แรกผ่านไป เจ้าใบ้เก็บรวบรวมเงินได้ถึง 50,000 เหรียญ ก็เกิดความโลภ
อยากจะงาบเอาไว้เสียเอง จึงนำเงินทั้งหมดไปซ่อนไว้ เมื่อเจ้าพ่อรู้ว่าเจ้าใบ้ไม่ยอมนำเงินมาส่ง จึงส่งสมุนสองคนออกตามล่า ตามจนกระทั่งเจอตัวจึงถามเรื่องเงิน ปรากฏว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง
พวกมันจึงลากตัวเจ้าใบ้ไปพบล่ามภาษามือ

สมุนเจ้าพ่อ : ถามมันซิว่าเงินอยู่ที่ไหน

ล่ามภาษามือทำมือหงิก ๆ งอ ๆ ยุกยิก ๆ ถามเจ้าใบ้

เจ้าใบ้ส่งภาษามือกลับมา : ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร

ล่ามก็แปลให้สมุนเจ้าพ่อฟัง

สมุนเจ้าพ่อชักปืนออกมาแหย่เข้าไปในรูหูของเจ้าใบ้ : ลองถามมันใหม่ซิว่าเงินอยู่ที่ไหน

ล่ามก็ส่งภาษามือกลับไปใหม่

เจ้าใบ้รีบส่งสัญญาณมือตอบว่า เงิน 50,000 เหรียญ อยู่ที่เซ็นทรัลพาร์ค ฉันซุกมันไว้ในตอไม้
ตอที่สาม ข้างประตูด้านซ้ายมือของถนนเวสท์ 78

ล่ามหันมาบอกสมุนเจ้าพ่อ : มันบอกว่า ไม่รู้ว่าพวกคุณพูดเรื่องอะไร และมันยังบอกอีกว่า
มันไม่คิดว่าพวกหน้าตัวเมียอย่างพวกคุณจะกล้ายิงมัน

Thursday, October 27, 2011

สิบสามแล้ว

สิบสามแล้ว

ชายคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินผ่านรั้วไม้สูง ของโรงพยาบาลบ้าแห่งหนึ่ง
เขาได้ยินเสียงบรรดาคนไข้ที่อยู่ข้างใน ร่วมกันส่งเสียงตะโกนดังๆว่า สิบสามแล้วๆๆๆ
เขาก็เดินเลียบรั้วไม้ต่อไป แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้สงสัย เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า
ทำไมพวกคนที่อยู่ในนั้นถึงได้ตะโกนซ้ำไปซ้ำมาว่า สิบสามแล้ว ๆๆ
เป็นไปได้มั้ยว่าพวกเขากำลังดื่มเบียร์กัน หรือบางทีพวกเขาอาจจะกำลังผลัดกัน
กระทืบใครสักคน หรือบางที พวกเขาอาจกำลังนับจำนวนคนไข้ที่ได้กระโดด
ลงมาจากหลังคา
ด้วยความสงสัยและคิดว่ายังไงๆ ก็ขอดูซะหน่อย เขารีบมองหารูบนรั้วไม้ หาไปหามา
ในที่สุดก็เจอรูหนึ่ง รูมันค่อนข้างจะต่ำ จนเขาต้องคุกเข่าลงเพื่อจะมองเข้าไป
ทันทีที่เขาแนบสายตา ประกบที่รูดังกล่าว ใครบางคนที่อยู่ข้างใน
ก็ใช้นิ้วทิ่มเข้ามาที่ลูกนัยน์ตาของเขา แล้วทุกคนที่อยู่ข้างในก็ส่งเสียงตะโกนก้อง

กทม มีกี่เขต.....ดูแก้เครียด

Wednesday, October 26, 2011

คุณครูที่รัก

คุณครูที่รัก

ในวันสุดท้าย ก่อนปิดภาคเรียนของชั้นอนุบาลแห่งหนึ่ง เด็กๆ ต่างก็นำของขวัญมามอบ
ให้กับคุณครู
บุตรชายเจ้าของร้านขายดอกไม้ยื่นกล่องของขวัญกล่องหนึ่งให้กับคุณครู
ครูสาวหยิบมันขึ้นมา ลองเขย่า ๆ ดู แล้วกล่าว

ครูว่า ครูรู้นะ ว่าข้างในมันเป็นอะไร ต้องเป็นดอกไม้แน่ๆเลย

เจ้าหนู : ถูกต้องครับ

คนถัดไปเป็นบุตรสาวเจ้าของร้านขนม เธอยื่นกล่องของขวัญให้คุณครู ครูสาวหยิบมันขึ้นมา เขย่า ๆ แล้วกล่าว

ครูว่า ครูรู้นะ ว่าข้างในเป็นอะไร ต้องเป็นขนมกล่องหนึ่งแน่ๆเลย

เจ้าหนู : ถูกต้องค่ะ

ของขวัญชิ้นต่อไป มาจากเจ้าหนูบุตรชายเจ้าของร้านขายเหล้า ครูสาวหยิบกล่องขึ้นมาดู
และพบว่ามีอะไรเป็นน้ำๆ ไหลเยิ้มออกมา เธอใช้นิ้วแตะ แล้วลองชิมดู

ครูสาว : ใช่ไวน์รึเปล่านะ ?
เจ้าหนู : ไม่ใช่ครับ คุณครูใช้นิ้วสัมผัส แล้วนำมาแตะที่ลิ้นอีกครั้งหนึ่ง
ครูสาว : ใช่แชมเปญรึเปล่าน๊า ?
เจ้าหนู : ผิดครับ
ครูสาว : แล้วมันคืออะไรละจ๊ะ ?
เจ้าหนู : ลูกสุนัขครับ แหะๆ

วีรกรรมสะ้ท้านภพ

วีรกรรมสะ้ท้านภพ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนายทหารเรือคนหนึ่งชื่อ กัปตันริคาร์โด้ ผู้ซึ่งไม่เคยกริ่งเกรงศัตรู
หน้าไหนทั้งนั้น วันหนึ่ง ขณะกำลังแล่นเรืออยู่กลางทะเล เขาก็เห็นเรือโจรสลัดลำหนึ่ง
กำลังแล่นใกล้เข้ามา บรรดาลูกเรือเริ่มตื่นกลัว

กัปตันริคาร์โด้ตะโกนก้อง : นำเสื้อสีแดงมาให้ข้า

ลูกเรือรีบนำเสื้อสีแดงมาให้ เมื่อได้สวมเสื้อตัวเก่ง กัปตันก็กระโจนออกหน้า นำลูกน้อง
เข้าตะลุมบอน ไล่ฟาดฟันเหล่าบรรดาโจรสลัดจนกระเจิดกระเจิง. ในเย็นวันนั้น
บรรดาพลพรรคทั้งหมดได้มานั่งล้อมวงกันและพูดคุยถึงชัยชนะที่ได้รับ

ลูกน้องคนหนึ่งได้ถามกัปตัน : หัวหน้า เหตุใดท่านจึงต้องใช้เสื้อสีแดงเมื่อจะตะลุมบอนกับข้าศึก


กัปตัน : "ถ้าข้าเกิดได้รับบาดเจ็บ เสื้อสีแดงจะทำให้พวกเจ้ามองไม่เห็นเลือดของข้า
พวกเจ้าจะได้ไม่ตื่นตระหนกและทำการรบต่อไปได้

บรรดาลูกเรือก็รู้สึกทึ่งและชื่นชมในความเก่งกล้าของหัวหน้า ในเช้าวันถัดมา
พวกเขาก็มองเห็นเรือของพวกโจรสลัดกำลังแล่นใกล้เข้ามา คราวนี้ไม่ใช่ลำเดียว
แต่พวกมันยกขบวนมากันถึง 10 ลำ พวกเขาก็เตรียมพร้อมและรอรับคำสั่งจากกัปตัน

กัปตันถอนหายใจเฮือก จ้องเขม็งไปที่กองเรือของศัตรูที่กำลังจัดแถวแปรขบวน
เตรียมเข้าโจมตีเรือของเขาโดยปราศจากอาการสะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้น

เขาค่อยๆหันไปตะโกนสั่งลูกน้อง : เอากางเกงตัวสีน้ำตาลมาให้ข้า

Wednesday, October 19, 2011

แบบนี้มันเจ็บนะ

แบบนี้มันเจ็บนะ

ทารกชายคนหนึ่งคลอดออกมา
โดยมีพัฒนาการที่ก้าวหน้ามาก
ปรากฎว่าสามารถพูดคุยได้
เจ้าหนูมองไปรอบๆ ห้องคลอด
เห็นหมอ ก็ถามว่า
“คุณใช่หมอที่ทำคลอดหนูหรือเปล่า”
หมอตอบว่าใช่ เจ้าหนูบอกว่า...
“ขอบคุณมากครับที่ช่วยดูแลผมอย่างดีระหว่างทำคลอด”
เจ้าหนูมองไปรอบๆ อีก ก็เห็นแม่ จึงถามว่า...
“คุณใช่แม่ของหนูหรือเปล่า” แม่ก็ตอบว่าใช่
เจ้าหนูจึงบอกว่า
“ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยดูแลผมอย่างดีตอนที่หนูอยู่ในท้อง”
เจ้าหนูจ้องมองที่พ่อ แล้วถามว่า...
“คุณใช่พ่อของหนูหรือเปล่า” พ่อตอบว่า “ใช่”
เจ้าหนูจึงเลื่อนตัวไปใกล้พ่อ
แล้วยกนิ้วกลางจิ้มไปที่หน้าผากพ่อ 7 ครั้ง แล้วบอกว่า...
หนูอยากให้พ่อจำไว้ ว่าทำแบบนี้มันเจ็บมาก”

แข็งตาย

แข็งตาย

วิญญาณชายสองคนเจอกันที่ประตูสวรรค์
"คุณเป็นอะไรตายเรอะ" วิญญาณแรกว่า
"แข็งตาย" วิญญาณสองตอบ "แล้วคุณล่ะ"
"หัวใจวายตาย" วิญญาณแรกบอก
"เอ๊ะ... คุณก็ดูยังหนุ่มยังแน่นนี่นา" วิญญาณสองสงสัย
"มีคนที่ทำงานบอกว่าเมียผมมีชู้ ผมเลยแอบย่องกลับบ้าน" วิญญาณแรกอธิบาย
"เจอเมียแก้ผ้านอนอยู่บนเตียง ผมเลยไล่ค้นทั่วบ้าน หาอยู่ชั่วโมงกว่า หาไงก็ไม่เจอ
ผมเหนื่อยเกินไปจนหัวใจวายตายนี่แหละ"
"ไม่น่าเลย" วิญญาณสองส่ายหัว "คุณน่าจะเปิดตู้เย็นดูนะ!!!"

Thursday, October 6, 2011

เพื่อนเก่า

เพื่อนเก่า

เพื่อนเก่า 4 คน ที่ไม่ได้พบกันมานาน 30 ปี ได้พบกันในงานสังสรรค์จึงคุยกันเรื่องลูก
ในขณะที่เพื่อนคนที่สี่เข้าห้องน้ำ

เพื่อนคนที่1 : ลูกเก่งมาก เรียนจบ MBA ไต่เต้าเป็น CEO รวยจนซื้อรถเบนซ์ให้เพื่อนรัก

เพื่อนคนที่ 2: ลูกชั้นเป็นกัปตันเครื่องบินบริษัทเล็กๆ เก่งจนกลายเป็นผู้ร่วมลงทุน
ตอนนี้รวยจนซื้อเครื่องบินส่วนตัวใหม่เอี่ยมให้เพื่อนรักได้

เพื่อนคนที่3: ลูกเป็นวิศวกรก่อสร้างจนรวยไม่รู้เรื่อง เป็นมหาเศรษฐี จนสามารถ
ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ให้เป็นของขวัญแก่เพื่อนรัก

ทั้งสามคนแสดงความยินดีแก่กันที่มีลูกแสนเก่ง ร่ำรวย ประสบความสำเร็จในชีวิต
ทันใดนั้นเพื่อนคนที่สี่ก็เดินกลับจากห้องน้ำพอดี ก็ถามว่า "แสดงความยินดีกันเรื่องอะไรล่ะ"
"อ๋อ ก็เรื่องความสำเร็จของลูกพวกเรา เออ แล้วลูกแกเป็นยังไงบ้างละ"

เพื่อนคนที่สี่ก็ตอบว่า "ลูกชายมันเป็นเกย์ หากินอยู่ในบาร์เกย์"

เพื่อนทั้งสามก็พูดพร้อมกันว่า

"แหมน่าสงสาร ผิดหวังจังนะ" คำตอบของเขาก็คือ

"ไม่รู้สึกอับอายอะไรหรอก ฉันรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะมันเป็นลูก และจะว่าไป
ก็เป็นอาชีพที่ไม่เลวนะ วันเกิดเมื่อสองอาทิตย์ก่อน มันได้ของขวัญเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่
แถมเครื่องบินเจ๊ต และรถเบนซ์อีกด้วยนะ จากแฟน 3 คน โชคดีจริงๆเลย"

เพื่อนทั้งสามคนแรก

Wednesday, October 5, 2011

คุณสมบัติครบถ้วน

คุณสมบัติครบถ้วน


สุภาพสตรีนางหนึ่งชื่อว่า แอปเปิ้ล อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว

แต่ยังโสดเลยลงประกาศหาชายในฝันทางหน้าหนังสือพิมพ์แต่มีข้อแม้ดังนี้

1. หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขอให้พูดจากันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือ

2. จะต้องไม่จากหล่อนไปไหน จะอยู่เคียงข้างกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

3. ต้องเต็มร้อยในเรื่องบนเตียง

หลังจากลงประกาศอยู่หลายวันไม่มีใครมาติดต่อ

อีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา ขณะที่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็มีคนมาเคาะประตู

พอหล่อนออกไปเปิดก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น แขนขาด้วน หน้าตาน่าสงสาร

แอปเปิ้ล..."มาหาใครคะ"

ชายพิการ..."ผมมาหาคุณแอปเปิ้ลครับ"

แอปเปิ้ล... "ดิฉันนี่แหละค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ"

ชายพิการ.. "คือ..ผมเห็นประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์

ผมก็เลยคิดว่าผมมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คุณต้องการ"

แอปเปิ้ล... (งงเล็กน้อย) "คุณมีคุณสมบัติอะไรที่ว่าครบ"

ชายพิการ... "ข้อ 1 ผมไม่ตบตีคุณแน่ เพราะผมไม่มีมือไม่มีแขน และ

ข้อ 2 ผมไม่ทอดทิ้งคุณไปไหนเพราะผมไม่มีขา"....

แอปเปิ้ล.... "เอ่อ ... เอ่อ.. แล้วข้อ 3 ล่ะคะ" หล่อนถามด้วยความสงสัยเป็นที่สุด

ชายพิการ... "คุณครับ ผมไม่มีมีมือ ไม่มีแขน ไม่มีขา

แล้วเมื่อสักครู่ที่ผมเคาะประตู คุณคิดว่าผมใช้อะไรเคาะละครับ"

Friday, September 30, 2011

ไม่่เคยบอกนี่จ้ะ

ไม่่เคยบอกนี่จ้ะ

ไอ้หนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านขายยาเพื่อซื้อถุงยางอนามัย

เจ้าของร้านถามว่าจะเอาแพ็คขนาดไหนมีแบบ 3 ชิ้น 6 ชิ้น และ 12 ชิ้น

ไอ้หนุ่มคุย “ผมคบสาวคนนี้มาพักนึงแล้ว ท่าทางเธอจะร้อนแรงมาก

ผมมาซื้อก็เพราะว่าคืนนี้ผมมีนัดกินข้าวกับพ่อแม่เธอ

แล้วจะออกไปเที่ยวต่อข้างนอก ผมมีโอกาสดีแน่

ถ้าเธอเจอทีเด็ดผม เธอต้องติดใจจนหยุดไม่ได้แน่

ผมว่าผมเอาแบบ 12 ชิ้นดีกว่า"

หลังจากจ่ายเงิน ไอ้หนุ่มก็เดินออกจากร้านไปอย่างกระหยิ่ม

ในเย็นวันนั้นขณะที่ไอ้หนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับแฟนสาว

และพ่อแม่ของเธอ

เขาขออนุญาตสวดขอบคุณพระเจ้า ซึ่งก็ได้รับอนุญาตโดยดี

หลังจากสวดภาวนาอยู่หลายนาที แฟนสาวก็กระซิบถาม

“คุณไม่เคยบอกชั้นเลยนะว่าคุณเคร่งศาสนาขนาดนี้”

ไอ้หนุ่มกระซิบตอบเสียงสั่น

“คุณก็ไม่เคยบอกผมเหมือนกันว่าพ่อของคุณเป็นเจ้าของร้านขายยานี่จ้ะ”