Wednesday, November 30, 2011

ทำไมคุณจึงโง่อย่างนี้

ทำไมคุณจึงโง่อย่างนี้

บุญพลิ้วเป็นหนุ่มรูปหล่อประจำหมู่บ้านโคกสอางค์ แม้เขาจะผ่านผู้หญิงทั้งสาวแก่แม่หม้าย

มาแล้วหลายคนก็ตาม แต่ในที่สุดเขาก็มาตกหลุมรักสายชบาลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน

สายชบาเป็นสาวสวยบริสุทธิ์และไร้เดียงสา

ผู้ใหญ่บ้านจึงหวงแหนลูกสาวคนนี้มาก บุญพลิ้วทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนยอมรับ

และในที่สุดเขาก็ได้แต่งงานกับสายชบาสมดังตั้งใจ หลังจากสัปดาห์ฮันนีมูนผ่านไป

สายชบา : ฉันไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย และก็ไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งนั้นของผู้ชาย

มันจะมีประโยชน์ และให้ความสุขแก่ฉันมากถึงขนาดนี้

ด้วยความหึงหวงในตัวหญิงสาว เขาไม่อยากให้เธอไปสนใจชายอื่นอีก

ความคิดแว่บหนึ่งเข้ามาในสมอง

บุญพลิ้ว : ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะมีสิ่งนั้นเสียเมื่อไร ผมเป็นคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่มีสิ่งนั้น

หลายวันผ่านไป ผู้ใหญ่บ้านใช้ให้บุญพลิ้วไปทำธุระที่ต่างจังหวัดนานหนึ่งเดือน

หลังจากทำธุระเสร็จเขาก็รีบกลับบ้านมาหาภรรยาเขาทันที เขาต้องแปลกใจ

ที่เธอไม่ได้อยู่ที่บ้านแต่เธอมาอยู่ที่ร้านกาแฟกับบุญเทียบเพื่อนสนิทของเขาเอง

เขาเดินเข้าไปหวังจะต่อว่าคนทั้งสอง แต่สายชบากลับเป็นคนลุกเดินมาหาเขาด้วย

อารมณ์ฉุนเฉียว

สายชบา : คนโกหก ไหนคุณบอกว่าคุณเป็นคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่มีสิ่งนั้นยังไง?

นี่บุญเทียบเขาก็มีสิ่งนั้นเหมือนกัน

บุญพลิ้ว : อ๋อ บังเอิญผมมีอยู่สองอันน่ะ ผมเห็นว่าบุญเทียบเป็นเพื่อนที่ดีของผม

ผมเลยแบ่งให้เขาอันหนึ่ง

สายชะบา : โธ่เอ๊ย.....ทำไมคุณจึงโง่อย่างนี้? คุณดันแบ่งอันที่ดีกว่าให้เขาไปได้

นักพนันตัวจริง

นักพนันตัวจริง

บุญสมัยไปออกกำลังกายทุกเช้าที่คาลิฟอร์เนีย ว้าว หลังจากการออกกำลังในเช้าวันหนึ่ง

เขาไปนั่งดื่มน้ำผลไม้ที่เคาน์เตอร์บาร์ใกล้ๆกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมานั่งอยู่ก่อนแล้ว

ขณะนั้นเป็นเวลา 08.05 น. ในโทรทัศน์ มีข่าวชายนิรนามคนหนึ่งยืนอยู่บนระเบียงดาดฟ้า

ของตึกโกลเด้นไดมอนด์กำลังทำท่าจะกระโดดตึกลงมา บรรดาช่างภาพและนักข่าว

ออกันเต็มไปหมดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย

หญิงสาว : คุณว่าเขาจะกระโดดจริงไหม ?

บุญสมัย : ผมว่าเขากระโดดจริง

หญิงสาว : ฉันว่าเขาไม่กระโดดหรอก

บุญสมัย : งั้นเรามาพนันกันไหม 500 บาท ผมว่าเขากระโดด

หญิงสาว : โอเค ฉันพนัน 500 บาท เขาจะไม่กระโดด

พอพูดขาดคำเท่านั้น ชายนิรนามก็กระโดดจากตึกตกลงมาถึงพื้นเสียชีวิตทันที

หญิงสาวส่งเงิน 500 บาทให้เขาด้วยความผิดหวัง

บุญสมัย : ผมรับเงินคุณไม่ได้หรอกครับ

หญิงสาว : อ้าว ทำไมหรือ ? ก็คุณชนะพนัน ฉันแพ้ฉันก็ต้องจ่าย

บุญสมัย : คือว่า.... ผมดูข่าวนี้ตั้งแต่ตอน 05.05 น.ไปครั้งหนึ่งแล้ว

มันเป็นการโกงคุณถ้าผมรับเงินของคุณ

หญิงสาว : ฉันก็ดูข่าวนี้เมื่อตอนตีห้าเช่นเดียวกัน

บุญสมัย : อ้าว... แล้วถ้าอย่างนั้นคุณยังมาพนันกับผมทำไมล่ะ ?

หญิงสาว : ก็ฉันไม่คิดว่าเขาจะกระโดดเป็นครั้งที่สองนะซี

Tuesday, November 29, 2011

ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง

ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง

เมื่อไม่นานมานี้ ชายสามคน ได้เสียชีวิตลง คนหนึ่งเป็นครู, คนหนึ่งเป็นคนเก็บขยะ

และอีกคนหนึ่งนั้น เป็นทนายความ วิญญาณของพวกเขาก็ล่องลอยตุุ๊บป่องๆ

มาโผล่ที่หน้าประตูสวรรค์ เซนต์ปีเตอร์ก็แจ้งให้พวกเขาทราบว่า

การที่จะผ่านเข้าประตูสวรรค์ได้นั้น พวกเขาจะต้องตอบคำถามคนละหนึ่งข้อ

ถ้าตอบไม่ได้หรือตอบผิด ก็หมดสิทธิผ่าน

เซนต์ปีเตอร์ได้ถามคุณครูว่า

"ไหนลองบอกมาซิ ว่าเรือ ลำที่แล่นไปชนภูเขาน้ำแข็งที่เขานำมาสร้างเป็นหนังนั้น

มีชื่อว่าอะไร?"

คุณครูรีบตอบ

"มันชื่อ"ไททานิค"ครับท่าน" เซนต์ปีเตอร์ก็อนุญาตให้ผ่านได้

เซนต์ปีเตอร์หันไปทางคนเก็บขยะ และก็คิดว่าเจ้าคนนี้ตัวเหม็น ถ้าให้ผ่านเข้าไป

สวรรค์ก็คงจะเหม็นแย่ อย่ากระนั้นเลย ต้องถามเรื่องที่มันยากขึ้นมาหน่อย

"ไหนท่านลองบอกมาซิ ว่าในคราวนั้น มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดกี่คน?"

คนดี ผีคุ้ม นับว่าโชคยังดี ที่คนเก็บขยะ เพิ่งจะไปดูหนังเรื่องนี้มา

เขาจึงตอบ

"1,228 คน ครับท่าน"

เซนต์ปีเตอร์

"ถูกต้อง! ขอเชิญท่าน ผ่านเข้าประตูได้"

แล้วเซนต์ปีเตอร์ ก็หันไปหาทนายความ ซึ่งตามสมุดบันทึกเวรกรรม

ทนายคนนี้หน้าเลือดมาก เซนต์ปีเตอร์ไม่อยากจะให้เขาขึ้นสวรรค์ จึงถามว่า

"จงบอกชื่อ พวกเขาทุกคน"

นักบุญฮีโร่พันธุ์นรก

นักบุญฮีโร่พันธุ์นรก

ทนายความคนหนึ่งแห่งมหานครลอส แอนเจลิส ได้ถึงแก่ความตาย และวิญญาณของเขา
ได้มาโผล่ที่ประตูสวรรค์

เซนต์ ปีเตอร์ถามว่า

"ไหนลองบอกมาซิ ว่าเจ้าเคยทำคุณงามความดีอะไรมาบ้าง เพื่อที่จะได้ผ่านเข้าประตูสวรรค์
แห่งนี้?"

ทนายหนุ่มคิดย้อนถึงเรื่องราวในอดีตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบ

"เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ ข้าได้ให้เงินสลึงหนึ่งแก่พวกคนจรจัดบนท้องถนน ครับท่าน"

เซนต์ ปีเตอร์ก็หันไปบอกเทพกาบริเอล ให้ตรวจดูบันทึกดูซิ เทพกาบริเอลก็เปิดบันทึกดู แ
ล้วกล่าวยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

เซนต์ ปีเตอร์

"อืม..นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่ดี..แต่ก็ไม่นับว่าดีพอ ที่จะให้เจ้าผ่านเข้าประตูสวรรค์แห่งนี้"

ทนายหนุ่ม


"เดี๋ยวๆ ครับท่าน !" "คือว่า ยังมีอีกนะครับ! ขอบอก คือว่า เมื่อสามปีก่อน ครั้งหนึ่ง
ข้านั้น ก็เคยได้ให้เงินสลึงหนึ่งแก่พวกคนจรจัดบนท้องถนนนะท่าน"

เซนต์ ปีเตอร์ก็หันไปพยักหน้าให้เทพกาบริเอลตรวจเช็คดูบันทึกอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งเทพกาบริเอลก็ได้ทำการตรวจดูแป๊บนึง แล้วก็พยักหน้าตอบกลับมาว่า ที่บอกมานั้นเป็นความจริง

เซนต์ ปีเตอร์จึงกระซิบถามเทพกาบริเอล

"อืม..ไหนท่านช่วยบอกมาซิว่า เราจะเอายังไงกับเจ้าหมอนี่ดี?"


เทพกาบริเอลเหลือบตาชำเลืองมองทนายหนุ่มแว๊บหนึ่ง แล้วตอบว่า

"คืนสองสลึงนั่นให้มันไป แล้วถีับมันลงนรกไปเลย"

Monday, November 28, 2011

ค้างคาวเหินฟ้า พสุธากัมปนาท

ค้างคาวเหินฟ้า พสุธากัมปนาท

บนเครื่องบินลำหนึ่ง ขณะบินฝ่ากระแสพายุ ผู้ร่วมชะตากรรม มีอยู่ 5 คน

ประกอบด้วย นักบิน, ไมเคิล จอร์แดน, บิล เกตส์, โป๊ป และคนส่งพิซซ่า

แล้วทันใดนั้น นักบินก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องโดยสาร และร้องบอกว่า เครื่องบินโดนฟ้าผ่า

กำลังจะตกภายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ พวกเรา 5 คน แต่มีร่มชูชีพแค่เพียง 4 อันเท่านั้น

"ผมเป็นนักบิน ผมขออันหนึ่ง"ว่าแล้ว เขาก็คว้าเอาร่มอันหนึ่ง แล้วกระโดดลงไป

ไมเคิล จอร์แดน ร้องบอก : "ผมเป็นยอดนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ โลกต้องการคนอย่างผม

ผมตายไม่ได้"

ว่าแล้ว ไมเคิล จอร์จ ก็คว้่าเอาร่มอันหนึ่ง แล้วกระโดดลงไป

บิล เกตส์ : "ผมเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก โลกต้องการคนอย่างผม ผมจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป"

ว่าแล้ว เขาก็คว้าเอาร่มอันหนึ่ง แล้วกระโดดลงไป

โป๊ปหันมากล่าวกับคนส่งพิซซ่า :

"พ่อก็อยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว แต่เธอนั้นเป็นคนหนุ่ม ยังมีอนาคตที่ยาวไกล

เธอเอาร่มอันสุดท้ายไปเถอะ พ่อขออยู่บนเครื่องบินนี้แหละ"

คนส่งพิซซ่า

"หลวงพ่อไม่ต้องอยู่หรอกครับ ไอ้เจ้าคนฉลาดที่สุดในโลก มันคว้าเอาเป้ของผมโดดลงไปอ่ะ

นี่ครับ ร่มชูชีพของเรา 2 คนครับ"

พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง

พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง

ผมจะบอกอะไรให้นะครับ ว่า "ผู้หญิงขับรถ"เนี่ย เป็นอะไรที่"น่าสยอง"มาก
เมื่อเช้านี้ อีตอนที่ผมขับรถอยู่บนทางด่วนเพื่อที่จะไปทำงาน

ผมเหลือบตามองดูทางซ้าย ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอกำลังห้อเจ้ามัสแตงสีแดง

ด้วยความเร็วแรงแซงทะลุนรก 80 ไมล์/ช.ม. เธอนั้น ขับรถไปด้วย

แล้วก็เขย่งก้นขึ้นมาชะโงกหน้าดูกระจกเพื่อแต่งหน้าเขียนตาไปด้วย

อึ๋ย!!! น่ากัวสุดๆ

ผมหันหน้ากลับมามองทางแป๊บนึง พอหันกลับไป โอ้! พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง

ปรากฎว่า รถของเธอนั้น ได้เป๋กินเลนเข้ามาในเลนของผมถึงครึ่งเลนแล้ว..จ๊ากกก!!!.

ผมตกใจสุดขีด จนเครื่องโกนหนวดหลุดจากมือ หล่น "ต๋อม" ลงไปในถ้วยกาแฟ

กระฉอกขึ้นมาโดนโทรศัพท์มือถือจนเปียกเลอะเทอะไปหมด..ซวยเจงๆ!!!

Thursday, November 24, 2011

การปฐมพญายมเบื้องต้น

การปฐมพญายมเบื้องต้น


สองหนุ่มขณะกำลังซ้อนแมงกะไซค์ห้อตะบึงบนถนนในชนบทแห่งหนึ่ง

แล้วจู่ๆไอ้หนุ่มคนขับก็เบาเครื่องยนต์ลงและโฉบเข้าจอดข้างทาง ปรากฏว่า

เก่งของเขาเกิดซิปแตกดังโพล๊ะ ทำให้เสื้อมันเปิดต้านลม พัดกระพือ

ดังอีแร้งกระพือปีก พั่บๆๆๆ.

ไอ้หนุ่มคนขับ : "ฉันขับไปต่อไม่ได้ ลมมันตีหน้าอกฉันว่ะ"

เพื่อน : "นายถอดแจ๊กเก็ตออกมา แล้วใส่กลับ เอาซิปไปไว้ข้างหลังสิ"

เมื่อเสร็จสรรพ พวกเขาก็ห้อตะบึงเจ้าแมงกะไซค์ต่อไป ด้วยความเร็วแรงแซงทะลุนรก

และแล้ว เมื่อมาถึงทางโค้งแจ้งมรณะ เหมือนฟ้าบันดาล

พวกเขาแหกโค้งตีลังกาหลายตะหลบลงไปนอนโก้งโค้งอยู่ข้างทาง

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด คนดี ผีย่อมคุ้มครองคนดี ผีคุ้ม ช่างบังเอิญ

ผ่านมาเจอเข้าพอดี จึงรีบวิ่งไปโทรแจ้ง 911

ตำรวจ :: "พวกเขาตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ.. ยังโอ.เค.ใช่มั้ยครับ?"

แจ๊ค :: "เอ้อ..คนขับ..เมื่อกี้ยังโอ.เค.นะครับ.ยังหายใจอยู่..แต่พอผมช่วยบิดหัวเค้า ให้กลับไป

ข้างหน้าเรียบร้อย ตอนนี้เค้าเงียบไปแล้วครับ!! ..แหะๆๆ

คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด

คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด


ลูกค้าชายร่างล่ำบึ้กที่พูดติดอ่างอย่างรุนแรงคนหนึ่ง ได้เดินไปที่เคาน์เตอร์ แล้วถามว่า

"ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆ-ผู้ๆ-ชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"

พนักงานที่เคาน์เตอร์จ้องมองเขาแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร

ลูกค้าคนนั้น ก็ถามซ้ำอีกหลายครั้งว่า

"ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆ-ผู้ๆ-ชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"

พนักงานคนนั้นก็ไม่ยอมตอบ จนท้ายที่สุด ลูกค้าคนนั้นก็โมโหเดือดปุดๆ
และปึงปังเดินออกจากห้างไป

ลูกค้าที่ยืนเข้าคิวต่อจากชายคนนั้น ก็เอ่ยถามพนักงาน

"ทำไมถึงไม่ยอมตอบที่เขาถามล่ะ?"

พนักงาน

"คะๆๆ-คุณ-คิๆๆ-คิด-ว่า-ผะๆๆ-ผม-อยาก-จะ-หะ-หาเรื่อง-โดๆๆ-โดน-ชก-รึๆ-ไง?"

Friday, November 18, 2011

มะพร้าวหล่นไม่ไกลต้น

มะพร้าวหล่นไม่ไกลต้น

ณ.งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง สุภาพสตรีสูงอายุคนหนึ่ง ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรม
ของเด็กวัยรู่นในยุคนี้ว่า

สุภาพสตรี : "ดูแม่สาวน้อยคนนั้นสิ ไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงสมัยนี้เค้าเป็นอะไรกันนะ ดูสิ..เธอใส่กางเกงยีนส์ของเด็กผู้ชาย, เสื้อเชิ้ทก็ของเด็กผู้ชาย แล้วตัดผมตัดเผ้าก็หยั่งกะเด็กผู้ชายเด๊ะ
ถ้าไม่บอก คุณก็ไม่มีทางรู้ได้เลย ว่านั่นน่ะ เป็นเด็กผู้หญิง..คุณว่ามั้ย?"

คู่สนทนา : "อืม..ฉันว่าฉันรู้นะ เพราะนั่นน่ะ คือลูกสาวของฉันเอง"

สุภาพสตรี : "อ้าว..เหรอ..ขอโทษนะคะ..ฉันไม่รู้ว่าคุณน่ะเป็นพ่อ"

คู่สนทนา : "ฉันไม่ใช่พ่อ..ฉันเป็นแม่ย่ะ "

นกมหัศจรรย์

นกมหัศจรรย์

สุภาพสตรีผู้ซึ่งเป็นมารดาของชายหนุ่มคนหนึ่ง พำนักอาศัยอยู่ในเมืองลากูน่าบีช
ผู้เป็นบุตรชายก็ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยนัก ผู้เป็นบิดา ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ลูกชายนั้นกลัวว่าแม่จะเหงา เมื่อถึงวันเกิดของผู้เป็นแม่ ลูกชายจึงได้หาซื้อนกแก้วชั้นดี
ให้ตัวหนึ่ง เจ้านกตัวนี้ได้รับการฝึกฝนให้พูดได้ถึงเจ็ดภาษา เขาได้ให้พนักงานส่งของนำมันไปมอบให้แก่ผู้เป็นมารดา หลังจากนั้น 2-3วัน เขาก็โทรไปถามข่าวคราว

ชายหนุ่ม :"คุณแม่ครับ เจ้านกน้อยเป็นยังไงบ้าง?"

มารดา :"มันก็ดีหรอกนะ แต่เนื้อมันค่อนข้างจะเหนียวไปหน่อย แม่น่าจะอบให้มันเปื่อย
กว่านั้นอีกสักนิด"

ชายหนุ่ม : "พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง! คุณแม่กินมันเหรอครับ..โธ่ถังกะละมังแตก เจ้านกนั่นน่ะ
มันแพงสุดๆเลยนะครับ..ขอบอก มันพูดได้ตั้งเจ็ดภาษาแน่ะ.!..โธ่ๆๆ"

มารดา : "อ้าว!..แม่ขอโทษ..ถ้ามันฉลาดอย่างที่ว่า..ทำไมไม่เห็นมันพูดอะไรเลยล่ะ
อีตอนที่แม่จับมันยัดเข้าเตาอบ?"

Thursday, November 17, 2011

โอ๊ย!..จะบ้าตาย

โอ๊ย!..จะบ้าตาย

สาวผมบลอนด์ที่ดูี่อ่อนระโหยโรยแรงคนหนึ่ง ค่อยๆลากสังขารที่กะปลกกะเปลี้ย
ไปพบคุณหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง

สาวบลอนด์ : "คุณหมอคะ คือว่ายังงี้นะคะ แถวๆบ้านของดิฉัน มันมีหมาเยอะแยะเต็มไปหมด พวกมันเห่าหอนกันทั้งกลางวันกลางคืน จนฉันนั้นไม่เป็นอันหลับอันนอนเลยละค่า"

คุณหมอ :"เรื่องแค่นี้สบายมาก" ว่าแล้วคุณหมอก็ล้วงลงไปค้นหายาในลิ้นชัก
"อะฮ้า! นี่ไง ยานอนหลับชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมาก แค่ไม่กี่เม็ด
ปัญหาของคุณ ก็เป็นอันจบ"

สาวบลอนด์ : "แหม..ดีจังเลยค่ะ อะไรก็เอามาเถอะค่ะ ดิฉันจะลองดู"

หลังจากนั้น 2-3สัปดาห์ แม่สาวผมบลอนด์คนนั้นก็กลับมา่ เธอดูโทรมยิ่งกว่าเดิม

สาวบลอนด์ :"คุณหมอคะ วิธีของคุณ ไม่ได้ผลค่ะ ดิฉันยิ่งแย่หนักกว่าเดิมค่ะ!"

คุณหมอ :"อืม..มันยังไงกันนะ" คุณหมอส่ายหัวง่อกแง่กด้วยความไม่เข้าใจ
"ที่ผมให้ไปน่ะ เป็นยานอนหลับที่แรงที่สุดเลยนะครับ !"

สาวบลอนด์ : "นั่นก็อาจจะจริงค่ะ" เธอตอบอย่างเซ็งในอารมณ์
แต่ฉันก็ยังต้องอดหลับอดนอนตลอดทั้งคืน วิ่งไล่จับเจ้าพวกหมาบ้าเหล่านั้น
แล้วพอจับได้ตัวหนึ่ง ก็ต้องปล้ำเอายายัดใส่ปากมัน..กว่ามันจะกลืนลงไป..
โอ๊ย!..จะบ้าตาย"

เด็กเอ๋ย เด็กดี

เด็กเอ๋ย เด็กดี

มิสซิส บราวน์ คุณครูประจำชั้นเกรด 4 ได้ถามนักเรียนในชั้นของเธอว่า
มีใครบ้างที่คิดว่าตัวเองนั้นโง่ ถ้ามี ขอให้ยืนขึ้น

ปรากฏว่ามีเพียงเจ้าหนูโทนี่คนเดียวเท่านั้นที่ยืนขึ้น

มิสซิสบราวน์ : "โทนี่ เธอคิดว่าเธอโง่เหรอ?"

โทนี่ : "เปล่าครับ คือว่าผม ไม่อยากให้คุณครูต้องยืนคนเดียวครับ"

ชาวประมง

ชาวประมง

ชาวประมงคนหนึ่ง ขณะเมื่อมาถึงริมฝั่งแม่น้ำเพื่อที่จะตกปลา ก็ปรากฏว่า
เขาได้ลืมเอาเหยื่อมา พอดีเขาเหลือบไปเห็นเจ้างูน้อย ซึ่งเพิ่งจะจับไส้เดือนได้ตัวหนึ่ง
เลื้อยผ่านมา

ชาวประมงตะปบเอาเจ้างูน้อยขึ้นมาแล้วก็แย่งเอาไส้เดือนไป เขารู้สึกเสียใจที่ไปแย่ง
อาหารกลางวันของมัน เขาจึงคว้าเอามันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
แล้วก็กรอกเบียร์ลงไปในปากมันนิดหนึ่ง แล้วจึงเดินไปตกปลา
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ชาวประมงคนนั้นก็รู้สึกเหมือนมีใครมากระตุกขากางเกง
เมื่อก้มลงมองดู เขาเห็นเจ้างูน้อย คาบไส้เดือนมาให้อีกสามตัว

Wednesday, November 16, 2011

ตามมาเลยพวก

ตามมาเลยพวก

ค้างคาวดูดเลือดตัวหนึ่งกลับจากการออกหากิน บินกลับมายังถ้ำที่อาศัย
ร่างของมันนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือดสดๆ มันบินโฉบขึ้นไปเกาะที่เพดานถ้ำเพื่อที่จะนอน

ในไม่ช้า ค้างคาวตัวอื่นๆก็ได้กลิ่นคาวเลือด และอยากจะไปกินบ้าง
พวกมันก็เข้ามามะรุมมะตุ้มถามว่า ไปเจอแจ๊คพอท ณ ที่ใด

เจ้าตัวแรกก็บอกพรรคพวกให้ออกไปห่างๆ เพราะว่ามันนั้นอยากจะนอน
พวกเพื่อนๆก็ไม่ยอม รบเร้าเซ้าซี้ จนในที่สุด เจ้าตัวแรกก็ต้องยอมแพ้

เจ้าตัวแรก : "โอเค พวกแกบินตามฉันมานะ" ว่าแล้วมันก็โผบินออกไป
โดยมีพรรคพวกบินตามไปเป็นร้อย

มันบินผ่านหุบเขา ข้ามแม่น้ำ เข้าสู่ป่าใหญ่

แล้วในที่สุดเจ้าตัวแรกก็ลดความเร็วลง พรรคพวกก็บินเข้ามารุมล้อมกระดี๊กระด๊าด้วยความตื่นเต้น

เจ้าตัวแรก : "เอาละ พวกแกเห็นต้นไม้ต้นนั้นมั้ย"

เพื่อนๆก็ร้องบอกว่า : "เห็นสิ เห็นๆๆๆ"

เจ้าตัวแรก : "เห็นก็ดีแล้ว!..ตอนนั้นฉันไม่เห็นว่ะ"

นางฟ้าประจำตัว

นางฟ้าประจำตัว

ชายคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินไปตามถนน เขาก็ได้ยินเสียงเตือนว่า

"หยุด! แล้วยืนนิ่งๆ ถ้าคุณเดินไปอีกก้าวหนึ่งละก็ จะมีอิฐก้อนหนึ่งหล่นลงมาบนหัวคุณ และคุณก็จะตาย"

เขาก็หยุดเดิน ทันใดนั้นก็มีอิฐขนาดยักษ์ก้อนหนึ่งหล่นลงมาตรงหน้าเขา ชายหนุ่มถึงกับตะลึง

เขาก้าวเดินต่อไป สักพักหนึ่ง จังหวะที่เขานั้นกำลังจะข้ามถนน ก็มีเสียงร้องเตือนให้ได้ยินอีกครั้งหนึ่งว่า

"หยุด! แล้วยืนนิ่งๆ ขืนเดินไปอีกก้าวเดียวละก็ คุณจะโดนรถทับตาย"

ชายหนุ่มก็ทำตาม ทันใดนั้น ก็มีรถคันหนึ่งเลี้ยวฟ้าบออกมาด้วยความเร็ว เฉียดร่างชายหนุ่มไปแค่เพียงนิดเดียว

ชายหนุ่ม : "คุณอยู่ที่ไหน?""คุณเป็นใครครับ?"

มีเสียงตอบว่า : "ฉันก็คือ นางฟ้าประจำตัวของเธอไงล่ะ"

ชายหนุ่ม : "อ๋อเหรอ แล้วอีตอนที่ฉันแต่งงาน เธอไปซุกหัวอยู่ที่ไหนจ๊ะ?"

Tuesday, November 15, 2011

การสนทนาของสามเฒ่า

การสนทนาของสามเฒ่า

ชายชราสามคน นั่งพูดคุยกันถึงเรื่องความยากลำบากของวัยชราอยู่บนบันได
ของสถานพักฟื้นคนชราแห่งหนึ่ง

ชายอายุหกสิบ : "อายุหกสิบนั้นโหดที่สุด คุณจะรู้สึกปวดฉี่อยู่ตลอดเวลา พอคุณจะฉี่
ก็ดันฉี่ไม่ออก!"

ชายอายุเจ็ดสิบ : "เฮ้ยยย!.ไม่เห็นมีอะไรเลย ลองเจ็ดสิบอย่างฉันสิ คุณจะอึ๊ไม่ออก
คุณกินยาถ่ายเข้าไปก็แล้ว กินกล้วยก็แล้ว คุณนั่งอยู่บนโถส้วมทั้งวัน ยังไงๆก็อึ๊ไม่ออก"

ชายอายุแปดสิบ : "ถ้าจะให้พูดกันจริงๆละก็ แปดสิบนี่แหละโหดที่สุด"

ชายอายุหกสิบ : "คุณฉี่ไม่ออกเหมือนกันเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ : "ก็ไม่นะ ฉันฉี่ตรงเวลาตอนหกโมงเช้าทุกวัน ฉี่พุ่งออกมาหยั่งกะม้าแข่งแน่ะ ไม่มีปัญหาอะไร"

ชายอายุเจ็ดสิบ : "คุณอึ๊ไม่ออกเหมือนฉันเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ : "เปล่านะ ก็อึ๊ออกมาสบายๆ ตรงเวลาทุกเช้า หกโมงครึ่งเป๊ะ"

ชายอายุหกสิบฟังแล้วชักมึน จึงกล่าว : "เดี๋ยวๆๆๆ..อะไรนะ..คุณฉี่ทุกเช้าตอนหกโมง และก็ถ่ายทุกเช้าตอนหกโมงครึ่ง แล้วไอ้อายุแปดสิบเนี่ย มันยากลำบากตรงไหนเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ : "ฉันจะหลับไม่รู้เรื่อง จนกว่าจะถึงสิบโมงของทุกวัน
พร้อมทั้งเลอะเทอะไปหมดทั้งตัวเลย"

หูตึงหรือเปล่า

หูตึงหรือเปล่า

ชายชราคนหนึ่งเกิดมีความสงสัยว่า ภรรยาของเขานั้นหูตึงหรือไม่
ดังนั้น คืนวันหนึ่ง เขาก็ลองทดสอบดู โดยการแอบเข้าไปยืนอยู่ห่างๆ ข้างหลังเธอ
ขณะที่เธอนั้นกำลังนั่งสบายอารมณ์อยู่บนเก้าอี้

ชายชราถามเธอเบาๆ :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ"

เขาไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ

ชายชราขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วถามอีกครั้ง :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ"

เขาก็ยังคงไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ

ชายชราก็เลยขยับเข้าประชิด แล้วถามอีกครั้ง :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ"

ภรรยา :: "ฉันตอบเธอเป็นครั้งที่สามแล้วนะว่า "ได้ยินจ้า" "

Thursday, November 10, 2011

หน้าผาวิเศษ

หน้าผาวิเศษ

วันหนึ่งชายสามคนได้พากันเดินทางไปยังหน้าผาวิเศษ อิทธิฤทธิ์หรือความวิเศษของหน้าผานี้
ก็คือว่า เพียงแค่คุณวิ่งไปที่ริมหน้าผา แล้วกระโดดลงมาพร้อมร้องตะโกนขานชื่อ
สิ่งที่คุณอยากจะเป็น คุณก็จะได้เป็นสมดั่งใจปราถนา
ชายคนแรกออกสตาร์ท กระโจนแล้วร้องตะโกนว่า "นก" เขาก็กลายร่างเป็นนก
แล้วโผผินบินไปในอากาศ
ชายคนที่สองออกวิ่งแล้วกระโดดลงมาพร้อมร้องตะโกนว่า "ปลา"
เขาก็กลายร่างเป็นปลาโลมาแหวกว่ายไปในมหาสมุทร
ชายคนที่สามออกวิ่งสุดฝีเท้า เกิดไปสะดุดเอาท่อนไม้ จึงร้องอุทานออกมาว่า
"เชียท" และในทันใดนั้น
เขาก็กลายร่างเป็นขี้กองโตกองหนึ่งอย่างน่าอัศจรรย์เป็นยิ่งนัก

ร่วมไว้อาลัย

ร่วมไว้อาลัย

ชายคนหนึ่งได้ไปร่วมงานศพทนายของเขา และรู้สึกประหลาดใจที่มีคนมามากมาย
เขาก็ลองหันไปถามผู้คนที่มาร่วมงานว่า:

"ทำไมพวกคุณถึงได้แห่กันมามากมายแบบนี้?"

ชายคนหนึ่ง : "พวกเราล้วนเป็นลูกความของเขา"

ชายคนแรก : "พวกคุณคงมาแสดงความเคารพศพสินะ อืม..ช่างน่าประทับใจอะไรยังงี้"

ชายคนนั้น : "ไม่ใช่หรอก..พวกเรามาดูให้แน่ใจ ว่ามันน่ะ ตายแล้วจริงๆ"

Wednesday, November 9, 2011

ลาก่อนครับ แม่

ลาก่อนครับ แม่

ชายหนุ่มคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินซื้อของอยู่ในซุปเปอร์มาเก็ต เขาสังเกตเห็นหญิงชรา
คนหนึ่ง เดินตามเขาตลอดเวลา ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดอะไร เขาก็หยิบสินค้าที่ต้องการ
แล้วเดินไปเข้าแถวที่ช่องจ่ายเงิน แต่ปรากฎว่าหญิงชราคนนั้น ได้ไปยืนเข้าแถวอยู่ก่อนแล้ว

หญิงชรา : "ขออภัยนะพ่อหนุ่ม ถ้าการที่ฉันจ้องมองเธอ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดละก็
เป็นเพราะว่าเธอนั้น มีหน้าตาเหมือนกับลูกชายของฉันที่เพิ่งเสียไปเมื่อไม่นานมานี้"

ชายหนุ่ม : "เสียใจด้วยนะครับ คุณป้ามีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ?"

หญิงชรา : "มีสิจ๊ะ..ตอนที่ฉันจะเดินจากเธอไป เธอช่วยพูดว่า"ลาก่อนครับแม่.!"ได้มั้ย?"
"นั่นจะช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากๆเลยละพ่อหนุ่ม"

ชายหนุ่ม :"ได้ครับ"

เมื่อหญิงชรารับเอาถุงบรรจุสินค้าข้าวของที่เธอซื้อแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มก็ร้องบอกเธอว่า
"ลาก่อนครับแม่.!" เมื่อถึงคิวที่เขานั้นจะต้องชำระค่าสินค้า ปรากฎว่ายอดบิลของเขานั้น
เป็นเงินสูงถึง 280 เหรียญ ชายหนุ่มก็โวยลั่น : "เป็นไปได้ยังไง?..ผมซื้อของจิ๊บจ๊อย
แค่2-3อย่างเท่านั้น!"

แคชเชียร์ : "คุณแม่ของคุณบอกว่า คุณจะเป็นคนจ่ายส่วนของเธอด้วย"

สุดยอดหญิงผู้เสียสละ

สุดยอดหญิงผู้เสียสละ

คนสิบเอ็ดคนโหนเชือกห้อยต่องแต่งอยู่ใต้ท้องเฮลิคอปเตอร์ซึ่งลอยอยู่บนอากาศ
เป็นชายสิบคนและหญิงคนหนึ่ง เชือกที่พวกเขาห้อยโหนอยู่นั้นทำท่าว่าจะขาด
ทุกคนเห็นตรงกันว่า พวกเขาคนหนึ่งจะต้องสละชีวิตมิฉะนั้นจะตายกันทั้งหมด
แต่ก็ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นคนคนนั้น และแล้วฝ่ายหญิงได้พูดขึ้นว่า
เธอจะขอเป็นคนที่จะปล่อยมือจากเชือกก็แล้วกัน เนื่องจากเธอนั้นเป็นผู้หญิง
ซึ่งปกติก็มักจะเป็นผู้ที่ต้องคอยเสียสละเพื่อสามีและลูกๆเป็นประจำอยู่แล้วโ
ดยมิได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
ทันทีที่เธอพูดจบ ชายทั้งสิบคนก็ตบมือให้ด้วยความซาบซึ้งใจ

Tuesday, November 8, 2011

เรื่องที่อยากได้ยิน

เรื่องที่อยากได้ยิน

สามสหายได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ วิญญาณก็ล่องลอยไปยังประตูสวรรค์

ณ.ที่นั้น เซนต์ ปีเตอร์ ได้ขอให้พวกเขาตอบปัญหาข้อหนึ่ง

"เมื่อตอนที่พวกคุณนอนหงิกอยู่ในโลงและมีเพื่อนฝูง, ญาติโยมมาร้องห่มร้องไห้แสดงความเสียใจนั้น คุณอยากได้ยินพวกเขาพูดถึงคุณว่ายังไง?"

ชายคนแรก:"ผมอยากได้ยินพวกเขาพูดว่า ผมนั้นเป็นหมอที่เก่งกาจและเป็นคนที่รักครอบครัวมาก"

ชายคนที่สอง:"ผมอยากได้ยินพวกเขาพูดว่าผมนั้นเป็นสามีที่ประเสริฐและเป็นครูที่ดีของเด็กๆและเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดพัฒนาการที่สำคัญยิ่งในเด็กรุ่นใหม่"

ชายคนที่สาม:"ผมอยากได้ยินพวกเขาพูดว่า "เฮ้ย! ดูสิ..เขาฟื้นแล้ว

Wednesday, November 2, 2011

ฝรั่งเขียน

ฝรั่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องมาเที่ยวกรุงเทพฯ ในหนังสือถาม รู้ไหมว่า ขณะที่คนไทยกินอาหารอยู่นั้น เขาคิดอะไรอยู่ มีเพื่อนคนไทยทำงานในสถานทูตประเทศอาฟริกันแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ข้าราชการของสถานทูตนั้นถามเพื่อนว่า เมืองไทยมีบันไดไฟฟ้าเลื่อนด้วยหรือ

เรื่องแปลก ๆ ที่คนต่างชาติเค้าเจอที่ไทยมีอะไรบ้าง

- เป็ปซี่ใส่น้ำแข็งใส่ถุง

- ช้างเดินเล่นกลางถนน ตำรวจไม่จับ

- คนไทย ทำไมต้องมีชื่อเล่น

- มีเพื่อนอเมริกันมาเที่ยวเมืองไทย ตอนเห็นข้าวหลามครั้งแรก
เอามือป้องปาก ตกใจ Oh My God !!!!! ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้
ข้าวหลามกระบอกเดียวถ่ายรูปมันทุกมุม ตื่นเต้นกว่าถูกล็อตโต้เสียอีก

- เอาปลาเน่ามาทอดกิน เหม็นตลบไป 3 บ้าน

- กระดาษสำหรับใช้เช็ดดาก เอามาใช้เช็ดปากก็ได้ด้วย

- ร้านอาหารจัดวางกระโถนไว้ใต้โต๊ะ ฝรั่งถามว่ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม

- บ้านมีศาลพระภูมิ ฝรั่งถาม บ้านหลังเล็กๆหน้าบ้าน เอาไว้ให้อะไรอยู่

- อาหารข้างทาง ริมถนน หาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

- กินผลไม้จิ้มเกลือ กินก๋วยเตี๋ยวแล้วใส่น้ำตาล

- คนไทยจูงมือคนแก่กับเด็ก ๆ ข้ามถนน, ลุกให้คนแก่นั่ง ... ฝรั่งเห็นแล้วซึ้ง

- ข้ามถนน ตรงไหนก็ได้

- ผู้ใหญ่ตีเด็ก ฝรั่งเห็นแม่ค้าที่ตลาดจตุจักรตีก้นลูกผลั๊ว ๆ ฝรั่งตกใจตาค้างเลย

- ละครไทย ทำไมตัวละครหญิงต้องทำเสียงแปร๋น ๆ พร้อมกับทำตาเถลือกถลน

- คนไทยกินกันทั้งวันทั้งคืน กินได้ทุกที่ ไปที่ไหนๆ ก็มีอาหารขายข้างทางทั่วประเทศไทย

- อาหารเช้า กลางวัน เย็น เหมือนกันหมดใครอยากกินตอนไหน อยากกินอะไรก็กิน

- ทำไมคนไทยชอบกินอาหารนก ( เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแตงโม )

- มีเพื่อนเคยถามว่ เธอไปโรงเรียนยังไง มีรถขับรึเปล่า
เราก็ตอบเขาไป มีรถ แล้วเพื่อนถามกลับมาพร้อมทำตาโต
จริงเหรอ เรานึกว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียน แป่ว..=__=

-
เพื่อนฝรั่งได้ยินพระสวดงานทำบุญบ้าน ถามว่าทำไมต้องให้คนเหล่านี้มาร้องเพลง

- ละครพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทอง สามีชอบดู ทั้งที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
ถามว่า-ทำไมเด็กหญิงคนนั้นรักต้นมะเขือเทศ พอถูกตัด มะเขือเทศร้องไห้เสียงดัง
ดิฉัน ตอบว่า- เพราะมะเขือเทศเคยเป็นแม่ของเด็ก ก่อนหน้านั้นเป็นคนจริงๆ
พอแม่ตายกลายเป็นปลาทอง ถูกจับกินทิ้งก้างไว้เลยกลายเป็นมะเขือ
เดี๋ยวยูดูนะ ต่อไปมะเขือจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ มีใบเป็นสีเงินสีทองด้วยแหละ
นี่ยังเล่าไม่จบเลยนะว่าเด็กหญิงโตขึ้นถูกนางอิจฉาฆ่าตาย แล้วกลายเป็นนกแขกเต้า!

- ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านการทำนาที่แปลกมาก
(
คือพัฒนาได้ช้านั่นเอง) ทั้งๆที่เป็นอาชีพประจำประเทศ
อันนี้เทียบกับญี่ปุ่นคือ สมัยก่อนญี่ปุ่นมีปัญหาขาดแคลนข้าวอย่างหนัก
จนต้องนำเข้าข้าวของไทย แต่พี่ไทยพอเห็นเงินก้อนใหญ่ดันโลภ เอาข้าวปลอมปนไปขายให้เค้า
เค้าเลยไม่ยอมซื้อข้าวกับเราอีกเลย หลังจากนั้นญี่ปุ่นเลยทำนาเอง
เค้าสามารถทำนาได้สุดยอดมากๆ สามารถเกี่ยวข้าวทั้งไร่ได้ภายในวันเดียว เป็นระเบียบมาก
และสามารถสั่งข้าวผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ผุ้บริโภคสามารถซื้อข้าวกับชาวนาได้โดยตรง (ขอย้ำว่าสามารถจัดการได้ใน 1 วัน)

- ทามมายโคนทายชอบขี้.. ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้บ่น ขี้โม้ ขี้เห่อ ขี้อิจฉา ขี้มูก ขี้ตา ขี้เหม็น etc....
เอะอะ อะไรก็ขี้ๆๆๆๆๆ ...shit this shit that all the time

-
ผู้ชายเจ้าชู้จะโดนภรรยาตัดอวัยวะเพศ แล้วจะขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1

-
คนไทยรักพระมหากษัตริย์มาก ฝรั่งตกใจว่าไม่คิดว่ าคนไทยจะรักพระมหากษัตริย์มากถึงเพียงนี้

- ชาวมาเลย์ตกใจมากที่เห็นคนไทยเอารถราคาเป็นล้านมาทำ Taxi นั่งแล้ว ไม่อยากลง

- ใส่เสื้อผ้าเต็มสูบเล่นน้ำทะเล น้ำตก

- ฝรั่งงงกับภาษาของกระเป๋ารถเมล์มากคือคำว่าไป-ป้าย มันออกเสียงเหมือนกัน
ทำไมคำนึงรถถึงจอด กับอีกคำรถถึงวิ่งออกไป ฝรั่งฟังแล้วงงว่ามันคำเดียวไม่ใช่เหรอ

- ร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมมีทั้งบนบกกับในเรือ คือทำไมบางร้านขายบนบกต้องเอาเรือมาจอด
แล้วทำไมคนขายต้องไปนั่งขายในเรือด้วยทั้งๆ ที่อยู่บนบกแท้ๆ

- ฝรั่งงงบางวันมีคนใส่เสื้อสีชมพูเยอะแยะไปหมด

- ทำไมเวลาขึ้นรถไฟฟ้าประเทศไทยแล้วเดินไปแลกเหรียญที่เคาน์เตอร์
ถึงซื้อตั๋วที่นั่นเลยไม่ได ต้องแลกเป็นเหรียญแล้วเดินกลับมาหยอดอีก

- ฝรั่งงงคนไทยนิสัยประหลาดผลไม้ไม่สุกก็เอามากิน เช่น มะม่วง

- คนเยอรมันประทับใจห้างในกรุงเทพฯ เปิดทุกวัน

- คนญี่ปุ่นตกใจมากกับคำว่า "กินเล่นๆ" บอกว่าคนไทยกินตลอดเวลาเลย
ถามว่ากินทำไม ..?บอกว่ากินเล่น ตกใจมากเพราะที่ญี่ปุ่นไม่มีกินเล่นๆ มีแต่กินจริงจัง

- สาววัยรุ่นชาวฮอลแลนด์มาอยู่แถวอ.นาแก จ.นครพนม ไม่ยอมกลับบ้าน
แม่ตามให้กลับบ้านเท่าไรก็ไม่กลับบอกว่ากลับไปบ้านก็ไม่มีอะไรกิน หนาวก็หนาว
อยู่นี่มีกินทั้งปี อยากกินอะไรดึกแค่ไหนก็เดินออกมาซื้อกินได้ตลอด ผลไม้มีกินทั้งปี
กลับบ้านไปมีกินแต่หน้าร้อน ดอกไม้ก็บานทั้งปี ไม่ใช่ได้ดูแค่หน้าร้อนแบบบ้านเขา

- นักร้องคลิสตี้ติดอาหารไทยจนกลับไปบ้านเยี่ยมปู่ยา ต้องพกมาม่าไปด้วยเพราะ
กินอาหารบ้านตัวเองไม่ได้ มันเลี่ยนนมเนย

- ทำไมคนไทยชอบชวนกินข้าว

- เวลาเล่นเน็ตคนไทยชอบพิมพ์ "555+"

ฝรั่งเขียน

ฝรั่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องมาเที่ยวกรุงเทพฯ ในหนังสือถาม รู้ไหมว่า ขณะที่คนไทยกินอาหารอยู่นั้น เขาคิดอะไรอยู่ มีเพื่อนคนไทยทำงานในสถานทูตประเทศอาฟริกันแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ข้าราชการของสถานทูตนั้นถามเพื่อนว่า เมืองไทยมีบันไดไฟฟ้าเลื่อนด้วยหรือ

เรื่องแปลก ๆ ที่คนต่างชาติเค้าเจอที่ไทยมีอะไรบ้าง

- เป็ปซี่ใส่น้ำแข็งใส่ถุง
-
ช้างเดินเล่นกลางถนน ตำรวจไม่จับ
-
คนไทย ทำไมต้องมีชื่อเล่น
-
มีเพื่อนอเมริกันมาเที่ยวเมืองไทย ตอนเห็นข้าวหลามครั้งแรก
เอามือป้องปาก ตกใจ Oh My God !!!!! ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้
ข้าวหลามกระบอกเดียวถ่ายรูปมันทุกมุม ตื่นเต้นกว่าถูกล็อตโต้เสียอีก
-
เอาปลาเน่ามาทอดกิน เหม็นตลบไป 3 บ้าน
-
กระดาษสำหรับใช้เช็ดดาก เอามาใช้เช็ดปากก็ได้ด้วย
-
ร้านอาหารจัดวางกระโถนไว้ใต้โต๊ะ ฝรั่งถามว่ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม
-
บ้านมีศาลพระภูมิ ฝรั่งถาม บ้านหลังเล็กๆหน้าบ้าน เอาไว้ให้อะไรอยู่
-
อาหารข้างทาง ริมถนน หาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
-
กินผลไม้จิ้มเกลือ กินก๋วยเตี๋ยวแล้วใส่น้ำตาล
-
คนไทยจูงมือคนแก่กับเด็ก ๆ ข้ามถนน, ลุกให้คนแก่นั่ง ... ฝรั่งเห็นแล้วซึ้ง
-
ข้ามถนน ตรงไหนก็ได้
-
ผู้ใหญ่ตีเด็ก ฝรั่งเห็นแม่ค้าที่ตลาดจตุจักรตีก้นลูกผลั๊ว ๆ ฝรั่งตกใจตาค้างเลย
-
ละครไทย ทำไมตัวละครหญิงต้องทำเสียงแปร๋น ๆ พร้อมกับทำตาเถลือกถลน
-
คนไทยกินกันทั้งวันทั้งคืน กินได้ทุกที่ ไปที่ไหนๆ ก็มีอาหารขายข้างทางทั่วประเทศไทย
-
อาหารเช้า กลางวัน เย็น เหมือนกันหมดใครอยากกินตอนไหน อยากกินอะไรก็กิน
-
ทำไมคนไทยชอบกินอาหารนก ( เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแตงโม )
-
มีเพื่อนเคยถามว่ เธอไปโรงเรียนยังไง มีรถขับรึเปล่า
เราก็ตอบเขาไป มีรถ แล้วเพื่อนถามกลับมาพร้อมทำตาโต
จริงเหรอ เรานึกว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียน แป่ว..=__=
-
เพื่อนฝรั่งได้ยินพระสวดงานทำบุญบ้าน ถามว่าทำไมต้องให้คนเหล่านี้มาร้องเพลง
-
ละครพื้นบ้านเรื่องปลาบู่ทอง สามีชอบดู ทั้งที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
ถามว่า-ทำไมเด็กหญิงคนนั้นรักต้นมะเขือเทศ พอถูกตัด มะเขือเทศร้องไห้เสียงดัง
ดิฉัน ตอบว่า- เพราะมะเขือเทศเคยเป็นแม่ของเด็ก ก่อนหน้านั้นเป็นคนจริงๆ
พอแม่ตายกลายเป็นปลาทอง ถูกจับกินทิ้งก้างไว้เลยกลายเป็นมะเขือ
เดี๋ยวยูดูนะ ต่อไปมะเขือจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ มีใบเป็นสีเงินสีทองด้วยแหละ
นี่ยังเล่าไม่จบเลยนะว่าเด็กหญิงโตขึ้นถูกนางอิจฉาฆ่าตาย แล้วกลายเป็นนกแขกเต้า!
-
ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านการทำนาที่แปลกมาก
(
คือพัฒนาได้ช้านั่นเอง) ทั้งๆที่เป็นอาชีพประจำประเทศ
อันนี้เทียบกับญี่ปุ่นคือ สมัยก่อนญี่ปุ่นมีปัญหาขาดแคลนข้าวอย่างหนัก
จนต้องนำเข้าข้าวของไทย แต่พี่ไทยพอเห็นเงินก้อนใหญ่ดันโลภ เอาข้าวปลอมปนไปขายให้เค้า
เค้าเลยไม่ยอมซื้อข้าวกับเราอีกเลย หลังจากนั้นญี่ปุ่นเลยทำนาเอง
เค้าสามารถทำนาได้สุดยอดมากๆ สามารถเกี่ยวข้าวทั้งไร่ได้ภายในวันเดียว เป็นระเบียบมาก
และสามารถสั่งข้าวผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ผุ้บริโภคสามารถซื้อข้าวกับชาวนาได้โดยตรง (ขอย้ำว่าสามารถจัดการได้ใน 1 วัน)
-
ทามมายโคนทายชอบขี้.. ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้บ่น ขี้โม้ ขี้เห่อ ขี้อิจฉา ขี้มูก ขี้ตา ขี้เหม็น etc....
เอะอะ อะไรก็ขี้ๆๆๆๆๆ ...shit this shit that all the time
-
ผู้ชายเจ้าชู้จะโดนภรรยาตัดอวัยวะเพศ แล้วจะขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1
-
คนไทยรักพระมหากษัตริย์มาก ฝรั่งตกใจว่าไม่คิดว่ าคนไทยจะรักพระมหากษัตริย์มากถึงเพียงนี้
-
ชาวมาเลย์ตกใจมากที่เห็นคนไทยเอารถราคาเป็นล้านมาทำ Taxi นั่งแล้ว ไม่อยากลง
-
ใส่เสื้อผ้าเต็มสูบเล่นน้ำทะเล น้ำตก
-
ฝรั่งงงกับภาษาของกระเป๋ารถเมล์มากคือคำว่าไป-ป้าย มันออกเสียงเหมือนกัน
ทำไมคำนึงรถถึงจอด กับอีกคำรถถึงวิ่งออกไป ฝรั่งฟังแล้วงงว่ามันคำเดียวไม่ใช่เหรอ
-
ร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมมีทั้งบนบกกับในเรือ คือทำไมบางร้านขายบนบกต้องเอาเรือมาจอด
แล้วทำไมคนขายต้องไปนั่งขายในเรือด้วยทั้งๆ ที่อยู่บนบกแท้ๆ
-
ฝรั่งงงบางวันมีคนใส่เสื้อสีชมพูเยอะแยะไปหมด
-
ทำไมเวลาขึ้นรถไฟฟ้าประเทศไทยแล้วเดินไปแลกเหรียญที่เคาน์เตอร์
ถึงซื้อตั๋วที่นั่นเลยไม่ได ต้องแลกเป็นเหรียญแล้วเดินกลับมาหยอดอีก
-
ฝรั่งงงคนไทยนิสัยประหลาดผลไม้ไม่สุกก็เอามากิน เช่น มะม่วง
-
คนเยอรมันประทับใจห้างในกรุงเทพฯ เปิดทุกวัน
-
คนญี่ปุ่นตกใจมากกับคำว่า "กินเล่นๆ" บอกว่าคนไทยกินตลอดเวลาเลย
ถามว่ากินทำไม ..?บอกว่ากินเล่น ตกใจมากเพราะที่ญี่ปุ่นไม่มีกินเล่นๆ มีแต่กินจริงจัง
-
สาววัยรุ่นชาวฮอลแลนด์มาอยู่แถวอ.นาแก จ.นครพนม ไม่ยอมกลับบ้าน
แม่ตามให้กลับบ้านเท่าไรก็ไม่กลับบอกว่ากลับไปบ้านก็ไม่มีอะไรกิน หนาวก็หนาว
อยู่นี่มีกินทั้งปี อยากกินอะไรดึกแค่ไหนก็เดินออกมาซื้อกินได้ตลอด ผลไม้มีกินทั้งปี
กลับบ้านไปมีกินแต่หน้าร้อน ดอกไม้ก็บานทั้งปี ไม่ใช่ได้ดูแค่หน้าร้อนแบบบ้านเขา
-
นักร้องคลิสตี้ติดอาหารไทยจนกลับไปบ้านเยี่ยมปู่ยา ต้องพกมาม่าไปด้วยเพราะ
กินอาหารบ้านตัวเองไม่ได้ มันเลี่ยนนมเนย
-
ทำไมคนไทยชอบชวนกินข้าว
-
เวลาเล่นเน็ตคนไทยชอบพิมพ์ "555+"

ญี่ปุ่น กับไทย ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

เป็นเรื่องให้ต้องเปรียบเทียบระหว่างญี่ปุ่น กับไทย ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ว่าเราเป็นอย่างไร และเขาเป็นอย่างไร

ญี่ปุ่น :: ลดราคาของและแจกฟรี
ไทย :: ของขึ้นราคาตามระดับน้ำ
ญี่ปุ่น :: ซื้อน้ำได้คนละขวดเท่านั้น
ไทย :: กักตุนอาหารใครมีตังค์ซื้อได้เท่าไหร่ซื้อไป
ญี่ปุ่น :: เข้าแถวต่อคิวรับของบริจาค
ไทย :: แย่งกันแล้วแย่งกันอีก ฉันกลัวไม่ได้
ญี่ปุ่น :: แจกน้ำคนละสองขวดแต่เอาขวดเดียวกลัวไม่พอคนอื่น
ไทย :: ฉันได้มากเท่าไหร่ยิงดี ของฟรี
ญี่ปุ่น :: ร่วมกันสร้างร่วมกันแก้ไข
ไทย :: แตกแยกไปของใครของมัน
ญี่ปุ่น :: ช่วยกันป้องกันก่อสร้างส่วนที่พังไป
ไทย :: ช่วยกันทำลาย ฉันท่วม เธอก็ต้องท่วม
ญี่ปุ่น :: ส่งแจ้งเตือนแผ่นดินไหวทางโทรศัพท์
ไทย :: น้ำมาฉันจุดพลุเตือน บ้านฉันไม่ท่วมแต่ฉันสะดุ้ง
ญี่ปุ่น :: ไม่มีของหายไม่มีทรัพย์สินโดนขโมย
ไทย :: เป็นช่วงนาทีทองของขโมยจริงๆ
ญี่ปุ่น :: แก้ไขสถานการณ์ได้ดีจากทุกฝ่าย
ไทย :: ตอนนี้มีฝ่ายไหนบ้างฉันยังไม่รู้เลย ฉันช่วยตัวเองตลอด
ญี่ปุ่น :: พร้อมใจกันตัดไฟเพื่อช่วยชาติ
ไทย :: อย่าตัดไฟนะเดี๋ยวฉันออนเฟสไม่ได้
ญี่ปุ่น :: บริจาคร้อยล้านไม่ต้องออกข่าว
ไทย :: บริจาคหมื่นเดียวก็ออกข่าวเจ็ดวันเจ็ดคืน
ญี่ปุ่น :: เสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมไปซ่อมโรงไฟฟ้าจนตาย
ไทย :: ฉันกลัวจระเข้ไม่กล้าลงน้ำ(จะบ้าตาย)
ญี่ปุ่น :: หน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือทั้งวันทั้งคืน
ไทย :: บ้านอยู่ลึกน้ำลึกเข้าไปไม่ได้ รอพรุ่งนี้เช้านะ
ญี่ปุ่น :: แก้ไขปัจจุบันให้ดีที่สุด
ไทย :: เตรียมพร้อมรับมืออนาคตเท่านั้น(แนวคิดเก๋ๆ)
ญี่ปุ่น :: สั่งอพยพคนได้อย่างรวดเร็ว
ไทย :: ประกาศออกโทรโข่งแล้วแต่ไม่ได้ยิน โทรโข่งถ่านอ่อน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อยมาก พื้นที่เป็นเกาะ มีภัยธรรมชาติจากลมพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดอยู่บ่อยๆ พื้นที่ก็น้อย อาหารการกินไม่สะดวกสบายเหมือนบ้านเรา แต่เนื่องจากประชาชนในประเทศของเขามีประสิทธิภาพ ขยันขันแข็ง มีวินัย ใฝ่หาความก้าวหน้า และมีหลักในการปกครองประเทศที่ดี พลเมืองมีความสามัคคี มีความรักชาติ จึงส่งผลให้ประเทศญี่ปุ่นพัฒนา และเจริญรุ่งเรือง กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกก็ว่าได้

ส่วนพี่ไทย ประเทศมีสภาพภูมิศาสตร์ดีเยี่ยม ไม่มีภัยธรรมชาติที่รุนแรง หากเปรียบน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ กับแผ่นดินไหว และสึนามิที่ญี่ปุ่น เขายิ่งกว่าเราหลายเท่า อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ที่ยังขาดอยู่คือ พี่ไทยยังขาดวินัย ยังมีความมานะพากเพียรไม่พอ ถึงแม้ประเทศไทยจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ มีธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่เรายังเห็นแก่ความสะดวกสบายของตน เรานำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติเพียงบางส่วน เช่น มีน้ำใจ มีเมตตา แต่ขาดความมานะ พากเพียร และวินัย ทำให้แม้ประเทศไทยจะน่าอยู่กว่าหลายๆ ประเทศ แต่ก็ยังล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ

เชื่อว่าหลังผ่านวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ไป นี่คงเป็นบทเรียนสำคัญที่เราได้เรียนรู้พร้อมๆกันทั้งประเทศ ว่าเราควรทำอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ เรียนรู้จักที่จะเพิ่งตนเอง มากว่ารอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เรียนรู้จักการเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรียนรู้การบางปัน และที่สำคัญที่สุดคือเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ไม่ใช่เอาชนะธรรมชาติ ...