Sunday, January 20, 2013

นิทานเซน : ชาวนาซื้อที่ดิน

คนผู้หนึ่ง เอ่ยถามอาจารย์เซนว่า "สิ่งใดน่ากลัวที่สุดในโลก?"

อาจารย์เซนตอบว่า "ความอยาก"

คนผู้นั้นยังคงไม่เข้าใจ อาจารย์เซนจึงเล่าเรื่องๆ หนึ่งให้เขาฟัง ใจความดังนี้

ยังมีชาวนาผู้หนึ่ง ต้องการหาซื้อที่ดินสักหนึ่งผืน เขาได้ยินมาว่ามีคนต้องการขาย จึงได้เดินทางไปพบเพื่อติดต่อขอซื้อ เมื่อไปถึง ชาวนาจึงได้เอ่ยถามคนผู้นั้นว่า "ที่ดินของท่านขายอย่างไร?"

ผู้ที่ต้องการขายที่ดินตอบว่า "ขอเพียงท่านมอบเงิน ให้ข้า 1000 ตำลึงเท่านั้น จากนั้นให้เวลาท่านหนึ่งวันเต็มๆ นับจากพระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ให้ท่านออกเดินเท้าไปรอบๆ ที่ดิน หากท่านสามารถเดินวนไปได้ไกลเท่าไหร่ ที่ดินเหล่านั้นล้วนนับเป็นของท่าน แต่หากว่าท่านเดินทางกลับมายังจุดเริ่มต้นไม่ทันพระอาทิตย์ตกดิน ท่านจะไม่ได้ที่ดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว"

ชาวนาได้ฟังดังนั้นในใจก็คิดว่า "เช่นนี้ก็ไม่เลว ข้ายอมลำบากหนึ่งวัน เดินให้เร็วที่สุด ไกลที่สุด เพื่อที่จะได้ที่ดินกว้างใหญ่ การซื้อขายนี้ช่างคุ้มค่ายิ่งนัก" ดังนั้นเขาจึงตกลงทำสัญญากับผู้ขายที่ดินรายนั้น

วันรุ่งขึ้น เมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ชายชาวนาก็เร่งฝีเท้าจ้ำเดินออกไปทันที เมื่อถึงยามเที่ยงวัน เขาหันหลังกลับมามองก็พบว่าเขามาไกลจนมองไม่เห็นจุดเริ่มต้นแล้ว จึงค่อยเลี้ยงโค้งเพื่อเดินวนไปอีกด้านหนึ่ง พร้อมทั้งก้าวเดินต่อไปโดยไม่ยอมหยุดพัก แม่ว่าจะหิวโหยและเหนื่อยอย่างยิ่งก็ตาม เขาก้าวเดินต่อไป ต่อไป จนกระทั่งพบว่าพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว ในใจเขาจึงร้อนรนขึ้นมาเพราะเกรงว่าหากกลับไปไม่ทันพระอาทิตย์ตกจะหมดสิทธิ์ ครอบครองที่ดินทั้งหมด เขาจึงรีบหันหลังกลับเพื่อเดินไปยังจุดเริ่มต้น แต่พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลาลับฟ้าเต็มที เขาที่ทั้งเหน็ดเหนื่อย ตื่นเต้น และหิวโหยพยายามเร่งฝีเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า จนกระทั่งเหลือเพียงสองก้าวจะถึงจุดเริ่มต้น ทว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามีได้ถูกใช้หมดสิ้นไปแล้ว สุดท้ายได้แต่ล้มลง ณ ที่นั้น ขณะล้มลงมือทั้งสองพลันทาบทับไปที่จุดเริ่มต้นพอดีกับที่พระอาทิตย์ลาลับฟ้า พร้อมกับชายชาวนาที่ล้มหายใจขาดห้วง สิ้นใจไปในลักษณะนั้น

"ที่ดินผืนกว้างใหญ่มหาศาลตกเป็นของชาวนาตามที่ได้ตกลงกันไว้ แต่จะมีความหมายอันใด ในเมื่อเขาไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว"

เมื่อจบเรื่องราวที่อาจารย์เซนเล่า เหล่าศิษย์ก็กระจ่างในใจ เข้าใจว่าเหตุใด "ความอยาก" จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก

ปัญญาเซน : กิเลส ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น คือจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์

Saturday, January 5, 2013

คำแนะนำสำหรับปีใหม่จาก ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’

เราเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วยความกระตือรือร้นที่หดหู่ และ การมองโลกแง่ดีที่ถูกทำลาย

ความสุขของเราถูกเจือจางลง และ ความสงบสุขของเราถูกคุกคามด้วยเชื้อป่วยไข้ของเศรษฐกิจ ที่ระบาดมายังครอบครัว องค์กร และ ประเทศชาติของเรา

เราทุกคนต่างค้นหายารักษาอย่างสิ้นหวัง เพื่อรักษาความเจ็บป่วยของเศรษฐกิจ และให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

พวกเราต่างฝากความหวังไว้กับผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ ว่าพวกเขาจะจัดหายารักษาให้แก่พวกเราได้

ทั้งที่จริง พวกเราคงลืมไปว่า… ก็ไม่ใช่พวกผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจเหล่านี้หรอกหรือ ที่เป็นคนสร้างความวุ่นวายทางเศรษฐกิจนี้ขึ้นมาเอง
ทุกๆปีใหม่ ผมนำ “คติพจน์เก่าๆ” มาเป็น “ไฟนำทาง” อนาคตของผม

สูตรบำบัดรักษาตัวเองต่อไปนี้ ให้ความมั่นใจกับผมว่า…

ในแต่ละปีที่ผ่านไป ผมเติบโต-อย่างมีปัญญามากขึ้น ไม่ใช่แก่-อายุมากขึ้น

ปีนี้ผมจึงขอเชิญชวนทุกคน ให้นำความคิดคุณเจาะเข้าถึงข้อคิดที่ให้สติทางการเงินนี้ร่วมกัน และกลายเป็น ผู้ที่ชาญฉลาดทางเศรษฐกิจ

ความขยัน : ทุกความขยัน…นำรายได้มาให้, แค่พูด…มีแต่นำความยากจนมาให้

ขี้เกียจ : กุ้งลอบสเตอร์ที่หลับ จะถูกกระแสน้ำพัดพาหายไป

เงินที่หาได้ : อย่าพึ่งพา “แหล่งรายได้เพียงทางเดียว” เป็นอันขาด (อย่างน้อย ทำให้ “การลงทุนใดๆ” เกิดเป็นรายได้แหล่งที่ 2 ของคุณ)

การใช้จ่าย : ถ้าคุณ “ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น”, คุณจะต้อง “ขายสิ่งที่จำเป็น”…ในไม่ช้า

การออม : อย่าเพียงออมเท่าที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่ให้ใช้จ่ายในส่วนที่เหลือจากการเก็บออมแล้ว

การยืม : คนเป็น“ลูกหนี้” กลายเป็น…“ทาสของเจ้าหนี้”

ทำบัญชี : จะมีประโยชน์อะไรในการกางร่ม, ถ้ารองเท้าของคุณฉีกขาดอยู่

ตรวจสอบ : ระมัดระวังแม้รายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ, รอยรั่วเล็กๆ สามารถจมเรือใหญ่ๆได้

การเสี่ยง : อย่าตรวจความลึกของแม่น้ำด้วยเท้า 2 ข้างเป็นอันขาด (มีแผนอื่นรองรับไว้ให้พร้อม)

การลงทุน : อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณ…รวมไว้ในตระกร้าเพียงใบเดียว

ผมมั่นใจว่า… ใครก็ตามที่ฝึกปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้อยู่แล้ว เป็นผู้ที่ดำรงการมีฐานะการเงินที่แข็งแรงไว้ได้

ผมมั่นใจเท่าๆกันด้วยว่า… ใครก็ตามที่เริ่มต้นฝึกปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้ จะกลับมาเป็นผู้มีฐานะการเงินที่เข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว

ขอเราทุกคนต่างกลายเป็น ผู้ที่มีปัญญามากขึ้น และ นำไปสู่ความสุข มีชีวิตที่แข็งแรง, มั่งคั่งและ สงบสุข

*************************

คำแนะนำสำหรับปีใหม่จาก ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’

25 ก.พ. 2552

แปลและเรียบเรียง โดย โอกาส ชาญเชาวน์กุล