Saturday, December 27, 2014

ไม้เท้าแห่งชีวิต

ไม้เท้าแห่งชีวิต
ครั้งหนึ่งมีแม่ชีสาวสวยและบาทหลวงวัยกลางคน เดินทางรอนแรมไปเพื่อสอนศาสนา
ทั้งคู่ได้ขี่อูฐเพื่อเดินทางข้ามทะเลทรายอันเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกกตา แม้ว่าจะเดินทางเป็นเวลาหลายวัน
แต่ทั้งคู่ก็ยังข้ามไม่พ้นทะเลทราย ซะที
และแล้วในที่สุด อูฐที่ทั้งคู่ขี่มา ก็ล้มลง และขาดใจตาย
บาทหลวงรู้ดีว่าวาระสุดท้ายกำลังจะมาถึง จึงได้หันไปที่แม่ชี แล้วได้พูดว่า
"ซิสเตอร์ นี่คงจะเป็นวาระสุดท้ายของเราแล้ว เจ้าอยากจะได้อะไร"
แม่ชีหันกลับมามองบาทหลวงแล้วตอบว่า
"คุณพ่อ ตลอดชีวิตที่ดิฉันรับใช้พระเจ้ามาตั้งแต่เกิดจนอายุได้ 19 ปีนี้
ยังไม่เคยเห็นผู้ชายเปลีอยเปล่าเลยสักครั้ง ถ้าได้เห็น ดิฉันคงตายตาหลับ"
บาทหลวงได้ฟัง ก็ตกใจมาก กล่าวว่า
"ซิสเตอร์ ข้าไม่นึกเลยว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้ แต่เอาเถอะ ไหนๆเราก็จะต้องตายแล้ว
เราก็จะสงเคราะห์เจ้าสักครั้ง"
ว่าแล้วบาทหลวงก็ยืนขึ้น แล้วถอดชุดออก โยนกองลงกับพื้น แม่ชีหันมา มองบาทหลวง
ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเธอก็อุทานเสียงตื่นเต้น ชี้ไปตรงกลางระหว่างขาของบาทหลวงแล้วถามว่า
"คุณ พ่อคะ นั่นคืออะไรคะ" บาทหลวงได้ฟังคำถาม ก็งงไม่รู้จะตอบว่าอะไร แล้วในที่สุดเขาก็ตอบว่า " นี่น่ะ คือไม้เท้าแห่งชีวิต หากเสียบมันลงไปในช่องของเพศเมีย ในไม่ช้าก็จะมีชีวิตใหม่เกิดมา"
แม่ชีได้ฟังอย่างนั้น ก็จ้องมองด้วยใบหน้าแดงกล่ำด้วยความตื่นเต้นพลางพูดว่า
"คุณพ่อคะ เร็วสิคะ ใช้ไม้เท้าของท่านเสียบคุณเจ้าอูฐนี่สิ เราจะได้มีอูฐตัวใหม่มาขี่กัน"

ยายครับแสบจริงๆ....

ยายครับแสบจริงๆ....
หญิงชรานางหนึ่งถือถุงใบเขื่องเดินเข้าไปในธนาคาร
และกล่าวกับพนักงานที่เคาน์เตอร์
ว่าต้องการฝากเงินสามล้านบาท
แต่ขอคุยกับผู้จัดการโดยตรง
พนักงานเห็นว่าหญิงชรามีเงินจำนวนมาก
เลยพาไปห้องผู้จัดการ เมื่อไปถึง

ผู้จัดการเกิดความสงสัยว่าหญิงชราไปเอาเงินมาจากไหนเลยถามขึ้นว่า
ผู้จัดการ - คุณยายเอาเงินมาจากไหนมากมายครับ?
คุณยาย - ยายชนะพนันมาจ้ะ
ผู้จัดการ - ยายไปพนันอะไรมาเหรอครับ?
คุณยาย - ก็ไม่มีอะไรมากหรอกพ่อหนุ่ม....อยากรู้ใช่ไหม?
เรามาลองพนันกันก็ได้สักแสนนึง เอาไหมล่ะ?

ว่าก่อนเก้าโมงเช้าวันพรุ่งนี้ไข่ของพ่อหนุ่มจะกลายเป็นสี่เหลี่ยม
ผู้จัดการ - ฮ่าฮ่าฮ้า ล้อเล่นน่าครับ
จะพนันกันจริงๆเหรอ?
คุณยาย - จริงๆซิ
ยายมีเงินไม่เห็นเหรอนี่ไงตั้งสามล้าน
คุณยายเปิดถุงเงินให้ผู้จัดการดู

ผู้จัดการเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ไข่ของตนจะกลายเป็นสี่เหลี่ยม
เลยตอบตกลงรับคำท้า
และนัดแนะกันว่าพรุ่งนี้เช้าเก้าโมงจะมาพบกันอีกที

ตลอดวันนั้นผู้จัดการไม่เป็นอันทำงานเฝ้าแต่คอยคลำไข่ตัวเองว่ายังกลมๆรีๆ อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า

รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาผู้จัดการก็ไม่ลืมที่จะตรวจสอบลูกน้อยทั้งสองใบว่ายังกลมอยู่

เหมือนเดิมจริงๆ เมื่อคลำดูแล้วก็ยังกลมๆดีอยู่
ผู้จัดการเลยรู้สึกกระหยิ่มใจว่าวันนี้รวยแน่
เวลาเก้าโมงตรงหญิงชรามาที่ธนาคาร
และตรงไปที่ห้องผู้จัดการทันทีพร้อมกับชายอีกคน
ผู้จัดการ - สวัสดีครับคุณยาย
อ้าว...พาใครมาด้วยละนี่?
คุณยาย - อ๋อ…ทนายน่ะ
ยายเห็นเงินพนันมันมากเลยพาทนายมาด้วย
ผู้จัดการ - ฮุฮุ…คุณยายผมเสียใจด้วยนะคุณยายแพ้พนันผมแล้วหละไข่ผมยังกลมอยู่เลย นี่ไง
ว่าแล้วผู้จัดการก็จัดแจงปลดกางเกงลง และเรียกให้หญิงชรามาตรวจสอบน้องชายได้

หญิงชราจึงเดินเข้าไปแล้วก็ลูบๆคลำๆไข่ผู้จัดการอยู่สักพักแล้วพูดขึ้นว่า
คุณยาย - อืมมมม ยังกลมอยู่จริงๆ ยายยอมแพ้แล้ว
ขณะที่คุณยายกำลังคลำไข่ผู้จัดการอยู่นั้น...
ผู้จัดการเหลือบไปเห็นทนายที่มากับ
หญิงชรากำลังเอาหัวโขกกำแพงอย่างแรงติดๆ
กันหลายครั้ง เลยถามคุณยายว่า
ผู้จัดการ - ยายๆ ทนายของยายเขาเป็นอะไรเหรอ?
คุณยายตอบว่า - อ๋อ… เขาแพ้พนันยายน่ะ
ยายบอกเขาว่า

ภายในเที่ยงวันนี้ยายจะได้คลำไข่ผู้จัดการแบ็งค์ใน office
ของผู้จัดการเองเลย
ทนายเขาไม่เชื่อ เราเลยพนันกันสองแสน อิอิอิ

นักโทษชั้นดี

นักโทษชั้นดี
เด็ก 2 คนติดคุกด้วยข้อหาเสพยาบ้าในโรงเรียน ในวันพิจารณาโทษศาลวินิจฉัยว่าเด็กทั้งสองนั้นยังเด็กอยู่มาก และเพิ่งกระทำผิดป็นครั้งแรก แถมยังหน้าตาดี

"ศาลขอสั่งให้เธอทั้ง สองไปทำความดีในวันหยุดนี้เป็นการไถ่โทษ เนื่องจากศาลเห็นว่าเธอทั้ง 2 น่าจะมีอนาคตที่ดี ศาลขอสั่งให้เธอไปชักชวนคนที่ติดยาบ้าจงเลิกเสพเลิกขายไปตลอดชีวิต ได้ความว่าอย่างไร ให้กลับมารายงานตัวในวันจันทร์นี้ด้วย"

.....ในวันจันทร์

"ตกลงว่าเธอทั้งสองได้ไปทำอะไรบ้างตามคำสั่งศาล เอ้า จำเลยคนแรกมารายงานต่อศาล"

"เอ่อ..กระผมได้ไปเกลี้ยกล่อมคนติดยาบ้า 15 คนไห้เลิกเสพตลอดชีวิตเลยครับใต้เท้า"

"โอ้..amazing มาก แล้วเธอทำอย่างไรล่ะ เล่าให้ศาลฟังซิ"

"กระผม ใช้แผนภาพครับผม" แล้วก็วาดวงกลมสองวง ใหญ่วง และวงเล็กๆอีก 1 วง (ชี้ไปที่วงกลมใหญ่ก่อน) "กระผมบอกว่า นี่เป็นขนาดสมองของพวกคุณก่อนเสพยาบ้า และนี่เป็นขนาดสมองของคุณหลังจากที่เสพยาบ้าแล้ว"

(ศาลตบมือด้วยความชื่นชม) "ดีมาก เอ้าแล้วจำเลยคนที่สองล่ะ เธอไปทำอะไรมาบ้างล่ะ"

"เอ่อ กระผมได้ไปชักชวนคนที่เสพยาบ้า 150 คนให้เลิกเสพไปตลอดชีวิตเลยครับผม"

(เสียงฮือฮาในศาล)...."โอ้ว...ศาลแปลกใจมาก เธอไปทำวิธีไหนล่ะ ถึงเกลี้ยกล่อมคนได้ตั้ง 150 คน"

"เอ่อ กระผมใช้วิธีคล้ายกันนี่แหละครับ" (ชี้ไปที่วงกลมเล็กๆ) "ผมพูดว่า นี่คือขนาดของรูก้นของคุณก่อนที่จะโดนจับเข้าคุก และนี่ขนาดของรูก้นเมื่อเข้าคุกไปแค่วันเดียว

เครื่องอัจฉริยะ

เครื่องอัจฉริยะ
"ชายหนุ่ม บ่นกับเพื่อนว่า"อั๊วรู้สึกเจ็บข้อศอกอย่างรุนแรง สงสัยจะต้องไปหาหมอล่ะ"
"เฮ้ยไม่ต้อง มีร้านขายยาคอมพิวเตอร์ร้านนึง มีเครื่องอัจฉริยะ ถูกกว่า เร็วกว่าไปหาหมอเยอะ ง่ายๆ
แค่เอาตัวอย่างปัสสาวะใส่ไปในเครื่อง คอมพิวเตอร์ จะวินิจฉัย และให้คำแนะนำออกมาเสร็จ แค่ร้อยเดียว" เพื่อนรักบอก
ชายหนุ่มคิดในใจว่าลองดูก้อไม่เสียหายอะไร ว่าแล้วก็ฉี่ใส่กระป๋องแล้วตรงไปร้านขายยาที่ว่า
พอเจอเครื่องก็จัดการ เทปัสสาวะเข้าเครื่อง หยอดเหรียญ กดปุ่ม ซักครู่

เครื่องเริ่มส่งเสียงทำงาน ไฟกระพริบ แล้วพิมพ์กระดาษรายงานผลออกมา
"คุณเป็นโรคเอ็นข้อศอกอักเสบ ให้เอาข้อศอกแช่น้ำอุ่นบ่อย ๆ
หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก จะดีขึ้นภายในสองสัปดาห์"
เย็นวันนั้น ขณะที่นั่งคิดทึ่งในความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีปัจจุบัน

เค้านึกสงสัยว่า คอมพิวเตอร์ จะตอบมั่วๆ ไปเรื่อยหรือป่าว คิดได้ดังนั้น
เค้าจัดการทดสอบทันที โดยการเอาน้ำก๊อกที่บ้าน ผสมกับอุจจาระของหมาที่เลี้ยงไว้
และปัสสาวะของภรรยาและลูกสาว ปิดท้ายด้วย การช่วยตัวเอง เอาน้ำอสุจิเติมลงไป
จัดการเขย่าให้เข้ากันแล้ว ตรงกับไปที่ร้านเก่า หลังจากจากเครื่องได้รับ

ตัวอย่างและหยอดเหรียญ ทำงานพร้อมกับพิมพ์รายงานออกมา
"น้ำก๊อกบ้านนายกระด้างเกินไป ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำกระด้าง"
"หมานายมีพยาธิ ควร ให้มันกินยา ฆ่าพยาธิ"
"ลูกสาวนาย ติดยา ควรพาเธอเข้ารับการฟื้นฟูบำบัด"
"เมียนายตั้ง ครรภ์ 6 สัปดาห์ แต่ไม่ใช่ลูกนาย ควรจะปรึกษาทนายความ"
"และสุดท้าย ถ้านายยังไม่เลิกช่วยตัวเองด้วยมือบ่อยๆ เอ็นข้อศอกอักเสบของนายไม่มีวันหายแน่"

ดีกว่า

ดีกว่า
ที่เมืองนอกมีชายหญิงคู่หนึ่งมาหาจิตแพทย์ คุณหมอถาม "มีปัญหาอะไรหรือครับ"
ผู้ชายตอบ "ช่วยดูพวกเรา ตอนมีเซ็กซ์กันได้ไหมครับ"
จิตแพทย์ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน แต่ก็ตกลงไปทั้งงงๆ หลังจากการมีเซ็กซ์จบลง จิตแพทย์จึงพูดว่า "ไม่มีอะไรผิดปกตินี่ครับ" และก็คิดค่าหมอไป 40 ดอลล่าร์
หลังจากนั้นชายหญิงคู่นั้น ก็วนเวียนมาหาหมอ แล้วก็ทำแบบเดิมทุกครั้ง จนวันหนึ่ง จิตแพทย์ทนไม่ไหวจึงถามว่า "พวกคุณกำลังหาว่าอะไรผิดปกติหรือ"
ชาย จึงตอบว่า "เปล่า เธอแต่งงานแล้ว และผมก็แต่งงานแล้ว จึงใช้ที่บ้านไม่ได้ ฮอลิเดย์อินน์ ก็ 82 เหรียญ ฮิลตัน ก็ 87 เหรียญ คุณคิดแค่ 40 เหรียญ แล้วผมก็เบิกค่าหมอจากบริษัท ได้คืน 38 เหรียญ"

โจรสลัดครบสูตร

โจรสลัดครบสูตร
ณ.บาร์ ริมทะเล ในหมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่ง ชาวประมงกำลังคุยอยู่กับโจรสลัด เมื่อคุยมาถึงการผจญภัยของโจรสลัด ชาวประมงจึงสังเกตว่า โจรสลัดมีขาเทียมข้างหนึ่ง มือขวาเป็นตะขอ แล้วตาก็พันผ้าปิดตาไว้ข้างหนึ่ง เหมือนโจรสลัดตามนิยายทั่วไป
ชาวประมงจึงถามว่า "ทำไมท่านถึงใช้ขาเทียมหล่ะ"
โจรสลัดตอบ "เราเจอพายุหนักกลางทะเล ข้าตกทะเลลงไปอยู่กลางฝูงปลาฉลาม ฉลามตัวหนึ่งกัดขาข้าขาด แต่ข้าก็รอดมาได้"
"โอ้ เก่งจริงๆ" ชาวประมงกล่าวอย่างชื่นชม "แล้วมือขวาที่เป็นตะขอหล่ะ" โจรสลัดลุกขึ้นตอบอย่างอาจหาญ "ข้าบุกขึ้นเรือข้าศึก ต่อสู้ด้วยดาบ ข้าพลาดถูกฟันแขนขาด แต่ข้าก็รอดมาได้"
"เหลือเชื่อ ท่านเก่งจริงๆ" ชาวประมงลุกขึ้นปรบมือ "แล้วตาท่านหล่ะ"
"เจ้านกนางนวลมันอึใส่ตาข้านะสิ" โจรสลัดตอบพร้อมกับนั่งลง ชาวประมงถามงงๆ "ท่านตาบอดเพราะอึนกนางนวลเหรอ"
"เอ่อ..." โจรสลัดเสียงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด "มันเป็นวันแรกที่ข้ามีตะขอแทนมือว่ะ"

เกือบตาย

เกือบตาย
ชายคนหนึ่งกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เลย
จึงไม่รู้ว่าเมื่อเข้าเรือนหอจะต้องทำอะไร...อะไร บ้าง
จึงไปปรึกษาเพื่อนให้ช่วยแนะนำ เพื่อนก็ไม่รู้ว่าจะบอกตรง ๆ ยังไง
จึงพากันเดินไปตามถนน บังเอิญ มีสุนัขคู่หนึ่งกำลัง.....กันอยู่พอดี
เพื่อนจึงชื้ให้ว่าที่เจ้าบ่าวดูว่า....
เพื่อน : นี่.....นี่ ......เค้าทำกันอย่างนี้
ว่าที่เจ้าบ่าว : อ๋อ... เข้าใจแล้ว

หลังจากแต่งงานไปแล้วหนึ่งเดือน เจ้าบ่าวกับเพื่อนก็มาเจอกันอีกครั้ง เพื่อนจึงอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร จึงถามว่า

เพื่อน : เป็นยังไงบ้างวะ......สำเร็จไม๊
เจ้าบ่าว : ขอบใจมากเพื่อน...สำเร็จ...ได้ผลดีเลยละ แต่ลำบากมาก
เลย
เพื่อน : ลำบากยังไง
เจ้าบ่าว : ลำบากตรงที่.........กว่าจะลากเจ้าสาวลงมากลางถนนได้
ต้องออกแรงลากเกือบตาย

ยังไง หนูก็ไม่ยอม

ยังไง หนูก็ไม่ยอม
โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง
น้องโต : บ้านเรามีสระว่ายน้ำด้วย
น้องเล็ก : บ้านเรามีลูกหมาพันธุ์พุดเดิ้ลด้วย
น้องโต : พ่อเราเป็นนักฟุตบอลด้วย
น้องเล็ก : แม่เราสวยกว่าแม่เธอ
น้องโต : แม่เราทำกับข้าวอร่อยด้วย
น้องเล็ก : แม่เราทำกับข้าวอร่อยกว่า
น้องโต : แม่เราทำกับข้าวเผ็ด ๆ เก่งด้วย
น้องเล็ก : โด่...แม่เราทำกับข้าวเผ็ดกว่าแม่เธออีก เราตื่นมาตี 3 ยังได้
ยินเสียงพ่อเราเผ็ดอยู่เลย

คิดถึงแม่

คิดถึงแม่
เศรษฐี เฒ่าผู้หนึ่งเมื่อภรรยาแกตายจากไป แกก็อาศัยอยู่กับลูกสาวเพียงสองคนเท่านั้น แล้วในวันหนึ่ง ก็ได้มีกลุ่มโจร บุกเข้ามาปล้นบ้าน พร้อมกับขน ข้าวของ เงินทอง เพชรนิลจินดาต่าง ๆ ไปจนหมดบ้าน ไม่เหลือของมีค่าอยู่อีกเลย เศรษฐีเฒ่าได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญ เสียดายทรัพย์สมบัติ ที่เก็บสะสมมานาน สักครู่หนึ่ง ลูกสาวของแก จึงบอกกับแกว่า
" พ่อ อย่าเสียใจไปเลยนะ เรายังไม่หมดตัวเสียที่เดียวหรอก "
เศรษฐี เฒ่า จึงเอ่ยถามลูกสาว ว่าเหตุใด จึงไม่หมดตัวเมื่อไม่มีทรัพย์สินเหลืออยู่ติดบ้านเลย เมื่อแกพูดจบ ลูกสาวแก จึงได้ล้วงเข้าไปในที่ลับใต้ร่มผ้าของเธอเอง พร้อมกับโชว์แหวนเพชร และกำไลทองที่ล้วงออกมาให้พ่อได้เห็น เมื่อเศรษฐีเฒ่าได้เห็น ก็ยิ้มออกมาได้เอามือลูบหัวลูกสาว ด้วยความเอ็นดู และชื่นชมในความฉลาดของเธอ เพียงครู่เดียว เศรษฐีเฒ่า ก็สะอื้นขึ้นมาอีก ลูกสาวสงสัยจึงถามพ่อว่าร้องไห้ทำไมอีก ผู้เป็นพ่อ พูดปนสะอื้น
" ลูกเอ้ย เห็นเอ็งทำแบบนี้แล้ว ทำให้คิดถึงแม่เอ็งขึ้นมาน่ะซิ "
ลูกสาวถามต่อ
" ทำไม เหรอ พ่อ "
" ก็นี่ ถ้าแม่เอ็งยังอยู่ ป่านเนี่ยย ทีวี เราก็ยังมีดูน่ะซิลูกเอ้ย..."

ที่ มหาลัยแพทย์ศาสตร์

ที่ มหาลัยแพทย์ศาสตร์
นัก เรียนในสถาบัน แพทย์ศาสตร์ UH MED ต่างเข้าเรียนวิชากายวิภาควิทยาเป็นครั้งแรก การเรียนกับศพจริงซึ่งเป็นร่างกายของชายผู้เสียชีวิตแล้ว นักเรียนทุกคนล้อมรอบโต๊ะผ่าตัด ซึ่งมีร่างศพคลุมด้วยผ้าผืนสีขาว

ศาตราจารย์ได้เริ่มการสอนโดยกล่าวกับ นักศึกษาแพทย์ศาตร์ทั้งหลายว่า

"ใน วิชาแพทย์ศาตร์ มีเพียง 2 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ท่าน มีคุณสมบัติเป็นแพทย์ที่มีคุณภาพได้ คือ : ข้อแรก มันเป็นความจำเป็น ที่ท่านจะไม่ขยะแขยง"

ศาตราจารย์ได้เปิดผ้าคลุมขึ้นและยัดนิ้วเข้า ไปในรูทวารหนักของศพ แช่ไว้และเอาเมื่อเอานิ้วออกมาเขาดูดให้ นักเรียนดู

ศาต ราจารย์กล่าวกับนักเรียนว่า "เอ้า ! เร็ว นักศึกษา จงทำ !!!" นักศึกษาแพทย์ต่างกลัวในเหตุการณ์ที่วิตถารเช่นนี้ แต่ภายหลัง ต่างก็หันมา

ผลัดกันยัดนิ้วของตนเข้าไปที่ทวารหนักของศพและนำมาดูดหลังจากเอานิ้วออกมา ครั้นเสร็จสิ้นจนครบทุกคน

ศาตราจารย์เพ่งไปที่นักเรียนแพทย์และกล่าวขึ้น... "คุณสมบัติของแพทย์ที่ดี.. ข้อที่สอง คือ

ต้องเป็นคนช่างสังเกตุ เมื่อกี้อาจารย์เอานิ้วกลางยัดเข้าไป แต่อาจารย์ดูดที่นิ้วชี้... กรุณาสนใจการสอนหน่อย..นักศึกษาทุกท่าน !!!"

ครูสมหมาย

ครูสมหมาย
วันหนึ่ง ครูสมหมายเรียก ด.ช.สมปองออกมาถามว่า
" ถ้าเธอเดินเรือแล้วเจอพายุ...เธอจาทำยังไง"
ด.ช.สมปองตอบว่า "อ้อ...ผมก็ทิ้งสมอลงไปสิครับ"
"อ้าว...แล้วถ้ามีพายุมาอีกลูกนึงล่ะ...เธอจะทำยังไง" ครูสมหมายถามต่อ
"ผมก็ทิ้งสมอลงไปอีกอันสิครับ" ด.ช.สมปองตอบ
"เอ้า...แล้วถ้ามีพายุมาอีกลูกนึงล่ะ...เธอจะทำยังไงได้อีก" ด.ช.สมปองเงียบไปชั่วครู่
แล้วก็ตอบว่า "ผมก็ทิ้งสมอลงไปอีกอันสิครับ...ง่ายจะตาย" ด.ช.สมปองยืนยันตามเดิม
"บ้าเหรอ...! เธอไปเอาสมอมาจากไหนตั้งหลายอัน..." ด.ช.สมปองตอบย้อนไปว่า
"แล้วครูล่ะครับ...ไปหาพายุมาจากไหนตั้ง 3 ลูกน่ะ"

ทำไมถึงมาสายจ๊ะ นักเรียน

ทำไมถึงมาสายจ๊ะ นักเรียน
มีโรงเรียนในชนบทแห่งหนึ่ง
วันนี้ห้อง ป.3 ทั้งชั้นมีนักเรียน 30 คน มาสายทั้ง 30 คน
คุณครูสาวประจำชั้นก็เลยถามเหตุที่มาสายทีละคน
คนแรก ตอบว่าบ้านผมไกล ต้องขี่ควายมาครับ
แต่เมื่อวานควายไม่สะบาย
วันนี้ผมขี่มันมา มันเลยมาตายกลางทางครับ
ผมจึงต้องเดินมาเลยมาสายครับ
ปรากฎว่านักเรียนอีกยี่สิบกว่าคนตอบเหมือนคนแรกกันหมดเลย
เหลือแต่ คนสุดท้ายกำลังจะให้คำตอบ
ครูสาวประจำชั้นก็เลยพูดขึ้นมาว่า คงไม่ต้องตอบแล้วล่ะ ครูรู้แล้วว่าเธอจะต้องตอบเหมือนกัน
เด็กคนสุดท้ายพูดขึ้นว่า
"ป่าวนะครับ ควายผมไม่ตายหรอก แต่ที่ผมมาสายเพราะต้องขี่ควาย
หลบซ้ายทีขวาที เพราะศพควายตั้ง 29 ตัวมันขวางทางครับ"

ช่างซ่อมเครื่องซักผ้า

ช่างซ่อมเครื่องซักผ้า
เด็กน้อยจอมแก่นถามช่างซึ่งกำลังซ่อมเครื่องซักผ้าที่บ้าน
เด็กน้อย : "น้าเป็นช่างซ่อมทีวีใช่ไหมครับ ?"
ช่าง : "ไม่ใช่หนู น้าเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้า"
เด็กน้อย : "ไม่ใช่ น้าเป็นช่างซ่อมทีวีต่างหาก"
ช่าง : "ไม่ใช่หนู น้าเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้า"
เด็กน้อยกระทืบเท้าเร่าๆ ปากก็ร้องว่า
"น้าเป็นช่างซ่อมทีวี!..น้าเป็นช่างซ่อมทีวี!"
ช่างซ่อมเครื่องซักผ้ามองเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงสา
จึงบอกเด็กน้อยไปว่า? "โอเคจ้ะ โอเค น้าเป็นช่างซ่อมทีวี"
เด็กน้อยหยุดร้อง แล้วยืนเท้าสะเอวก่อนถามด้วยสีหน้ากวนสุดชีวิตว่า
"แล้วน้ามายุ่งอะไรกับเครื่องซักผ้า!"

Friday, December 26, 2014

สัมภาษณ์งาน

สัมภาษณ์งาน
หลังจากที่สมชายหางานทำก็มีบริษัทของฝรั่งเรียกเข้าไปสอบสัมภาษณ์กับผู้จัดการฝรั่ง
ผู้จัดการ: What is your name?
สมชาย: สมชายครับ
ผู้จัดการ: Hmm.....Where your live?
สมชาย: เปล่าครับ ผมขึ้นบันไดมาไม่ได้ชึ้นลิฟท์
ผู้จัดการ: ทำหน้างงแต่ไม่ใส่ใจ ถามสมชายต่อว่า
What is you sex? (คุณเพศอะไร)
สมชาย: คิดในใจ มันจะรู้ไปทำไมวะ เอาวะถามอะไรก็ตอบมันไปเหอะ
ก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับ
ผู้จัดการ: No...No you men or women.
สมชาย: ถามมาได้ ผมก็ women น่ะซิ
เป็นผู้ชายจะมี men ได้ยังไง

แท็กซี่

แท็กซี่
หญิงคนหนึ่งทำงานเป็นแอร์ฮอสเตสวันนี้หญิงคนนี้จะไปลาว 3 วัน
เลยบอกให้นก คนรับใช้ไปเรียกรถแทกซี่ให้
หญิง : นกไปเรียกแทกซี่ให้ฉันหน่อย
นก : คุณนายจะไปที่ไหนคะทีนี้
หญิง : ฉันจะไปลาว 3 วัน
สามชั่วโมงต่อมานกเดินมาอย่างหมดหวัง
คุณนายเลยถามว่า
หญิง : ทำไมยังไม่มีรถแท็กซี่มาเลยหละนกหรือหาไม่เจอ
นก : แท็กซี่หนะมีคะ แต่.........ไม่มีคันไหนไปลาวเลย

ณ สนามบินแห่งหนึ่ง

ณ สนามบินแห่งหนึ่ง
ท่านผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบขณะนี้เครื่องบินของเราที่จะบินไปปารากวัย
พร้อมที่จะออกเดินทางแล้วคะ และขอให้ผู้โดยสารทุกท่านวางใจในสายการบินของเราได้
เพราะถึงแม้ว่าเครื่องบินของเราจะเก่าแต่นักบินของเราก็ยังใหม่อยู่คะ

ชายที่หญิงต้องยอม

ชายที่หญิงต้องยอม
มีมนุษย์ผู้ชายอยู่ 5 ประเภท ที่ผู้หญิงจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งด้วยความยินดี
หมอ = ถอดเสื้อผ้าออกสิ
หมอฟัน = อ้ากว้างๆ หน่อยสิ
คนส่งนม = ประตูหน้าหรือประตูหลังครับ
นักตกแต่งภายใน = ถ้าคุณเอาไอ้นี่เข้าไปแล้ว คุณจะชอบมันแน่ๆ
นายธนาคาร = ถ้าคุณถอนออกตอนนี้ คุณจะเสียใจนะครับ

ครบรอบแต่งงาน

ครบรอบแต่งงาน
สามีภรรยาฉลองครบรอบแต่งงาน 25 ปี กันสองต่อสองที่บ้าน เมื่อแชมเปญ หมดไปสองขวด สามีก็หันไปถามภรรยา
ที่รัก ถามจริงๆ นะ อยู่กันมา 25 ปีนี่ เธอเคยนอกใจฉันบ้างไหม?"
"เคยค่ะ ฉันเคยนอกใจคุณสามครั้ง" ภรรยาตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
"เหรอ ทำไมล่ะ?" สามีอยากรู้เหตุผล
"คือว่า.." ภรรยาเริ่มเล่า
"ครั้ง แรกหลังจากที่เราแต่งงานกันใหม่ๆ ตอนที่คุณต้องผ่าตัด แต่เรามีเงิน ไม่พอ ฉันเลยไปนอนกับ หมอศัลยกรรมเพื่อให้เขาไม่คิดค่าผ่าตัด"
"อืมม... เธอช่างมีน้ำใจกับฉันจริงๆ" สามีชม "แล้วครั้งที่สองล่ะ?"
"จำตอนที่เขาเลือกรองประธานบริษัทได้ไหมคะ เขาจะไม่เลือกคุณอยู่แล้ว ฉันไปนอนกับท่าน ประธานมา เขาถึงเลือกคุณไงคะ"
"จริงเหรอ แหมฉันนึกว่าฉันได้มาเพราะฝีมือแท้ๆ นะเนี่ย" สามีชื่นชมภรรยา
"แล้วครั้งที่สามล่ะ"
"เมื่อปีก่อนนี่เอง ตอนที่คุณอยากเป็นประธานชมรมกอล์ฟ แต่ขาดเสียงสนับสนุนอยู่ 53 เสียงน่ะค่ะ ... "

Thursday, December 25, 2014

ลุง คะ

ลุง คะ
สองสาวนั่งคุยกันขณะโดยสารรถไฟขบวน กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา
สาว1:ผู้ชายเนี่ยนะฉันดูนิดเดียวรู้เลยว่า...ขนาดไหน
สาว2:เธอรู้ได้ยังไง ดูตรงไหนล่ะ
สาว1:ก็ดูที่ขนาดรองเท้าซิ ถ้าเบอร์ 8 แสดงว่ายาว 8นิ้ว
สาว2:งั้นแฟนฉันใส่รองเท้าเบอร์ 12 ต้องยาว 12นิ้วแน่เลย
(ทั้งคู่หัวเราะคิกคัก หันไปเห็นลุงนั่งอยู่ซึ่งก็ได้ยินเรื่องเมื่อสักครู่)
สาว1:ทำไมลุงไม่สวมรองเท้าคะ ไม่ปวดเท้าหรือคะ
ลุง:อ๋อ ลุงเท้าใหญ่เกินไป ยังหาเบอร์รองเท้าไม่ได้เลยหนู

ลิง กับ ถั่ว.....

ลิง กับ ถั่ว.....
ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปในบาร์ พร้อมกับเจ้าลิงแสนรัก
ลิงน้อยกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะสนุ้กฯ และหยิบลูกสนุ้กใส่ปาก กลืนเอื๊อกลงไป
บาร์เทนเดอร์เห็นเข้าจึงถามว่า "อ้าว ทำไมมันทำอย่างนั้นหล่ะ?"
ชายผู้นั้นตอบว่า "อ๋อ มันกินทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยล่ะ"
เหตุการณ์ผ่านไปหลายวันถัดมา ชายผู้นั้นก็กลับมาที่บาร์เดิม พร้อมกับเจ้าลิงจอมตะกละอีกครั้ง
คราวนี้เจ้าลิงหยิบถั่วขึ้นมาเม็ดหนึ่ง แล้วยัดเข้าไปที่ก้น จากนั้นจึงค่อยกินถั่วเม็ดนั้นเข้าไป
บาร์เทนเดอร์เห็นเข้าจึงถามว่า "อ้าว แล้วคราวนี้ทำไมมันทำอย่างนั้นล่ะ?"
ชายผู้นั้นตอบว่า "อ๋อ มันก็ยังกินทุกอย่างที่ขวางหน้าเหมือนเดิมนั่นแหละ
แต่หลังจากที่มันกินลูกสนุ้กฯ เข้าไป ทีนี้ก่อนจะกินอะไรมันจะต้องเช็กก่อนว่าพอดีกับรูตูดของมันมั๊ย"

โรควัวบ้า

โรควัวบ้า
นักจัดรายการโทรทัศน์สาวนางหนึ่งไปสัมภาษณ์เจ้าของฟาร์มเพื่อค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรควัวบ้า
หล่อนถามเจ้าของฟาร์มว่า
"สวัสดีค่ะ เรามาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรควัวบ้า คุณพอจะทราบมั๊ยคะ ว่าอาจเกิดจากสาเหตุใดบ้าง?"
เจ้าของฟาร์มมองหญิงสาวแล้วพูดว่า "คุณรู้มั๊ยว่าวัวตัวผู้มันจะผสมพันธุ์กับวัวตัวเมียแค่ปีละครั้งเท่านั้น?"
หญิงสาวเขินอายนิดๆ แล้วตอบว่า "อืมห์ นั่นเป็นข้อมูลใหม่ทีเดียวค่ะ แต่มันเกี่ยวกับโรควัวบ้ายังไงล่ะคะ?"
เจ้าของฟาร์มตอบว่า "เอ่อ แล้วคุณรู้มั๊ยครับว่า เรารีดนมวัวกันวันละ 4ครั้ง!? "
หญิงสาวตอบว่า " แหม นี่ก็เป็นข้อมูลที่ดีอีกอย่างหนึ่งค่ะ แต่ว่าเรามาพูดเข้าประเด็นกันเลยดีกว่านะคะ"
เจ้าของฟาร์มชักฉุน เลยถามไปว่า "ก็ผมก็พูดตรงประเด็นแล้วนี่นา เอ้า คุณลองคิดดูนะ
ถ้าผมจับนมคุณวันละ 4 ครั้ง แต่ฟันคุณปีละครั้ง เป็นคุณ คุณจะไม่บ้าเหรอ?"

ลูกไม้หล่นใต้ต้น

ลูกไม้หล่นใต้ต้น
เมื่อ ลูกชายสุดหล่อของคุณนายผอบแก้ว มีอาการพิลึกพิลั่น เริ่มเขียนคิ้ว ทาปาก ใส่เสื้อผ้ารัดรูปฟิตเปร๊ยะ แถมมีกิริยากระตุ้งกระติ้ง จนทำให้คุณนายต้องไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาทางบำบัด

จิตแพทย์ : พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศแบบลูกชายคุณนายรักษาให้หายไม่ยากหรอกครับ เพียงแต่ให้เค้าได้ใกล้ชิดคุณพ่อให้มากกว่านี้ และอย่าให้แกซื้อเสื้อผ้าใส่เอง ช่วงนี้ให้ขอยืมของคุณพ่อใส่ก่อนดีกว่าครับ
ผอบแก้ว : ต้าย ! ถ้างั้นลูกชายเดี้ยนก็ต้องใส่ยกทรงแล้วก็ถุงน่องด้วยสิคะหมอ

กลัวเครื่องบิน

กลัวเครื่องบิน
ธเนศ เป็นนักธุรกิจที่กำลังจะบินไปดูงานที่เชียงใหม่ แต่ทางสายการบินก็ประกาศเลื่อนการเดินทางโดยไม่ทราบสาเหตุ เข้าจึงมานั่งดื่มกาแฟร้อนที่ห้องผู้โดยสารขาออก และเห็นชายคนหนึ่งนั่งดื่มเหล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย

ธเนศ : เอ่อ...โทษครับ ท่าทางคุณคงกลัวการขึ้นเครื่องบินละสิ สงสัยคงบินเป็นครั้งแรก
ขายคนนั้น : เปล่าหลอกผมต้องบินเพื่อทำงานเป็นประจำ แต่ผมชอบมีภาพหลอนว่าเครื่องบินที่นั่งตกทุกทีเลย
ธเนศ : แบบนี้ก็น่าจะต่อรองกับทางบริษัทคุณให้ออกค่ารถบัสวีไอพีแทนนะ
ชายคนนั้น : เฮ้อ....ทางบริษัทคงไม่ยอมหรอก ก็ผมเป็นกับตันของเที่ยวบินนี้

Wednesday, December 24, 2014

ความเมตตา

ความเมตตา
เสี่ยสมหมายเป็นคนรักสัตว์มากแต่แล้ววันหนึ่งเจ้าด่างสุนัขตัวโปรดของเขาก็ตายลง เสี่ยเสียใจมาก จึงไปหาหลวงพ่อแช่มที่วัด

เสี่ยสมหมาย : หลวงพ่อขอรับ หลวงพ่อจะช่วยทำพิธีศพให้หมาของผมได้รึเปล่า
หลวงแช่ม : คงไม่ได้หรอก ถ้าอาตมาทำแบบนั้นเดี๋ยวชาวบ้านเขาจะไม่พอใจนะ แต่อาตมาพอจะแนะนำวัดที่เขายอมทำตามปรารถณาของโยมได้
เสี่ยสมหมาย : ไม่ทราบว่าวัดนั้นคิดค่าบริการเท่าไหร่นะ สัก 50,000 ไม่รู้จะพอรึเปล่า
หลวงพ่อแช่ม : เอ่อ....แต่อาตมาเป็นพระคงต้องมีใจเมตตาต่อสัตว์โลกทุกประเภทอย่างเท่าเทียมกัน งั้นโยมเอาหมามาทำพิธีศพที่นี่ก็ได้นะ

รูอะไร

รูอะไร
ชายหนุ่มได้ทำงานที่สถานีขุดเจาะน้ำมันในอลาสกา ที่นี่ห่างไกลความเจริญมาก
ในรัศมีร้อยไมล์ไม่มีผู้หญิงให้ทัศนาเลย เขาจึงถามหัวหน้าเรื่องผู้หญิง
"ถ้าทนไม่ไหว ที่หลังห้องมีถังอยู่ใบหนึ่งที่มีรู นายใช้รูนั่นแก้ขัดได้" หัวหน้าแนะนำ
สองสามวันถัดมา ชายหนุ่มรู้สึกกลัดมัน เขาตัดสินใจใช้บริการรูที่ถังปลดปล่อยอารมณ์
มันให้อารมณ์เหมือนจริงจนเขาติดใจ
"รูนี่ดีจริงๆ ผมใช้มันได้ทุกวันไหมครับ" เขาถามหัวหน้า
"ได้สิ ยกเว้นวันอาทิตย์" หัวหน้าตอบ
"ทำไมครับ?" เขาสงสัย
"วันอาทิตย์ นายต้องอยู่เวรในถังนั่น!!"

คงจะเจ็บจริง ๆ

คงจะเจ็บจริง ๆ
มีชายคนหนึ่งมีภรรยาสวยมาก เขามีอาชีพเป็นเชลแมน ออกขายของตามบ้าน
เช้าวันหนึ่งเขาก็ออกไปขายของตามปกติ
เมื่อสามีออกจากบ้านภรรยาก็พาชู้เข้าบ้านชายชู้ของเขาเป็นหนุ่มฮิปปี้ ซึ่งใว้ผมยาวเหมือนภรรยาของเชลแมน
เมื่อชายชู้เข้าบ้านก็จัดการกับภรรยาเชลแมน

หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจก็หมดแรงจนหลับไปภรรยาของเชลแมนก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำ
ฝ่ายเชลแมนเผอิญลืมของไว้ที่บ้านเลยกลับมา
เมื่อ มาถึงเห็นชายชู้นอนคว่ำหน้าอยู่ไม่มีเสื้อผ้าใส่เลยก็นึกว่าเป็นภรรยาของตน เองจึงเกิดมีอารมณ์ขึ้นมาจึงถอดเสื้อผ้าออกเตรียมจัดการกับภรรยา

แต่ว่าเขาคิดที่จะทดลองแบบใหม่เลยจัดการทางประตูหลัง
ฝ่ายชายชู้หมดแรงไม่อาจขัดขืน
เมื่อโดนเล่นข้างหลัง ด้วยความเจ็บจึงร้องออกมาอย่างดังว่า โอ๊ย
เชลแมนได้ยินก็พูดว่าสงสัยน้องจะเจ็บว่าแล้วก็เอามือคลำไปข้างหน้าของเจ้าชายชู้ เจอะกับสิ่งหนึ่งเข้า
จึงอุทานออกมาว่านั่นไงเจ็บจริงๆ ก็ของกูทะลุข้างหน้าเลยนี่

แพทย์

แพทย์
แพทย์คนหนึ่งนั่งคิดทบทวนการกระทำของตัวเอง
จิตใต้สำนึกฝ่ายดี: ไม่น่าทำเลย ไม่น่าเลย
จิตใต้สำนึกฝ่ายร้าย: ไม่เห็นเป็นไรเลย หมอมีอะไรๆกับผู้ป่วย ไม่เห็นจะแปลก
จิตใต้สำนึกฝ่ายดี: แต่มันผิดจรรยาบรรณของหมอนะ
จิตใต้สำนึกฝ่ายร้าย: ผิดตรงไหน
จิตใต้สำนึกฝ่ายดี : อ้าวก็ผิดที่เป็น "สัตวแพทย์" น่ะสิ !!!!!!

หัก

หัก
เด็กชายจิม กับ เด็กหญิงแจน ยืนคุยกันในอ่างอาบน้ำ
"อุ๊ย!..จิมมี่ นั่นอะไรน่ะ" แจนชี้ไปที่หว่างขาของเด็กชาย
"ไม่รู้เหมือนกัน" จิมตอบ
"ขอเราจับหน่อยได้มั้ย?"
"ไม่ได้หรอก" จิมปฏิเสธ
"อ้าว! ทำไมล่ะ?" เด็กหญิงสงสัย
"เธอมือหนัก" จิมตอบ
"เอ๊ะ! เธอรู้ได้ไง?"
"ก็ดูของเธอสิ...เธอยังเล่นซะหักไปแล้วเลย"

Tuesday, December 23, 2014

20,000.-

20,000.-
สามีภรรยากำลังเตรียมตัว จะออกไปข้างนอก
ขณะที่ภรรยาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และสามีกำลังโกนหนวดอยู่
ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น

"ออกไปดูหน่อยได้ไหม ?" สามีบอก
ภรรยาจึงสวมเสื้อคลุมอาบน้ำไปที่ประตูทั้งที่ผมยังเปียกอยู่
เมื่อเปิดประตูเธอก็เห็นเพื่อนบ้านข้างๆยืนอยู่
เขามองดูเธอครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ผมจะให้คุณ 20,000 บาท
ถ้าคุณเปิดเสื้อคลุมนั่นให้ผมดู"
เธอหยุดคิดครุ่งหนึ่งว่า 20,000 มันก็ง่ายดีนะ แถมไม่มีใครรู้ด้วย
เธอจึงเปิดเสื้อคลุมให้เขาดู
หลังจากที่เขาดูอยู่นาน เขาก็ให้เงินเธอ แล้วก็กลับบ้านไป
เธอสวมเสื้อคลุมแล้วปิดประตู
สามีได้ยินเสียงประตูจึงตะโกนถามว่า "ใครเหรอ ?"
"บ้านข้างๆน่ะ" เธอตอบ

"แล้วเค้าเอาเงินที่..ยืมผมไป 20,000 มาคืนใช่หรือเปล่า..ที่รัก"

มืออาชีพ

มืออาชีพ
เจ้าของกิจการท่านหนึ่งอยากจะหาคนมานั่งตำแหน่งผู้จัดการ
เลยตัดสินใจสัมภาษณ์รายตัว ด้วยคำถามที่ว่า"2+2 เป็นเท่าไหร่?"
วิศวกร ควัก Slide Rule ออกมาคำนวนอยู่สักพักแล้วบอกว่า "ระหว่าง 3.98 กับ4.02"
นักคณิตศาสตร์ ตอบว่า "ผมสามารถพิสูจน์ว่าเท่ากับ 4 ด้วยกฏง่ายๆ 2-3 ข้อ"
อัยการรัฐ ตอบว่า "ในคดีของ Svenson กับ รัฐบาลกลางตัดสินว่า 2+2 เท่ากับ 4"
นักค้าเงิน ตอบว่า "ขึ้นอยู่กับว่า เป็นการซื้อหรือขาย"
นักบัญชี มองหน้าผู้มั่งคั่งท่านนั้น ลุกออกจากเก้าอี้เดินไปปิดประตูห้อง
แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะชะโงกเข้าไประซิบถามข้างๆหูเจ้าของกิจการว่า
"คุณอยากจะให้เป็นเท่าไหร่?"

ชุดของความรัก

ชุดของความรัก
คุณแม่ไปเยี่ยมลูกสาวที่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว
เธอพบลูกสาวเดินเปลือยกายอยู่ในบ้าน
"ทำไมถึงได้โป๊แบบนี้ล่ะ" แม่ถาม
"นี่เป็นชุดของความรักนะแม่" ลูกสาวตอบ
คุณแม่กลับมาถึงบ้านเธอก็เลียนแบบลูกสาวโดยการเปลือยกายรอสามีอยู่ที่โซฟา
สามีกลับมาถึงบ้าน
"ทำไมมานั่งแก้ผ้าอยู่แบบนี้ล่ะ" สามีถาม
"นี่ ชั้นกำลังใส่ชุดแห่งความรักอยู่นะ"
"เหรอ"
สามีเหลือบตามอง
"รู้จักรีดเสียมั่งสิ"

โทรศัพท์

โทรศัพท์
ชายหนุ่มคนหนึ่งไปยืนรอโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะเพื่อโทรไปหาหวานใจ
ในตู้โทรศัพท์มีชายวัย กลางคนคนหนึ่งใช้โทรศัพท์อยู่
ชายหนุ่มยืนคอย
คอย..
และ คอย…
แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าชายในตู้โทรศัพท์ยืนถือหูโทรศัพท์เอาไว้เฉยๆ
ไม่เห็นว่าพูดโทรศัพท์กับใคร
"คุณครับ ถ้าเสร็จแล้วก็ขอผมโทรบ้างครับ"
ชายกลางคนยกโทรศัพท์ออกจากหู
เอามือปิดโทรศัพท์และหันมาพูดกับชายหนุ่ม
"ผมยังพูดกับเมียไม่เสร็จ"

อาหารมื้อสุดท้าย

อาหารมื้อสุดท้าย
นักโทษสามคนกำลังจะถูกนำตัวไปประหารชีวิต
เจ้าหน้าที่ก็มาถามว่าก่อนตายทั้งสามต้องการกินอะไรเป็นมื้อสุดท้าย
"ผมอยากกินพิซซ่า" คนแรกตอบ
เขาได้กินพิซซ่าจานโตและถูกนำตัวไปประหาร
"ผมอยากกินไก่ทอดเคเอฟซี" คนที่สองบอก
เขาได้กินไก่ทอดเคเอฟซีรสเข้มข้นแล้วก็ถูกนำตัวไปประหาร
"ผมอยากกินบัวหิมะพันปี" คนที่สามบอก
"แต่นี่ยังไม่ถึงเวลาบัวหิมะพันปีออกนะ" เจ้าหน้าที่บอก
"ไม่เป็นไรครับ.. ผมคอยได้"

คนเก่ง

คนเก่ง
ลูกสาวกลับมาบอกผลการสอบให้พ่อฟัง
"หนูสอบได้ 100 คะแนนค่ะ"
"เหรอ เก่งจริงๆ วิชาอะไรล่ะ"
"คณิตศาสตร์
20 วิทยาศาสตร์ 30 แล้วก็ภาษาไทย 50 ค่ะ"

ไวอาก้า

ไวอาก้า
ชายชราคนนึงเดินเข้าไปในร้านขายยาและขอซื้อยาไวอากร้าจากเภสัชกร เภสัชกรบอกว่า
"ครับผม คุณต้องการกี่เม็ดครับ?"
ชายชราตอบว่า "ไม่มากหรอก เอา 4 เม็ดก็พอ แล้วช่วยแบ่งแต่ละเม็ดออกเป็น 4 ส่วนด้วยนะ"
เภสัชกรบอกว่า "แต่ขนาดแค่นั้น มันไม่ช่วยในเรื่องอย่างว่าหรอกนะครับ"
ชาย ชราตอบว่า "ผมรู้ครับ ผมไม่ได้อยากกินเพราะไอ้เรื่องอย่างว่าหรอก ผมน่ะมันแก่แล้ว ปาเข้าไป 80 กว่าแล้ว ผมแค่อยากให้มันโด่ออกไปอีกหน่อย จะได้ไม่ฉี่รดรองเท้าน่ะ"

Monday, December 22, 2014

กินอะไรกันซะบ้าง

กินอะไรกันซะบ้าง
ระหว่างการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อันหวานชื่น คู่แต่งงานใหม่คู่นี้แทบจะไม่ได้โผล่หน้าออกจาก ห้องพักในโรงแรมนั้นเลย
แต่ในที่สุดหลังจากหลายวันผ่านไป ทั้งสองก็ได้ย่างเท้าเข้าไปในห้องอาหารเป็นครั้งแรก
ขณะที่บริกรหนุ่มยืนรอคำสั่งอยู่นั้น สาวก็ฉอเลาะอ้อนกับหวานใจของตนขึ้นว่า
"ที่รักคะ คุณรู้ใช่ไหมคะ ว่าน้องชอบอะไร?"
"จ๊ะ รู้จ๊ะ แต่เราต้องกินอะไรกันซะบ้างนะ"

ไม่เป็นไร หนูรับได้

ไม่เป็นไร หนูรับได้

สมศรีมาปรึกษาจิตแพทย์ หล่อนก็เล่าเรื่องปัญหาหล่อนให้หมอฟัง
"คุณหมอค่ะ หนูกลุ้มใจค่ะ...พอเจอหนุ่ม Dark tall and hansom ทีไร
หนูก็ใจสั่นอดที่จะไปทำความรู้จักกับเขาไม่ได้
แล้วหนูก็เสร็จเขาทุกทีเป็นแบบนี้มาสิบกว่ารายแล้วค่ะ ตอนยุ่งด้วยกัน
หนูก็แฮปปี้ดีอยู่หรอกค่ะ แต่พอตื่นเช้ามา หนูก็รู้สึกกิลตี้ ละอายใจทุกที
หนูเองก็สงสัยว่าทำไมหนูถึงเป็นคนอย่างนี้ไปได้
"เอาล่ะหนู..." จิตแพทย์พูดอย่างเข้าใจปัญหาคนไข้
"หนูอยากให้หมอช่วยให้หายจากพฤติกรรมแบบนี้ใช่หรือเปล่า"
"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะหมอ" หล่อนบอก "หนูเพียงอยากให้หมอช่วยแนะนำว่า
ทำอย่างไรตื่นนอนแล้ว ไม่รู้สึกละอายใจ ส่วนเรื่องอื่นน่ะไม่เป็นไร
หนูรับได้ค่ะ"

ยมพบาล

ยมพบาล

คืน นั้นไอ้หนุ่มนอนอยู่ เกิดฝันร้ายว่าด้วยบาปกรรมที่ทำเอาไว้ ทำให้ต้องตกนรกไปชดใช้กรรม ยมพบาลสั่งให้ไอ้หนุ่มเอานิ้วจิ้มลงในกระทะทองแดงที่มีน้ำกำลังเดือดพล่าน ไอ้หนุ่มต้องทำตามคำสั่ง พอเอานิ้วจิ้มลงไปก็รู้สึกร้อนจนทนไม่ได้ ต้องชักนิ้วออกมาใส่ปากดูดให้คลายร้อน ยมพบาลคอยยืนกำกับให้เอานิ้วจิ้มในกระทะทองแดงต่อไป ไอ้หนุ่มต้องคอยจิ้มดูดจิ้มดูดต่อไป อย่างทนทุกข์ทรมานเป็นที่สุด ยิ่งนานไปน้ำในกระทะก็ยิ่งร้อนขึ้นๆ ไอ้หนุ่มร้อนนิ้วจนทนไม่ไหวจึงทำท่าลังเลจะไม่ยอมเอานิ้วจิ้มอีก ยมพบาลโมโหที่ไอ้หนุ่มขัดคำสั่งจึงถีบไอ้หนุ่มกระเด็นไปเสียงดังโครม

ไอ้หนุ่มตกใจตื่นขึ้นมา ทั้งที่ยังงัวเงียก็รู้ว่าถูกเมียอัดตกเตียงเพราะเมียยังเงื้อเท้าคาอยู่ เสียงเมียแหวใส่หน้า
"ทำอะไรก็ไม่ทำซะที เอาแต่จิ้มดูด จิ้มดูดอยู่ได้"

จดแต้ม

จดแต้ม
ชายหนุ่มนอนค้างคืนกับสองสามีภรรยาที่อพาร์ตเมนต์ เนื่องจากมีแค่เตียงเดียว สามีภรรยาจึงให้ ชายหนุ่มนอนแทรกตรงกลาง
เมื่อสามีหลับ ภรรยาก็กระซิบชวนชายหนุ่ม
"ลองดึงขนที่ก้นเขาสิ ถ้าเขาไม่ตื่นเราก็เล่นจ้ำจี้กันได้"
ชายหนุ่มดึงขนสามี เขาไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ชายหนุ่มจึงเล่นจ้ำจี้กับภรรยา
จบแล้วภรรยากระซิบบอกชายหนุ่ม ขอเล่นจ้ำจี้อีกครั้ง ชายหนุ่มหันมาดึงขนที่ก้นสามีอีกครั้ง แต่เขา ก็ยังไม่รู้สึกตัว
ทั้งสองจึงเล่นจ้ำจี้กันอีกเกม
ภรรยายังไม่ง่วงจึงกระซิบขอต่ออีกยก ชายหนุ่มหันมากระตุกขนสามีอีกครั้ง
สามีพลิกหันมาบ่นอย่างงัวเงีย
"จะทำอะไรเมียข้าก็ทำไปสิวะ ทำไมเอ็งต้องมาจดแต้มที่ตูดข้าด้วย"

ของเขาใหม่มาก

ของเขาใหม่มาก
เด็กสาวที่แสนจะเรียบร้อยและเป็นคนตรงอย่างเด็ดขาด กำลังจะเดินทางไปเมืองใหญ่
ก่อนเดินทาง มารดาได้ให้คำแนะนำบางอย่างเกี่ยวกับวิธีพิจารณาชายหนุ่มคนที่คู่ควรจะแต่งงานด้วย
ว่าจงทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ คือต้องเป็นผู้ชายที่"ไว้ใจได้" "ไม่ฟุ่มเฟือย"
และต้องเป็นหนุ่มที่ยังคงความ "บริสุทธิ์"
เด็กสาวจดจำคำแนะนำติดตัวไป

สองสามเดือนต่อมา
เด็กสาวเดินทางกลับบ้านเพื่อขอให้มารดาอวยพรสำหรับงานแต่งงาน
"แม่คะ หนูพบผู้ชายที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแม่เปี๊ยบเชียวค่ะ
สามีในอนาคตของหนูเป็นคนที่ไว้ใจได้
เพราะเมื่อเราออกไปเที่ยววันหยุดด้วยกันวันหนึ่ง เขาเอาใจใส่หนูดีมาก ไม่วอกแวกเลย
ถึงแม้จะมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยมากมายแถวนั้น"
"ถือว่าไว้ใจได้ ใช่ไหมคะ" มารดาก้มศีรษะเห็นด้วย
"จากนั้น เนื่องจากเราเที่ยวกันดึกไปหน่อย แล้วฝนก็เริ่มตกหนัก
เขาเลยตัดสินใจพักค้างคืนที่โรงแรม เขายังแนะนำด้วยว่า
เพื่อไม่ต้องใช้จ่ายเงินให้มากเกินไป เราควรใช้ห้องร่วมกันจะดีกว่า"
"เขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยเลยใช่ไหมคะ"
เป็นครั้งที่สองที่มารดาก้มศีรษะเห็นด้วย แต่มีแววเอะใจเล็กน้อย
"และในที่สุดค่ะแม่ หนูก็รู้ว่าเขาบริสุทธิ์!"
"หนูรู้ได้อย่างไรจ้ะว่าเขายังบริสุทธิ์อยู่" มารดาถามเร็วปรื๊อ
"ก็สิ่งนั้นของเขาใหม่มากเลยค่ะ
ยังห่ออยู่ในถุงพลาสติกเรียบร้อยเชียวนะคะ"

Saturday, December 20, 2014

ลืมถอด

ลืมถอด
มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะแต่งงานจึงได้ไปปรักษากับรุ่นพี่ที่แต่งงานแล้วว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างในคืนแรกที่เข้าหอ
รุ่นพี่ "แกต้องจัดการให้เจ้าสาวของแกถึงสุดยอดให้ได้ ก่อนที่แกจะร่วมรักกับเธอให้แกใช้นิ้วช่วยปลุกอารมณ์ของเธอก่อน
แต่แกอย่าลืมนะว่าแกต้องถอดแหวนออกก่อนไม่งั้นเธอจะต้องเจ็บ"
ฝ่ายเจ้าหนุ่มก็จำไปใช้ในคืนแรกตามที่รุ่นพี่คนนี้แนะนำ
ตอนเช้าชายหนุ่มก็โทรไปปรึกษารุ่นพี่อีดครั้งหนึ่ง
รุ่นพี่ "เป็นไงบ้างทำตามที่พีแนะนำไปหรือเปล่า"
ชายหนุ่ม "ทำตามครับ แต่ผมมีปัญหาครับพี่"
รุ่นพี่ "มีปัญหาอะไร แกลืมถอดแหวนรึ"
ชายหนุ่ม "แหวนหนะผมไม่ลืมหรอกครับ แต่ผมลืมถอดนาฬิกาข้อมือครับพี่"

บอกแล้วว่าฟิต

บอกแล้วว่าฟิต
หนุ่มกลัดมันผู้หนึ่ง อยากได้หญิงไปนอนด้วยเป็นกำลัง จึงต้องไปพึ่งโสเภณีผู้หนึ่ง
ชายหนุ่ม : ที่ว่าเพิ่งทำงานได้ไม่นาน ยังใหม่ๆ อยู่จริงเหรอ
โสเภณี : โธ่ ไม่เชื่อพิสูจน์ก่อนได้เลยนะคะ
ว่าแล้ว โสเภณีก็ให้ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้าไป...
โสเภณี : เป็นไงบ้างคะพี่
ชายหนุ่ม : ไม่เห็นจะฟิตเลยนี่
โสเภณี : โถ คุณพี่ขา ใช้แค่นิ้วเดียวจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็เพิ่มเป็นสองนิ้ว
โสเภณี : เป็นไงบ้างคะพี่
ชายหนุ่ม : ก็ไม่เห็นจะฟิตเลยนี่
โสเภณี : โถ คุณพี่ขา แค่สองนิ้วเนี่ย จะรู้ได้ยังไงล่ะคะ
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ลองเป็นครั้งที่สาม คราวนี้ใช้ทั้งมือเลย
ชายหนุ่ม : นี่ ใช้ทั้งมือแล้วนะ ไม่เห็นจะฟิตเลย
แล้วชายหนุ่มก็ลองใส่เพิ่มอีกมือนึง คราวนี้ทั้งสองมือก็เข้าไปเรียบร้อย
ชายหนุ่ม : นี่ ใช้ตั้งสองมือนะเนี่ย ยังใส่เข้าไปได้เลย ยังงี้เรียกว่าฟิตเหรอ
โสเภณี : โถ.. คุณพี่ลองตบมือดูสิคะ
ชายหนุ่ม : (ลองขยับตบมือดู) อือม.. ตบไม่ได้แฮะ
โสเภณี : (ยิ้มอย่างมีชัย) เห็นม๊า... บอกแล้วว่าฟิต

แจ้งความ

แจ้งความ
หญิงสาวผู้หนึ่งถูกข่มขืนจึงไปเเจ้งความ
ตำรวจ : ไหนเล่าสิมันเป็นยังไง
หญิงสาว : ก็มือหนึ่งมันจับล็อกคออีฉัน อีก
มือหนึ่งมันล็อกมืออีฉัน เเล้วมันก็ถกกระโปรงอีฉัน
ตำรวจ : เล่ารายละเอียดสิ
หญิงสาว : มือซ้ายล็อกคอ มือขวาล็อกมือ
ตำรวจ : เเล้วมือไหนถกกระโปรง
หญิงสาว : มืออีฉันเองค่ะ
ตำรวจ : ?????

ยกฟ้อง!!!

ยกฟ้อง!!!
ในการตัดสินคดีข่มขืน จำเลยเป็นชายอายุ 23 ปี ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหญิงสาววัย 20 ปี
ศาล : เหตุการณ์เป็นอย่างไร
โจทก์ : เขาพยายามจะข่มขืนดิฉัน ดิฉันจึงวิ่งหนีเข้าไปในห้อง แต่ก็ถูกเขาผลักอัดเข้ากำแพง แล้วก็... ฮือๆ
ศาล : จำเลยสูงเท่าไหร่
จำเลย : 185 เซ็นติเมตร ครับ
ศาล : แล้วจำเลยข่มขืนโจทก์ด้วยวิธีใด
จำเลย : ผมอัดเขาเข้ากำแพง แล้วผมก็... แต่ผม.. ผมไม่ผิดนะครับ!!
ศาล : เอาล่ะ แล้วโจทก์ล่ะสูงเท่าไหร่
โจทก์ : 153 เซ็นติเมตรค่ะ
ศาล : ศาลขอยกฟ้อง เพราะข้อหาไม่มีเหตุผลเพียงพอ
โจทก์ : ได้ยังไงกัน!!! ดิฉันไม่ยอมๆ
ศาล : นี่คุณ!! คนที่สูง 185 ซม. กับ 153 ซม. ข่มขืนกระทำชำเราทางเพศขณะยืนไม่ได้หรอก
โจทก์ : ทำไมจะไม่ได้!! ก็ฉันเขย่ง
ทุกคน : ...........
ศาล : ยกฟ้อง!!!

ทดลองเรื่องกบ

ทดลองเรื่องกบ
 มีดร.คนหนึ่งทำการทดลองเรื่องกบ
โดยเขาสั่งให้กบกระโดดกบก็กระโดด ต่อมาเขาตัดขากบออก 1 ขาแล้วสั่งให้กบกระโดดกบก็กระโดด แล้วเขาก็ตัดขาออกอีกเรื่อยๆจนเหลือ 1 ขา
เขา ก็สั่งให้กระโดด กบก็กระดึ๊บไปได้หน่อยนึง แล้วพอเขาตัดขาออกทั้ง 4 ข้าง แล้วก็สั่งกระโดดกบก็ไม่กระโดดเพราะไม่มีขา แต่ ดร. คนนั้นสรุปผลการทดลองว่า
"กบเมื่อโดนตัดขาออกทั้ง 4 ข้าง จะทำให้หูหนวก"

เมาไม่รู้เรื่อง

เมาไม่รู้เรื่อง
ขี้เมาหยิบกุญแจรถมาจิ้มลมอยู่นานสองนาน ในที่สุดก็เดินแอ่นขึ้นไปบนโรงพัก
"เป็นอะไรหรือ" ตำรวจถาม
"คุณตำรวจครับ รถผมโดนขโมย" ขี้เมาบอก
"ลื้อรู้ได้ยังไงว่ารถโดนขโมย"
"ก็มันหายไปจากลูกกุญแจนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้" ขี้เมาเขย่ากุญแจในมือให้ดู
"ลื้อไปนั่งให้สร่างเมาก่อนไป๊" ตำรวจส่ายหัวอิดหนาระอาใจ
"เฮ้ย เก็บไอ้จู๋ให้เรียบร้อยด้วย" ตำรวจชี้เป้ากางเกงขี้เมาที่ปล่อยให้ไอ้หนูห้อยออกมานอกซิป
"ตายห่า!!" ขี้เมาก้มลงมองและร้องอย่างตกใจ
"ใครขโมยเมียกูไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"

ไม่มี...ซักหน่อย

ไม่มี...ซักหน่อย

หนุ่มๆ 3 คนกำลังนั่นนินทาพฤติกรรมของบรรดาเมียอยู่ในบาร์

หนุ่มคนที่ 1 บอกว่า"เมียของผมจะต้องเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในโลกแน่เลย ซุปเปอร์มาร์เก็ตลดราคา
เธอเลยกระหน่ำซื้อเนื้อมาตั้ง900 เหรียญทั้งๆ ที่บ้านไม่มีตู้เย็นซักหน่อย"

คนที่ 2 บอกว่า "เมียผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วซื้อรถมาตั้ง 30000เหรียญทั้งๆที่เธอขับรถไม่เป็น"

คนที่ 3 บอกว่า "เมียผมโง่กว่าเมียพวกคุณจมเลย เมื่อตอนที่หล่อนไปเที่ยวที่ปารีสคนเดียว
ผมเห็นเธอเอาถุงยางอนามัยไปตั้ง 20 กว่าอันแน่ะ
ทั้งๆ ที่เธอไม่มี...ซักหน่อย "

ชุดนอนสีชมพู

ชุดนอนสีชมพู
สมชายกับสมศรีเพิ่งจะแต่งงานกันใหม่ และแล้วในคืนวันฮันนีมูนที่หวานชื่น
ซึ่งทั้งสองจะไปฮันนีมูนกันที่เกาะภูเก็ด สมศรีจึงโทรศัพท์ไปหาแม่แล้วบอกว่า
คุณแม่ขาพรุ่งนี้คุณสมชายจะพาหนูไปเกาะภูเก็ดค่ะ คุณแม่ช่วยซื้อช่วยจัดกระเป๋าให้หนูด้วย
แล้วก็อย่าลืมซื้อชุดนอนใหม่ให้ด้วย 1 ชุดนะคะ เมื่อวางโทรศัพท์คุณแม่ก็รีบกุลีกุจอไปจัดกระเป๋าให้ลูกสาวสุดที่รัก
และแล้วก็ล้มตัวหลับไปจนเช้า รุ่งเช้าคุณแม่ก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ซื้อชุดนอนชุดใหม่ให้แก่สมศรี
ทำให้รู้สึกกังวลเป็นยิ่งนัก ทันใดนั้นก็เกิดความคิดเฉียบพลันขึ้นมาในสมอง
คุณแม่จึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตนเองหยิบชุดนอนสีชมพูซึ่งเป็นชุดนอนตัวโปรดที่แสนรัก
และใช้เมื่อครั้งตนเองส่งตัวเข้าหอ...จัดเตรียมใส่ไปในกระเป๋าสมศรี
เมื่อสมศรีมาถึงบ้านก็คว้ากระเป๋าขึ้นรถไปทันที จากนั้นไม่นานก็มาถึงที่เกาะภูเก็ต
สมชายขอตัวบอกว่า "ผมขอตัวอาบน้ำอาบท่าก่อน คุณอย่าเปิดประตูดูผมหละ" ว่าแล้วก็เข้าไปอาบน้ำ
สมศรีจัดเสี้อผ้าจากกระเป๋าเข้าตู้ ด้วยความอยากรู้ว่าคุณแม่ซื้อชุดนอนอะไรให้
เมื่อเปิดกระเป๋าและหยิบชุดนอนขึ้นมาก็ต้องร้องอุทาน! ขึ้นมาด้วยความนึกไม่ถึงว่า
"อุ้ย! แม่เจ้า สั้นก็สั้น ย่นก็ย่น เหี่ยวก็เหี่ยว แต่...ยังดีนะที่เป็นสีชมพู "
ว่าแล้วเธอก็หยิบชุดนอนแขวนเข้าตู้
เมื่อสมชายได้ยินที่สมศรีพูดก็ตะโกนออกมาจากห้องน้ำทันทีว่า
...ผมบอกแล้วว่าอย่าพึ่งดู...อย่าพึ่งดู...ก็ไม่เชื่อ

Friday, December 19, 2014

ฝีมือเพื่อน

ฝีมือเพื่อน
อา จิวเป็นเพื่อนคู่หูกับทิดสุข ซึ่งทั้งสองต่างประกอบอาชีพไม่สุจริต ต่อมาอาจิวได้ตายลงแล้วมาเข้าฝันทิดสุขในสภาพที่โทรมมาก ทิดสุขจึงเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้โดยหวังว่าเพื่อนจะมีความสุขบนสรวง สวรรค์ หลังจากนั้นวิญญาณก็ไม่มาเข้าฝันอีกเลย จนกระทั่งหนึ่งปีผ่านไป วิญญาณอาจิวก็มาเข้าฝันอีกในสภาพผอมโซกว่าเดิม

" เงินหมดเหรอวะ แต่ข้าเผาเงินไปให้แกตั้งเย๊อะนี่หว่า " ทิดสุขสงสัย
" ก็ลื้อเผาเงินปลอมให้อั๊ว เลยติดคุกอยู่ปีนึง เพิ่งได้ออกมานี่แหละโว้ย!

ต้องใช่แน่ๆ

ต้องใช่แน่ๆ
สมชายเดินชมพิพิธภัณฑ์
และหยุดที่หน้าโครงกระดูกไดโนเสาร์
หันไปบอกกับคนที่ยืนข้างๆ
"คุณรู้มั๊ย ไดโนเสาร์ตัวนี้อายุ 100 ล้านปีกับอีก 10เดือน"
ชายคนนั้นมองด้วยความทึ่งแล้วถามว่า"ทำไมคุณรู้ละเอียดขนาดนั้นเลยล่ะ"
"ก็ผมมาที่นี่เมื่อ 10 เดือนที่แล้วไกด์บอกผมว่าเจ้าตัวนี้มันอายุ 100ล้านปีนะสิครับ"

พระเจ้าอยู่กับเรา

พระเจ้าอยู่กับเรา
นักบวช 2 คนซ้อนมอเตอร์ไซต์เข้าเมือง
ตำรวจทางหลวงเรียกให้จอดเพื่อตักเตือนที่ขับรถเร็ว
"หลวงพ่อขับช้าๆ หน่อยนะครับ มันอันตราย"
"ไม่เป็นไรหรอก พระเจ้ามากับเราด้วย"
"อ้าว! ถ้างั้นผมต้องออกใบสั่งให้หลวงพ่อ ข้อหาซ้อนสามแล้วล่ะครับ"

เต่า

เต่า
ชายคนหนึ่งถือเต่าเดินเข้าไปในร้านเหล้า
เจ้าเต่าถูกมัดขาด้วยเชือก
กระดองก็ถูกพันไว้แน่นหนา ด้วยเทป
"ทำไมต้องมัดเต่าไว้แบบนี้" เจ้าของร้านถาม
"เต่านี่มันเร็วมากเลยต้องมัดไว้ ถ้าไม่เชื่อลองมาพนันกันก็ได้
ให้คุณไปยืนที่ผนังนั่นแล้วลองเรียก หมามาดู
ผมว่าหมาคุณไปถึงผนังนั่นทีหลังเต่าผม" เจ้าของเต่าท้าพนัน
เจ้าของร้านตกลงรับพนันเป็นเงิน 5,000 บาท
เขาเดินไปที่ผนังแล้วก็ร้องเรียกหมาของเขา
ทันใดนั้นเจ้าของเต่าก็ขว้างเต่าลอยละลิ่วกระแทกผนังดังโครม
"เห็นมั๊ย ผมบอกแล้วว่าเต่าผมเร็วกว่าหมาของคุณ"

ระวังไข่ !

ระวังไข่ !
ชายคนหนึ่งขึ้นรถเมล์และเดินเข้าไปจะนั่งข้างสาวสวย
หญิงสาว : อุ๊ยพี่ !
ระวังไข่นะคะ
หญิงสาวบอกและชี้ไปที่ถุงที่วางอยู่
ชายหนุ่ม : ถุงไข่เหรอจ๊ะ น้องสาว
หญิงสาว : ถุงทุเรียนค่ะ

ยาวยิ่งกว่า

ยาวยิ่งกว่า
สองเกลอเสนาะ กับ สมหมาย ระเห็จขึ้นไปนั่งอยู่ราวสะพานข้ามคลองแห่งหนึ่ง พลางงัดขวดเหล้าขึ้นมาผลัดกันดวดจนกระทั่งตกดึก
ทั้งสองเกิดอาการปวดฉี่ขึ้นมาพร้อมกัน
"นั่งปล่อยแม่งเลยตรงนี้ล่ะวะ" เสนาะแนะนำ
และแล้วต่างคนต่างปล่อยน้ำเสียลงไปในคลอง
เสนาะสะดุ้ง พลางบอก "น้ำในคลองเย็นเจี๊ยบเลยว่ะ" เสนาะอวดว่าเจ้าหนู ของเขา
ยาวลงไปถึงในน้ำ
"เอ่อใช่" สมหมายว่า "แต่ข้าฉี่ไม่ออกว่ะ"
"ทำไมวะ มันหนาวขนาดนั้นเลยเรอะ"เสนาะชักงง
สมหมายทำหน้ากระหยิ่มแล้วบอก ว่า "ก็เจ้าหนูข้ามันปักไปในโคลน ใต้น้ำน่ะสิ"

เคล็ดลับการทำสวน

เคล็ดลับการทำสวน

สาวสวยนางหนึ่งเธอชอบทำสวนครัวมาก
เธอเห็นผักสวนครัวของคุณลุงข้างบ้านเจริญงอกงาม ผิดปกติ
ลูกมะเขือเทศของลุงลูกใหญ่และสีแดงสด เธอจึงไปถามเคล็ดลับจากคุณลุง
"เคล็ดลับไม่มีอะไรมากหรอกอีหนูะ แค่ทุกเช้าลุงจะแก้ผ้าเดินไปมาในสวนของลุง
ลูกมะเขือเทศ มันก็จะอายจนลูกแดงปลั่ง เอง"
สองสัปดาห์ต่อมาคุณลุงก็มาชมสวนของหญิงสาว
"เป็นไงบ้างหนู มะเขือเทศเป็นสีแดงสดบ้างไหม"
"ไม่เลยค่ะคุณลุง" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"แต่คุณลุงมาดูขนาดของแตงกวาในสวนของหนูสิคะ"

เร็วเกินไป

เร็วเกินไป
ทันทีที่ได้ข่าวคุณปู่เสียชีวิต เจนนี่ก็รีบบินไปหาคุณย่าเพื่อปลอบใจ
พอถามว่าคุณปู่จากไปเพราะอะไร คุณย่าอธิบายว่า
"ปู่แกหัวใจวายระหว่างที่มีเซ็กซ์กับย่าเมื่อเช้าวันอาทิตย์"
ถึงจะเห็นใจคุณย่า แต่เจนนี่ก็ยังอดโวยวายไม่ได้
"โห คุณย่า คุณปู่น่ะ อายุตั้ง 94 นะ
คุณย่าน่าจะรู้ว่าไม่ควรให้คุณปู่หักโหมแบบนั้น"
"ไม่ใช่อย่างนั้น" คุณย่าว่า
"ปกติย่ากับปู่มีเซ็กซ์กันแค่ทุกเช้าวันอาทิตย์ ตามจังหวะระฆังโบสถ์
แก๊งหนึ่งเข้า แก๊งหนึ่งออก แค่นั้นแหละ" หลังจากยกมือปาดน้ำตาที่หยดลงมา
คุณย่าอธิบายต่อว่า
"ถ้าไม่ใช่เพราะรถขายไอติมบ้านั้น ปู่เอ็งก็คงยังไม่ตายหรอก"

Thursday, December 18, 2014

พรนางฟ้า

พรนางฟ้า
สามีภรรยาอายุ 60 ปีด้วยกันทั้งคู่กำลังฉลองวันครบรอบแต่งงานปีที่ 25
นางฟ้าองค์หนึ่งปรากฏกายและเอ่ยให้พรแก่ทั้งสองคนละข้อ
"ฉันอยากไปเที่ยวรอบโลก" ภรรยาเอ่ยขอ
"ปิ๊ง!"
ตั๋วเครื่องบินรอบโลกชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของภรรยา
ฝ่ายสามีฝันหวานถึงสาวรุ่น
"เอ่อ.. ผมขอสาวที่อ่อนกว่า 30 ปีสักคน" เขาเอ่ยขออายๆ
"ปิ๊ง!"
สามีกลายเป็นชายชราอายุเก้าสิบในพริบตา!!!

หนึ่งเดียวอันนี้

หนึ่งเดียวอันนี้
คืนแรกอันหวานชื่นระหว่างหนุ่มหล่อกับเจ้าสาวแสนซื่อ หนุ่มก็หลอกเมียสาวว่าอาวุธประจำกาย ของเขามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นในโลกนี้
สาวซื่อก็หลงเชื่อว่าเป็นจริง
วันต่อมาสามีหนุ่มก็ต้องกลับไปทำงานและไปประชุมต่างเมืองเสียหลายวัน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็ต้องตอบคำถามของภรรยาคนซื่อ
"ที่รักคะ ไหนบอกว่าไอ้นั่นน่ะ มีอันเดียวในโลกไง ฉันเพิ่งรู้ว่าคนขายยาในเมืองก็มีแบบนี้เหมือนกัน" ภรรยาถาม
"เอ่อ.." สามีหนุ่มตอบไม่ค่อยถูกเหมือนกัน "จริงๆ ผมมีไอ้นั่นอยู่สองอัน แต่ไปสงครามเวียตนาม ด้วยกันผมเลยแบ่งให้คนขายยานั่นไปอันนึง.."
"เหรอคะ" ภรรยาสาวตาโต
"ทำไมคุณไม่เก็บอันที่ดีกว่าไว้ล่ะ"

อินเดียนเฒ่า

อินเดียนเฒ่า
กองถ่ายหนังเข้าไปถ่ายทำในกลางทะเลทรายในถิ่นอินเดียนแดง
วันนึงอินเดียนเฒ่าโผล่เข้ามาในกองถ่าย
"พรุ่งนี้ฝนตก" เขาว่า
วันถัดมาฝนตกจริงๆ
อาทิตย์ถัดมา เขามาที่กองถ่ายอีก
"พรุ่งนี้มีพายุ" เขาว่า
วันถัดมามีพายุจริงๆ
ผู้ อำนวยการกองถ่ายรู้สึกทึ่งอินเดียนเฒ่ามาก เขาจึงจ้างอินเดียนเฒ่าเอาไว้ทำนายดินฟ้าอากาศ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาทำนายถูกอีกหลายครั้ง ทำให้การถ่ายทำราบรื่นมาก แต่จู่ๆเขาก็หายหน้าไปเป็นอาทิตย์
ผอ.กองถ่ายรู้สึกอึดอัดเพราะต้องเจอปัญหาดินฟ้าอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เขาเลยไปตามอินเดียนเฒ่าถึงที่พัก
"เราจะถ่ายฉากสำคัญพรุ่งนี้" ผอ.ว่า "แต่เป็นห่วงเรื่องอากาศ คุณบอกผมหน่อยซิว่าพรุ่งนี้จะเป็นไง"
"ไม่รู้" อินเดียนเฒ่ายักไหล่
"วิทยุเสีย!!!"

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย
มี หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้าไปในร้านขายของสำหรับผู้ใหญ่ Sex Shop และ ถามพนักงานว่า "นิ..นี่ พอ..พ่อ หนุ่ม พ..พอ จะมี..อี ไอ้ที่เป..เป็น ทะ..แท่ง แบบของผู้ ช..ชาย ขะ..ขายรึเปล่า.."
พนักงานขายของซึ่งกำลังวุ่นกับงาน อยู่ก็ตอบเธอว่า "อ๋อ..มีครับ"
หญิง ผู้นั้นก็ยกมือที่สั่น ๆ ของเธอขึน ทำท่าบอกความยาวว่าราวๆ 10 นิ้ว แล้วก็ถามพนักงานว่า "แล...แล้ว ธ...เธอ มี ข...ขาย บะ.. แบบที่มัน...น ย..ยาวประมาณนี้รึเปล่า"
"แน่นอนครับ เรามีขนาดที่คุณต้องการ" พนักงานตอบ
หล่อน ก็ทำมือกุมเป็นวงกลมขนาดเส้นผ่านศุนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว แล้วก็ถามพนักงานต่อไปว่า "และ...แล้ว เธอมีขะ..ขาย อะ..อัน ที่ยะ..ใหญ่ ประมา..อาน นี้ด้วย มะ..ไหม จ๊ะ..ะ...."
"เออ.. มีครับ เรามีอันที่ใหญ่ขนาดนั้นเหมือนกัน"
"ละ..แล้ว พวกที่ ธ..เธอมีนั้นมันสั่น ดะ..ได้ ด้วย รึปะ..ปล่าว....วว.ว."
"เออ... รู้สึกว่าจะมีอยู่แบบที่สั่นได้ด้วยครับ"
"ด..ดี มาก.กก เลย จ..จ้า ธ...เธอ ร.รู้ มะ..ไหม ว..ว่า จะป..ปิด มะ..อัน ยัง..งาย..... "

เลี๋ยวมังก็หลุกปายเอง

เลี๋ยวมังก็หลุกปายเอง
หนุ่มใหญ่ไฮโซนายหนึ่งไปพบหมอที่คลีนิคกามโรคแห่งหนึ่ง หมอแจ้งแก่หนุ่มไฮโซว่า
"คุณเป็นโรคผู้หญิงขั้นรุนแรง...การรักษา มีทางเดียวเท่านั้นคือต้อง...ตัดทิ้ง.ง.ง"
หนุ่มไฮโซไม่ละความพยายามไปหาหมอจีนแผนโบราณที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง...และ เล่าอาการและคำแนะนำของหมอท่านแรกให้ฟัง
หมอจีนได้ฟังก็พูดขึ้นว่า..."ไม่ไหว..ไม่ไหว หมอสมัยนี้เอะอะก็จะตัดทิ้งอย่างเดียว"
หนุ่มไฮโซได้ฟังก็แสนจะดีใจและมีความหวังถามหมอจีนว่า...หมายความว่า ผมไม่ต้องตัด...ใช่ไหมครับหมอ?"
หมอจีนตอบว่า..."ม่ายต้องตัดทิ้งหรอก...ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ เลี๋ยวมังก็หลุกปายเอง.ง.ง.ง

ฟ้องแม่

ฟ้องแม่
พอแม่ประคุณกลับจากทำงานถึงบ้าน ลูกชายตัวน้อยก็ฟ้องแม่ทันที
"แม่ แม่ เมื่อกลางวันนี้น่ะ พ่อแอบกลับมาบ้าน แล้วน้าผู้หญิงคนที่อยู่ข้างบ้านเราก็เข้ามาหา พ่อเค้าพาน้าคนนั้นเข้าไปในห้องนอน แล้วน้าคนนั้นก็นอนบนเตียง แล้วพ่อก็ขึ้นไปอยู่บนตัวน้าคนนั้น แล้วพ่อก็.."
"หยุด หยุดพูดลูก" แม่เจ้าประคุณร้องเสียงหลง "แกอย่าเพิ่งพูดต่อเดี๋ยวรอพ่อแกก่อน จำไว้นะ พอพ่อแกมา แกเล่าให้พ่อแกฟังทุกอย่างอย่างที่แกบอกแม่ตะกี้น่ะ"
แม่เจ้า ประคุณรอพ่อตัวแสบด้วยความร้อนรน คิดว่าวันนี้จะต้องเอาเรื่องให้เห็นดำเห็นแดงกันไป พอพ่อกลับจากทำงานเดินเข้าบ้าน แม่เจ้าประคุณปราดเข้ามาจิกแขนจูงเข้ามาในบ้านด้วยความโกรธสุดขีด เรียกลูกชายมาแล้วสั่งลูกด้วยเสียงเกรี้ยวกราด
"เอ้า พ่อแกมาแล้ว แกเล่าเรื่องนั้นให้พ่อแกฟังทุกอย่างเลยน่ะ อย่างที่แกเล่าเมื่อเย็นนี้น่ะ"
"เมื่อ กลางวันนี้" เจ้าหนูเริ่มต้นเล่า "พ่อแอบกลับมาบ้าน แล้วน้าผู้หญิงข้างบ้านก็เข้ามาหา พ่อเค้าพาน้าคนนั้นเข้าไปในห้องนอน แล้วน้าคนนั้นก็นอนบนเตียงพ่อก็ขึ้นไปอยู่บนตัวน้าคนนั้น แล้วพ่อก็ทำกับน้าคนนั้นเหมือนอย่างที่ลุงบ้านโน้นทำกับแม่เมื่อวันก่อนเลย ครับ"

Wednesday, December 17, 2014

นักเดินทาง 3 คน

นักเดินทาง 3 คน
นักเดินทาง 3 คน หลงป่าไปเจอเผ่ากินคน วันนั้นเป็นวันเกิดของหัวหน้าเผ่า ท่านหัวหน้าจึงคิดจะทำบุญ จึงสั่งว่า
"วันนี้เป็นวันเกิดของข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แต่พวกเจ้าต้องเข้าป่าไปเก็บผลไม้คนละ 10 ผล
ต้องเป็นชนิดเดียวกันใน 10 ผลนั้น ไปได้"
ทั้ง 3 คนรีบเข้าป่าไปทันที สักครู่ คนแรกก็กลับมาพร้อมกับ
มะม่วง 10 ผล หัวหน้าเผ่าสั่งว่า "เจ้าจงนำผลไม้นั้นยัดไปในก้นของเจ้าทีละลูกให้ครบ โดยห้ามทำหน้าตา ใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้น จะถูกฆ่าทิ้ง"
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ทำตามทันที แต่พอถึงลูกที่ 2 ก็เผลอทำหน้าเหยเกออกมา จึงถูกฆ่า
ต่อมา ชายคนที่ 2 ก็กลับมาพร้อมเชอร์รี่ 10 ผล รายนี้ถูกสั่งให้ทำแบบเดียวกันก็รีบทำตามทันที

แต่เมื่อถึงลูกที่ 9 ก็เผลอปล่อยก๊ากออกมา จึงถูกฆ่าเช่นกัน
บนสวรรค์ ชายคนแรกถามอีกคนว่า
"แกหัวเราะออกมาทำไมวะ ทั้งๆที่ยัดลูกที่ 9 แล้วเชียว" ชายคนที่ 2 ตอบว่า
"ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็ตอนยัดลูกที่ 9 น่ะ
ข้าเห็นพวกเราอีกคน อุ้มทุเรียนตั้ง 10 ลูกกลับมา !"

กระท้อน

กระท้อน
ณ โรงเรียนในชนบทห่างไกลความเจริญ
มีคุณครูท่านหนึ่งทุกฯวัน จะใช้ให้เด็กหญิงคำหล้าทุบกระท้อนให้ทานทุกวัน
แต่แล้วมาวันหนึ่ง
คุณครู :เด็กหญิงคำหล้าวันนี้ช่วยทุบกระท้อนให้ครูสัก 3 ลูกนะ
ด.ญ คำหล้า : ครูค่ะวันนี้ให้คนอื่นทำให้ได้ไหมค่ะ
คุณครู : ทำไมล่ะ! ครูจะให้เธอนั้นแหละทำ เธอทุบได้หวานอร่อยดีครูชอบ
ด.ญ.คำหล้า : เอ้อ! คือว่าวันนี้หนู คงทำให้ไม่ได้จริงๆ เพราะแก้วบาดส้นเท้าหนูค่ะ
คุณครู : !!!!!!?????

แบงค์ย่อย

แบงค์ย่อย
ผู้หญิงคนหนึ่งทำกระเป๋าถือหล่นหายในห้างสรรพสินค้า
โชคดีที่มีเด็กคนนึงเก็บได้ และเขาก็เอามาคืนเธอ
เมื่อเธอเปิดกระเป๋าออกดูหลังจากได้รับแล้ว เธอก็ต้องแปลกใจ
“เอ๊ะ... ชั้นจำได้ว่ามีแบงค์ห้าร้อยในกระเป๋าอยู่ใบนึงนี่นา
ทำไมมันกลายเป็นแบงค์ย่อยหมดเลยล่ะ”
ไอ้หนูรีบตอบอย่างรวดเร็ว “คือว่านะคับ ครั้งที่แล้วผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้
เจ้าของเค้าไม่มีแบงค์ย่อย ผมเลยอดรางวัลเลยคับ”

ยิงธนู

ยิงธนู
มี พระราชาองค์หนึ่งรักการยิงธนูเป็นชีวิตจิตใจ ต้องการหาชายหนุ่มที่มีความสามารถในการยิงธนูเพื่อมาแต่งงานกับพระธิดาสุด สวย เลยป่าวประกาศให้หนุ่มๆ จากทั่วสารทิศมาทำการแข่งขัน
ปรากฎว่ามี 3 คนเข้าร่วมในครั้งนี้ พระราชาให้นำผลแอ๊ปเปิ้ลวางไว้บนหัวพระธิดาเพื่อเป็นเป้า
ชาย คนแรกยิงปักเข้าที่กลางลูกแอ๊ปเปิ้ล ผู้คนตบมือกันดังสนั่น ชายคนแรกโค้งคำนับแล้วพูดว่า "I'm Robinhood" แล้วก็เดินกลับไปยังที่นั่ง
ชาย คนที่สองทำการยิงบ้าง ลูกธนูแล่นเข้าเสียบท้ายลูกธนูดอกแรกอย่างแม่นยำและทะลุลูกแอ๊ปเปิ้ล ชายคนที่สองประกาศอย่างเสียงดังว่า "I'm Herculis" เสียงปรบมือจากคนดูดังสนั่นกว่าเดิม
ชายคนสุดท้ายเดินออกมาอย่างมั่นใจ ง้างคันธนูเต็มแรง ลูกศรพุ่งแหวกอากาศเสียปึ๊กเข้าที่หน้าผาก เลือดทะลัก พระธิดาล้มลงขาดใจตายทันที ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ชม ชายคนที่ 3 ก็เกาหัวแกรกๆ แล้วประกาศออกไปว่า
"I'm sorry" แล้วย่องจากไปเงียบๆ....

มีหน้าที่ฟังๆไป

มีหน้าที่ฟังๆไป

มีชายอยู่ 2 คน นั่งคุยกันที่สวนสาธารณะ
นายดำ:ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่ะ มึงอยากฟังมั๊ย
นายแดง:ฟังก็ฟังวะ
นายดำ:มีสามภรรยาคู่หนึ่ง ชอบทะเลาะกัน วันหนึ่งภรรยาให้สามีไปซื้อผงซักฟอกให้ แต่สามี ซื้อน้ำยาล้างจานมา
ภรรยาเลยถามว่า ทำไมเอ็งซื้อน้ำยาล้างจานมาวะ
สามีตอบว่า มีหน้าที่ซัก ซักไป
ต่อมา ภรรยาคิดแก้แค้น ในคืนวันที่สองเลยให้กินข้าวเปล่า ไม่มีกับ
สามีถามว่า กับข้าวล่ะ ภรรยาตอบ อย่าเรื่องมาก มีหน้าที่กิน กินไป
พอต่อมาวันที่สี่......
นายแดง:เฮ้ยวันที่ 3 ล่ะวะ ไปไหน
นายดำ:มีหน้าที่ฟังๆไป

สัตว์อะไรที่เธอชอบ

สัตว์อะไรที่เธอชอบ
คุณครูคุยกับเด็กนักเรียนอนุบาล 1 ระหว่างคอยผู้ปกครองมารับกลับบ้าน
"ที่บ้านหนูเลี้ยงสัตว์อะไรบ้างคะ" คุณครูถาม
"มีหมาแค่ตัวเดียวค่ะ แต่ข้างบ้านเขาเลี้ยงตั้งหลายอย่างค่ะ มีนก แมว ชะนีก็มีค่ะ" หนูน้อยเล่า
"แล้วหนูชอบอะไรมากที่สุดคะ"
"ชอบนกกับปลาสวยๆ คะ"
"เหรอคะ แล้วคุณพ่อคุณแม่ละคะชอบอะไร" ครูถามต่อ
"คุณพ่อชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบสัตว์อะไรซักอย่าง.." หนูน้อยส่ายหน้าเมื่อพูดถึงคุณพ่อ
"ส่วนคุณแม่.. เห็นคุณพ่อพูดอยู่เรื่อยเลยว่าคุณแม่ชอบแรดค่ะ.."

Tuesday, December 16, 2014

เรื่องนี้ต้องรอ

เรื่องนี้ต้องรอ
ด้วยความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตร
หญิงชราวัย 65 ปีรายหนึ่งสามารถให้กำเนิดบุตรได้สำเร็จ
วงศาคณาญาติที่ทราบข่าว ต่างเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี
และต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว และ
เมื่อพวกเขาขอดูหน้าทารกน้อย หญิงชราก็ตอบว่า "ไม่ใช่ตอนนี้"
ครู่ใหญ่ผ่านไป บรรดาญาติๆ ก็ขอพบหน้าทารกน้อยอีกครั้ง
หญิงชราตอบเหมือนเดิม "ไม่ใช่ตอนนี้"
ในที่สุด บรรดาญาติๆ ก็ถามขึ้นอย่างหมดความอดทนว่า
ก็แล้วเมื่อไหร่พวกเราถึงจะได้เห็นหน้าเจ้าตัวเล็ก
บรรดาญาติๆ ถามอีกว่าทำไมเราต้องรอจนกว่าเด็กร้องด้วย
คุณแม่วัย 65 ปีตอบ เพราะฉันจำไม่ได้ว่าวางแกไว้ที่ไหน

อายุยืน

อายุยืน
สุรศักดิ์มายืนรอแฟนที่ห้างแห่งหนึ่ง เขารอแฟนนานมากจึงคิดจะไปล้างหน้า
หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กวัยรุ่นกำลังนั่งกินช็อกโกแลค
ทอฟฟี่ น้ำอัดลม เขาจึงเดินเข้าไปเตือน
สุรศักดิ์ : น้อง น้องรู้ไหมว่าของพวกนี้ไม่มีประโยชน์
เด็กวัยรุ่น : รู้เพ่ ก็ผมกินประจำ
สุรศักดิ์ : อ้าว แล้วน้องไม่เป็นไรหรือ
เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมอายุ 100ปี
สุรศักดิ์ : ปู่น้องกินของพวกนี้ประจำเหมือนกันเรอะ
เด็กวัยรุ่น : ป่าว
สุรศักดิ์ : แล้วเอาปู่มาอ้างทำไม
เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้าน อายุเลยยืน
สุรสักดิ์ : ????????

อึราดแน่ๆ

อึราดแน่ๆ
ณ.ห้างสรรพสินค้าชั้นนำแผนกเครื่องเพชรคุณนายทัดทรวงกำลังยืนเลือกแหวนเพชรอยู่
ทันใดนั้นคุณนายทัดทรวงก็ได้เหลือบไปเห็นแหวนวงหนึ่ง...ซึ่งสวยงามมาก
เธอ จึงรีบก้มดูจนลืมระวังตัว เผลอผายลมออกมาด้วยความอายเธอจึงรีบหันซ้ายหันขวาปรากฎว่าบริเวณนั้นไม่มี ใครผ่านมา จะมีก็เพียงเจ้าของร้านเพชรที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้น
ด้วยความเขินคุณนายทัดทรวงจึงรีบถามไปทันทีว่า
“เอ่อ..แหวนวงนี้ราคาเท่าไหร่คะ”
เจ้าของร้านเพชรตอบมาทันทีว่า
"แค่คุณเห็นความงามของแหวนวงนี้ยังตดแตก แล้วถ้ารู้ราคาของมันคุณคงอึราดแน่ๆ"

ความคิดที่ดี

ความคิดที่ดี
มีอยู่ครอบครัวนึงมีลูกชายสามคนกำลังนั่งคิดกันว่าจะมอบอะไรให้เป็นของขวัญแก่คุณแม่ของพวกเขา

ลูกชายคนโต- พี่จะสร้างบ้านหลังใหญ่ให้แม่อยู่

ลูกชายคนรอง- ฉันจะส่งรถเบ๊นซ์ป้ายแดงพร้อมคนขับให้แม่

ลูกชายคนเล็ก- พี่ๆคงจะจำความรู้สึกของคุณแม่เวลาอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลได้ดี และพี่ๆก็รู้ว่าแม่สายตาไม่ดีอ่านหนังสือไม่ค่อยเห็น

ดังนั้น ฉันจะส่งนกแก้วซึ่งสามารถท่องคัมภีร์ไบเบิ้ลได้ นกแก้วตัวนี้อยู่ในโบสถ์มา14 ปี
เพียงแต่บอกชื่อบท นกแก้วตัวนี้ก็สามารถท่องบทนั้นทั้งบทออกมาได้

(ว่าแล้วลูกชายทั้งสามก็ส่งของขวัญไปให้คุณแม่ของพวกเขา.... ต่อมา แม่ก็ตอบจดหมายลูกๆ ทั้งสามว่า...)
แม่บอกลูกคนโตว่า บ้านที่ลูกสร้างให้มันใหญ่โตเกินไป แม่อยู่แค่ห้องเดียว แต่แม่ต้องทำความสะอาดทั้งหลัง
แม่บอกกับลูกคนรองว่า แม่แก่เกินไปที่จะไปไหนแล้ว แม่อยู่กับบ้านไม่ค่อยได้ใช้รถเลย

แม่บอกกับลูกคนเล็กอย่างชื่นชมว่า- ลูกรู้ใจแม่จริงๆว่าแม่ชอบอะไร นกแก้วทอดอร่อยมาก

ห้ามรบกวน

ห้ามรบกวน
คณะ ทัวร์กลุ่มหนึ่งนั่งรอหนุ่มบ้านนอกเพื่อนร่วมคณะที่จนแล้วจนรอดก็ไม่โผล่มา สักที ทั้งๆที่เลยเวลานัดมา 30 นาทีแล้ว ด้วยความสงสัย ไกด์สาวจึงโทร.ถามขึ้นไปตามที่ห้องพัก...

" คุณจะไปหรือเปล่า เรานั่งรอกันมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ"

ไกด์สาวกรอกเสียงไปอย่างฉุนๆ

" โอย..ดีใจจังเลยที่คุณโทร.มา ช่วยผมหน่อยเหอะ ผมออกจากห้องไม่ได้ "

หนุ่มบ้านนอกวิงวอน

" เกิดอะไรขึ้นคะ " ไกด์สาวตกใจ

" ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ในห้องนี้มีประตูอยู่ 3 บาน

บานหนึ่งเป็นประตูห้องน้ำ

บานหนึ่งเป็นประตูตู้เสื้อผ้า

ส่วนอีกบานผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร

แต่ผมไม่กล้าเปิด เพราะมีป้ายแขวนไว้ว่า

...ห้ามรบกวน "

วิธีซื้อของให้แฟน

วิธีซื้อของให้แฟน
"ผมจะซื้อรองเท้าให้แฟนผมสักคู่ครับ" ชายหนุ่มบอกพนักงานขายสาวสวย

"แฟนคุณใส่เบอร์อะไรคะ" พนักงานสาวถาม

"เอ.. ไม่รู้แฮะ ผมลืมถามเธอ"

"รองดูเท้าฉันก็ได้ค่ะเท่านี้หรือเปล่า ลองจับดูก็ได้นะคะจะได้กะขนาดถูก" พนักงานสาวถอดรองเท้าให้ชายหนุ่มคลำ เพื่อกะขนาด

"ผมว่าขนาดเดียวกันนะ" ชายหนุ่มบอกหลังจากคลำไปได้สักครู่หนึ่ง

ตกลงวิธีการของพนักงานสาวได้ผล เธอขายรองเท้าได้คู่หนึ่ง

"อยากซื้ออะไรอย่างอื่นไปฝากแฟนอีกหรือเปล่าคะ" เธอถาม

ชายหนุ่มหรี่ตาเจ้าเล่ห์

"เอ่อ.. ผมอยากได้ยกทรงกับกางเกงในสัก 2-3 ตัวน่ะครับ"

ซื้อเอง

ซื้อเอง
ตำรวจจับผู้ร้ายได้คนหนึ่ง กำลังจะพาไปโรงพัก
แต่เผอิญตำรวจอยากสูบบุหรี่ ผู้ร้ายจึงบอกว่า
ผู้ร้าย: เดี๋ยวผมไปซื้อให้ครับ

ตำรวจ: แกคิดว่าฉันโง่รึไง ถ้าแกไปซื้อแกก็หนีสิ แกรออยู่ตรงนี้แหละ
เดี๋ยวฉันไปซื้อเอง

ข้อสอบ O'net 57

ข้อสอบ O'net 57 ให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว(ทดสอบครู)
.............

1. พฤติกรรมใด ? แสดงว่าเป็นบุคคลที่ “กลัวผี ” มากที่สุด
ก. หันหัว หนี ผี
ข. สั่นหัว เมื่อเจอ ผี
ค. เบี่ยงหัว หลบ ผี
ง. คลุมหัว หนี ผี
2. การแสดงออกแบบใดจึงถือได้ว่า
ไม่กลัวผี
ก. ส่ายหัว เข้าหา ผี
ข. ให้ ผี เลียหัว
ค. เชิญ ผี มาลูบหัว
ง. ให้ ผี จับที่หัว
3. ฝนตกฉันจะกางร่ม แต่ถ้าแดดออกฉันก็จะกางร่ม คำกล่าวนี้ผู้พูดมี แนวความคิดและเหตุผลอย่างไร?
ก. กลัว ตูด โดนแดด
ข. กลัว ตูด ถูกแดด
ค. กลัว หันตูด ให้แดด
ง. กลัว ตูด ไม่ได้แดด
4. วิธีการทำผมแบบใด ? ที่สาววัยรุ่นสมัยใหม่ชอบทำกัน
ก. เซ็ท ก่อน ย้อม
ข. เซ็ท หลัง ย้อม
ค. เซ็ท ขณะ ย้อม
ง. เซ็ท แล้ว ย้อม
5. สุภาพสตรีโดยทั่วไปชอบการทำผมแบบใดมากที่สุด ?
ก. เซ็ท แล้ว ไม่ย้อม
ข. เซ็ท ๆ ย้อม ๆ
ค. ไม่เซ็ท และ ไม่ย้อม
ง. ไม่เซ็ท แต่ ย้อม
6. หาดทราย ที่เก่าแก่และสวยงามมากที่สุด คือหาดในข้อใด?
ก. หาด เท่า ถี
ข. หาด เกลื่อน กลี๋
ค. หาด เท่า กระจี๋
ง. หาด ก่อน ประวัติศรี
7. งานประเภทใด ที่มีคนอยากทำมากที่สุด
ก. ยก ไห ขึ้นรถฟรี
ข. ยก กระดาน ขึ้นจอ
ค. ยก หีบ หนี
ง. ยก หอย ไปที่ดี
8. เมื่อ 2T เป็นค่าโดยเฉลี่ย 10 T จะหาค่าได้อย่างไร?
ก. ต้องหาร B
ข. ต้องหาร เท่า G
ค. ต้องหาร ทน T
ง. ต้องหาร ซม C
9. ความดี ในข้อใด ที่ท่านควรทำได้ทุกวัน
ก. ดี หลาย เท่า
ข. ดี ถั่น ๆ
ค. ดี แล้ว บั้น
ง. ดี เข้า หัน
10.ปอกระเจา ปลูกมากทางทิศตะวันออก แต่ ปอ ในข้อใดสามารถปลูกได้ทุกภาค?
ก. ปอ กระ ดั่น
ข. ปอ กระ เด่า
ค. ปอ กระ ดุก
ง. ปอ กระ ดิ้น
11. นักมวย ในข้อใดต่อไปนี้ ที่เคยมีตำแหน่ง และหาคู่ชกยากที่สุด
ก. มวย หัว คิด
ข. มวย หัว เข็น
ค. มวย หัว คุด
ง. มวย หัว เคื่อย
12. หอยชนิดใด ? ที่มีขนาดเล็กที่สุด
ก. หอย กระจี้ รี่
ข. หอย ไซ ฟี
ค. หอย มด ตะ นี
ง. หอย ป้า พลี
13. นักเล่นหวย ในข้อใด ? มีโอกาสถูกหวยมากที่สุด
ก. ให้ KEY เมื่อ แทง หวย
ข. โชว์ KEY เมื่อ เจอ หวย
ค. นำ KEY ไป เขย่า หวย
ง. ล้าง KEY ก่อน แทง หวย
14. ชาวญวนประเภทใด ? ที่มีลักษณะน่าคบมากที่สุด
ก. ญวน ชอบ เช็ด
ข. ญวน คร่ำ เคร็ด
ค. ญวน ไม่ชอบ เช็ด
ง. ญวน กับ คุณเพชร
15. ญาติประเภทใด ท่ีไม่น่าคบมากที่สุด
ก. ญาติ ไม่ มี เพชร
ข. ญาติ ชอบ ผิด เพชร
ค. ญาติ ไม่ มี รส เช็ด
ง. ญาติ กระเรีย กระเร็ด
16. คุณหญิงในข้อใด ที่เคยมีตำแหน่งและชื่อเสียงมากที่สุด
ก. คุณหญิง หาน มะ โห รี
ข. คุณหญิง หาย พรร- ณา- รี
ค. คุณหญิง หอก สาม สี
ง. คุณหญิง หาน เท่า ต้น ตี
17. การ หึงหวง แบบใด ?
ที่ดูแล้วไม่น่าเกลียด
ก. หึง ถูก ดี
ข. หึง ถูก คลี
ค. หึง ริม บี
ง. หึง ชอบ ผี่
18. เครื่องดนตรี ประเภทใด
ที่ผู้หญิงชอบเล่นมากที่สุด
ก. ปี่ หัน
ข. ซอ กระ เดก
ค. ขลุ่ย นาย ดวย
ง. ฆ้อง ขอ รวย
19. ต้นตาล ในข้อใด ไม่เหมาะ
ที่จะนำมาปลูกที่บ้าน
ก. ตาล ใคร แหยด
ข. ตาล หย่อน แหยด
ค. ตาล มี แปด
ง. ตาล แบด
20. ข้อใดที่แสดงว่า นางสาวใย
มีอาการผิดปกติทางร่างกาย
ก. ใย เมื่อ เร็ด
ข. ใย กับ เคล็ด
ค. ใย สนุกกว่า เคล็ด
ง. ใย ไม่บอก เคล็ด
21. เลข แปด เป็นเลขมงคล และ
นิยมใช้ เลขแปดในทางใดมากที่สุด ?
ก. 8 แตง
ข. 8 ติด
ค. 8 ตัด
ง. 8 เต่า
22. เลข ในข้อใด? มีค่าความเชื่อมั่น ทางสถิติสูงสุด
ก. 4 หาย
ข. 5 อี๋
ค. 6 กระดี๋
ง. 7 ยับ
23. ผู้ใหญ่บางคนทำตัวไม่ดี
แต่มีความดีเหลืออยู่ เขาดีอย่างไรบ้าง
ก. ดี แต่ หู
ข. ดี แต่ หัน
ค. ดี แต่ หึง
ง. ดี แต่ หูด
24. การเซ็ท วอลเลย์บอลแบบใด
ที่ดูสวยงามมากที่สุด ?
ก. เซ็ท ขา แยก
ข. เซ็ท ก่อน แยก
ค. เซ็ท ตูด หย่าย
ง. เช็ด กัน ยวน
25. ภาพยนตร์เรื่องใดที่ควรได้รับตุ๊กตาทอง
ก. ครู สวม รวย
ข. โหด สุด บี๋
ค. หมัด ถูก ต๋อย
ง. ยักษ์ ไม่มี เพชร
26. คนพวกใดที่ถือว่า มีความพิการ ทางร่างกายมากที่สุด ?
ก. หู ไม่เคย ได้ดี
ข. หู อิด อี้
ค. หู เป็น รี
ง. หู ไม่มี รี
27. ดอยอะไร ที่มีความสวยงาม
และน่าเที่ยวมากที่สุด ?
ก. ดอย หมู
ข. ดอย หมึง
ค. ดอย หมัน
ง. ดอย หมง
28. ขุนนางไทยท่านใด ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ?
ก. ขุน ยาง ชอบ เคล็ด
ข. ขุน ระ วี รู หัง
ค. ขุน ยัง กำ แพง เพชร
ง. ขุน ระ แหวด รู ตัง
29. นางงามชาติใด ที่ถือได้ว่า เซ็กซี่มากที่สุด
ก. มีส เห๋อ บี้ รี่ ( อังกฤษ )
ข. มีส โหน ตี้ ( ญี่ปุ่น )
ค. มีส หมี สาม สอย ( จีน )
ง. มีส หมกด๋อย ( เวียตนาม )
30. เมื่อภรรยาหลวงจับได้ว่า ท่านมีภรรยาน้อย ท่านจะทำอย่างไร หากภรรยายื่นคำขาดให้ท่านเลือก
ก. เลือกอยู่กับภรรยาหลวง
ข. เลือกอยู่กับภรรยาน้อย
ค. เลือกอยู่ด้วยกันทั้งสองคน
ง. ถูกทุกข้อ
...........

ขอให้ทุกท่านโชคดี และมีความสุขในการทำข้อสอบ

ข่าวด่วน

ข่าวด่วน -- ระวังเชื้อไวรัสที่อันตรายกว่าเชื้ออีโบล่า

เรียกว่าเชื้อ "อีบนล่าง"   มี "โต๊ด" , "เต็ง" เป็นพาหะ
คาดเชื้อมีฤทธิ์รุนแรงมาก
ระยะฝักตัว คือ ระยะ 2-3 วัน ก่อนวันที่ 1 ของเดือน
ผู้ติดเชื้อจะมีอาการตื่นเต้น กระวนกระวาย ไม่อยู่นิ่ง
กระสับกระส่าย บางรายมีความคิดวกวนกับตัวเลข
จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้
แต่อาการจะหายไปหลังเวลา 4 โมงเย็นของวันที่ 1
บางรายอาจมีอาการซึมเศร้า สับสน เหม่อลอย
เพราะมีภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ "ถูกแดร๊ก" 
แต่อาการดังกล่าวจะหายไปภายใน 7 วัน
ก่อนจะระบาดอีกครั้งในวันที่ 16 ของเดือน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

Saturday, December 13, 2014

พิจารณาแล้ว

เทวดาได้พิจารณา

คุณสมบัติชาย 2 คน รอขึ้นสวรรค์!!!

คนที่ 1 เป็นคนขับรถเมล์ เทวดาพอใจมาก ให้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

คนที่ 2 เป็นพระภิกษุ เทวดาให้ขึ้นสวรรค์ชั้นต้น พระภิกษุจึงโวย

พระ : “อาตมาบวชมา 35 ปี เทศน์ให้คนฟังเป็นล้าน ทำไม ได้ขึ้นสวรรค์ชั้นต้น แต่พ่อหนุ่มนั่นเป็นแค่คนขับรถเมล์กลับได้ขึ้นสวรรค์ชั้น
ดาวดึงส์”

เทวดา : “ท่านน่ะ เวลาเทศน์คนฟังหลับหมด แต่พ่อหนุ่มนั่นเวลาขับรถ
ผู้โดยสารทุกคนนั่งสวดมนต์ ตลอดทาง

Friday, December 12, 2014

สัจธรรม ใน ชีวิต

 สัจธรรม ใน ชีวิต
 
1. คนจน ต้องการ บางอย่าง 
 คนโลภ ต้องการ ทุกอย่าง

2. ถ้าทุกคน ได้ทุกอย่าง ดั่งที่คิด สิ้นชีวิต  จะเอาของ  กองไว้ไหน
    ได้มาบ้าง  เสียไปบ้าง ช่างปะไร หน้าที่ใคร  ทำให้ดี  เท่านี้พอ

3. เดี๋ยวค่อยทำ   วันนี้ยังไม่ว่าง
    เดี๋ยวค่อยทำ   งานต่างๆยังมาก ล้น
    เดี๋ยวค่อยทำ   เป็นข้ออ้างของ บางคน
    พาอับจน   เพราะคำเดียว
 เดี๋ยวค่อยทำ

4.  ถ้าไม่ชอบ   คือไม่ใช่
     ถ้าไม่ใช่     คือไม่เอา
     แต่...ถ้าชอบ  และ...ก็ใช่
     ถึงไม่ให้    ก็จะเอา

5. เวลาน้ำเข้าตา  มันจะเจ็บที่ตา  แต่...เวลาน้ำออกตา  มันดันไปเจ็บที่ใจ

6. แลกเงินคนละบาท
    ก็ได้คนละบาท
    แลกความคิดคนละ 1 ความคิด  ได้คนละ 2 ความคิด

7.  ชีวิตนี้  จะมีคุณค่า
     เมื่อเกิดมา  แล้วมีหน้าที่
     มีแล้ว  ต้องทำให้ดี
     ไม่ใช่มี หน้าที่อยู่ ไปวัน ๆ

8.  คนงาม งามจิตใจ ใช่รูปสวย
     คนรวย รวยน้ำใจ ใช่เงินหนา
     คนเก่ง เก่งมาได้ ด้วยวิชา
     คนดัง ดังไม่ว่า อย่าลืมตัว

9. ความสุข... ถ้าแบ่งปันกัน
ก็จะเพิ่ม เป็น 2 เท่า
    ความทุกข์... ถ้าแบ่งปันกั
ก็จะลด ลงครึ่งหนึ่ง

10. ไม่มีคำแนะนำของ ใคร
      ที่ไร้ค่า ไปเสียหมด
      แม้แต่ นาฬิกาตาย
      มันยัง ตรงเวลา
      ถึงวันละ 2 ครั้ง

11. เวลาไม่ได้ทำให้ใคร เสียคน 
     แต่ใครบางคนต่างหาก
ทำให้...เสียเวลา

12. ความทุกข์  เกิดขึ้นจริง ๆ ครั้งเดียว
       แต่...ความคิด
     เกิดวนเวียนซ้ำซากนับพันครั้ง

13.  มี 4 สิ่งในโลก ที่เงินซื้อไม่ได้
       ความรัก  เวลา
       ชีวิต  และมิตรแท้

14.   Impossible »
       I'm possible
       ถ้าตัวเรา  เดินหน้า
       คำว่า  "เป็นไปไม่ได้"
       สักวันหนึ่งก็จะ"เป็นไปได้"

15.   สารภาพผิด
     ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง
        สารภาพรัก
     เพิ่มความคิดถึงเป็น 2 เท่า

16.  "สมอง"  จำอะไรไม่ได้
               แต่...
       "ใจ"  จำโคตรแม่น

อย่าหยุด

ลูกสาว : แม่หนูท้องค่ะ
แม่ : อะไรน๊ะ !!!
ลูกสาว : สามเดือนแล้วค่ะ 
แม่ : กูบอกแล้วใช่ไหมว่า
ถ้าเขาจับนมให้ร้องว่า"อย่า"
ถ้าเขาล้วงหว่างขาให้ร้องว่า "หยุด" มึงก็ไม่ทำ ฮื้อ !  !  ! 
ลูกสาว : อ้าว ก็เขาจับทั้งนม
ล้วงทั้งหว่างขา หนูก็ร้องว่า "อย่าหยุด  อย่าหยุด" แล้วหนูผิดด้วยหรือค๊ะ

Tuesday, September 30, 2014

วิตามินซี จาก 10 ผลไม้เพื่อหน้าสวยเปล่งปลั่ง

คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า ถ้าอยากผิวสวย ต้อง “วิตามินซี” แต่วิตามินซีเพื่อผิวสวยจะต้องทานอะไรเข้าไป หรือเพียงแค่ใช้มาส์กผิว และผลไม้อะไรที่มีวิตามีนซีสูงบ้าง แล้วจริงๆ วิตามินซีทำไมถึงทำให้ผิวพรรณของเราสวยได้ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ. ..
ประโยชน์ของวิตามินซีกับผิวพรรณ
วิตามินซี หรือชื่อเต็มว่า Ascobic Acid เป็นวิตามินที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากการทานเข้าไป มีหน้าที่หลักๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากขบวนการในร่างกาย หรือจากมลพิษ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งจะทำให้เซลล์ต่างๆ เสื่อม หรืออาจเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ที่ผิดปกติได้ วิตามินซียังทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในขบวนการต่างๆ ของร่างกาย เช่น การสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อเกี่ยวกับผิวหนัง และของเส้นเลือดให้แข็งแรง ไม่เปราะ ยืดหยุ่นได้ดี และยังช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิว ดังนั้นจึงช่วยในการลดริ้วรอย ด่างดำ รอยสิวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวที่คล้ำจากแสงแดดให้ดูกระจ่างใสขึ้น โดยจะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและมีความต่อเนื่องสม่ำเสมอ
ซึ่งผลไม้เนี่ยแหล่ะ ที่จะเป็นแหล่งของวิตามินซี ที่สาวๆ ทุกคนควรจะรับทราบและหมั่นบริโภคเข้าไป เพื่อให้ผิวพรรณของเราเปล่งปลั่ง สวยใส ด้วยธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องพี่งสารเคมีแต่อย่างใด แล้วผลไม้ที่มีวิตามินซี คือชนิดไหนบ้าง .. มาดูกันค่ะ
วิตามินซี
1. ส้ม
ส้มอุดมไปด้วยเส้นใยธรรมชาติ วิตามินซี เกลือแร่ และคอลลาเจนสูงทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น และมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้นขึ้น โดยนวดเปลือกส้มแล้วสับให้ละเอียด จากนั้นนำไปทาบริเวณใบหน้า คอ และไหล่แล้วปิดทับด้วยผ้าบางๆ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เสร็จแล้วใช้ครีมบำรุงผิวตามปกติ สูตรนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าได้มากเลยทีเดียว หรือ ผสมเนื้อส้ม 1 ผล กับ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย นำมาปั่นรวมกับโยเกิร์ต โดยไม่ต้องปั่นระเอียดมากนัก นำส่วนผสมที่ได้มาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปากเอาไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก
วิตามินซี
2. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ล อุดมไปด้วยเพคตินที่ช่วยทำให้เล็บแข็งแรง ซึ่งจะมีวิตามินซีที่สามารถช่วยให้ผิวพรรณสวย เปล่งปลั่ง และยังเป็นผลไม้ที่ทานแล้วไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย โดยนำแอปเปิ้ลไม่ปอกเปลือก 1 ผล น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ นำมาปั่นให้ละเอียดพอกให้ทั่วใบหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกทำเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้งแอปเปิ้ลจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนและลดเลือน จุดด่างดำ ส่วนน้ำผึ้งช่วยให้หน้านุ่มเนียนกระจ่างใสขึ้น
วิตามินซี
3. สตรอว์เบอร์รี่
วิตามินซีที่อุดมอยู่ในผลสตรอว์เบอร์รี่ รวมถึงวิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเซียม แถมด้วยกรด Ascorbic acid ซึ่งสามารถช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง เพียงรับประทานสตรอว์เบอร์รี่สดทุกวัน ก็จะทำให้ผิวพรรณของสาวๆ ก็จะเรียบเนียนเปล่งปลั่ง ช่วยชะลอความชรา และการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร โดยนำสตรอว์เบอร์รี่ 3-4 ผล โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บดสตรอเบอร์รี่ให้ละเอียด เติมโยเกิร์ต และน้ำผึ้งลงไปเพื่อให้เป็นส่วนผสมข้นๆ ทาลงบนใบหน้าและลำคอที่ทำความสะอาดแล้ว ยกเว้นรอบบริเวณดวงตาทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โยเกิร์ตจะช่วยสร้างความสมดุลให้ผิวในขณะที่สตรอเบอร์รี่ช่วยทำความสะอาดและ กำจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพทำให้ผิวจะกระจ่างใสและสดชื่น
วิตามินซี
4. สับปะรด
อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ อันได้แก่ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของ เซลล์ผิวหนัง กินบ่อยๆ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีอีกด้วย โดยผสมน้ำสับปะรด น้ำผึ้ง น้ำสะอาดคนให้เข้ากัน พอกให้ทั่วบริเวณใบหน้ายกเว้นบริเวณปากและดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก สับปะรดช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และลดการอักเสบของผิวได้สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน A วิตามิน C สูงช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีเกลือแร่อีกหลายชนิดช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ขึ้น
วิตามินซี
5. ทับทิม
ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินเอ ซี อีสูง ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นด้านการเสริมสร้างผิวสวย กระจ่างใส ทั้งยังช่วยการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดี ใครอยากมีผิวขาวสวย หัวใจแข็งแรง แนะนำให้ลองดื่มน้ำทับทิมวันละ 1 แก้วรับรองผิวพรรณสวยขึ้นแน่นอน หรืออาจใช้มาส์กสำเร็จที่สกัดมาจากทับทิมก็ได้ค่ะ
วิตามินซี
6. มะเขือเทศ
จะช่วยชะลอวัยให้อ่อนเยาว์ และยังช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทานเล่นๆ หรือปั่นเป็นน้ำผล ไม้ทานก็ดีต่อสุขภาพผิว เช่นกัน หรือมาส์ก โดยการผสมน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาวสด 2-4 หยด แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะเขือเทศกับมะนาวที่ผสมไว้บนผิวบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้น้ำอุ่นเกือบเย็นล้างออกเพื่อทำให้รูขุมขนหดตัวลงและบำรุงผิวให้ชุ่ม ชื้น
วิตามินซี
7. มะนาว
เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีที่ว่านี้ก็จะช่วยให้สาวๆ นั้นมีผิวพรรณที่นุ่มเนียนสดใส และเปล่งปลั่งด้วย โดยผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกและดินสอพอง 4-5 เม็ด นำดินสอพองและมะนาวมาผสมให้เข้ากัน จะได้ครีมที่เหนียวข้น พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง จะทำให้หน้าใสมากขึ้น หรือผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมมาคนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็จะทำให้ใบหน้าอ่อนวัย ใส่เปล่งปลั่งค่ะ
วิตามินซี
8. ฝรั่ง
มีวิตามินซีมาก รวมถึงมีวิตามินเอและโพแทสเซียมในปริมาณสูง ช่วยขับสารพิษจนทำให้ผิวมีสุขภาพดีไร้ริ้วรอยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยนำเนื้อฝรั่งมาบดให้ละเอียด แล้วพอกหน้า จะช่วยป้องกันผิวเหี่ยวย่น วิธีแก้จุดสัมผัสที่หยาบกร้าน ถ้าคุณมีผิวที่กร้านจากการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลาทำให้ผิวหนังแห้งสากได้
วิตามินซี
9. แตงโม
มีทั้งแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิดที่มีอยู่มากมาย ช่วยบำรุงผิวพรรณของสาวๆ ช่วงล้างไต และของเสียขับปัสสาวะในร่างกาย สามารถมาส์กได้โดยนำแตงโมมาฝานให้เป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด จากนั้นให้นำชิ้นแตงโมเหล่านั้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิตามินซี
10. อะโวคาโด
เพราะในผลไม้ชนิดนี้มีวิตามิน เอ ซี อี ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ และสารแอนตี้ออกซิเดนท์อย่าง วิตามิน B1 B2 B6 โดยนำอะโวคาโดสดครึ่งลูกผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา แล้วมาส์กหน้าทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำธรรมดา จะทำให้ผิวหน้ากระชับตึง เฟิร์มขึ้นค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับผลไม้ 10 ชนิด ที่อุดมไปด้วยวิตามินที่มีคุณสมบัติให้ผิวพรรณของเรานั้นขาวใส เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งการรับคุณค่าของวิตามินซีจากผลไม้เหล่านี้ ได้ทั้งทานเข้าไปและใช้มาส์กหน้าตามสูตรข้างต้น อย่างนี้สาวๆ ก็หมั่นบำรุงผิวหน้าตัวเองนะคะ รับรองว่าใครเจอจะต้องทัก ว่าอายุ 20 แน่นอน

Monday, September 29, 2014

อันตรายและโรคของ ′สังคมก้มหน้า′ที่ควรรู้

โรค′เท็กซ์เนค′ อาการของ′สังคมก้มหน้า′

อันที่จริงเรื่อง "เท็กซ์เนค" ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พูดถึงกันมา 2-3 ปีแล้ว ที่ผมหยิบกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งเป็นเพราะว่าตอนนี้มันกำลังกลายเป็น "โกลบอล ซินโดรม" คือออกอาการกันแพร่หลายไปทั่วโลก ตามการแพร่ระบาดของอุปกรณ์พกพาสารพัดตั้งแต่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เรื่อยไปจนถึงอีบุ๊กรีดเดอร์ทั้งหลาย

ก่อนหน้านี้อุปกรณ์เหล่านี้ถูกจำกัดการใช้งานด้วยการเชื่อมต่อแต่ตอนนี้ เมื่อสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลาเนื้อหาที่มากับหน้าจอก็หลากหลายมาก ขึ้น ดึงดูดใจมากขึ้น ทั้งไลน์ ทั้งเกม ทั้งอีบุ๊กสารพัด สัดส่วนการใช้งานต่อวันก็เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล ไปไหนมาไหนก็เจอแต่ผู้คนก้มหน้าลงหาจออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า รถประจำทาง ร้านอาหาร

หนักๆ เข้าเดินไปไหนมาไหน ยังไปในลักษณะ "ก้มหน้า" จนผู้ใหญ่ท่านหนึ่งค่อนแคะให้เข้าหูว่าสังคมยุคนี้กลายเป็น "สังคมก้มหน้า" ไปแล้ว

"เท็กซ์เนค" เป็นคำที่ นายแพทย์ดีน ฟิชแมน แพทย์กายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดอาการของกระดูกสันหลังชาวอเมริกัน คิดขึ้นเพื่อใช้เรียกกลุ่มอาการของโรคที่เกิดขึ้นจากการ "ก้มหน้า" บ่อยๆ ซ้ำๆ และนานเกินปกตินี้ อาการที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ การปวดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ กล้ามเนื้อคอ ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดทุกวัน หนักเข้าก็อาจพาลไปถึงเกิดการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบน ซึ่งถือว่าสาหัสเลยทีเดียวครับ

ที่น่ากังวลก็คือ การก้มหน้าในลักษณะนี้บ่อยๆ นานๆ จะส่งผลต่อบุคลิกท่าทาง และการเติบโตของร่างกายในเด็กและวัยรุ่นให้ออกมาบิดเบี้ยวโค้งงอจนต้องมาหา ทางแก้กันยุ่งยากในภายหลัง

ที่มาของโรคนี้คือการก้มนั่นแหละครับในทางการแพทย์เขาบอกว่าเพียงแค่การก้ม ศีรษะลงไปข้างหน้า ผิดจากท่าปกติตามธรรมชาติ (คือเมื่อหูของเราอยู่ในแนวเดียวกับไหล่) เพียงแค่นิ้วเดียว น้ำหนัก

ของศีรษะก็จะทำให้ กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูกและเส้นประสาทในบริเวณไหล่ คอ ต้องแบกรับภาระหนักเพิ่มขึ้นมากแล้ว น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วยการถ่วงไปข้างหน้าจะไปดึงรั้งกล้ามเนื้อเส้นเอ็น ทั้งหมดให้ต้องแบกรับภาระมากขึ้นตามไปด้วยอาการตึงจะเกิดขึ้นตามมาถ้าทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้งก็จะเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ทั้งกับกล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทในบริเวณดังกล่าว

ดร.ฟิชแมนเคยแสดงให้เห็นฟิล์มเอกซเรย์ของวัยรุ่นอเมริกันที่แสดงชัดเจนว่า กระดูกสองสามชิ้นบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบนโค้งงอไปด้านหน้าแบบผิด ธรรมชาติเพราะเหตุนี้มาแล้ว

ข้อมูลที่ได้จากผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อปี2000ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วศีรษะของคนเราจะหนักประมาณ 5 กิโลกรัม การก้มไปข้างหน้าทุกๆ 2 เซนติเมตร จะทำให้ไหล่ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ถ้าก้มลงไป 6 เซนติเมตร น้ำหนักของศีรษะที่ไหล่ คอ และกระดูกสันหลังที่ต้องรองรับนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 20 กิโลกรัม

น้ำหนักขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการก้มนานๆ ซ้ำๆ อยู่ทั้งวันถึงก่อให้เกิดอาการได้มากขนาดนั้น

คำแนะนำของแพทย์เพื่อการป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของเท็กซ์เนคอย่าง ง่ายๆก็คือ ละสายตาจากจอ เปลี่ยนท่าจากการก้มหน้า ปล่อยให้ศีรษะกลับคืนสู่ท่าธรรมชาติในทุกๆ 15 นาที เงยหน้าขึ้น เหลียวไปรอบๆ ถ้ายังจำเป็นต้องจ้องจออยู่ก็ยกมันให้ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา เพื่อลดการแบกรับน้ำหนักของคอลงเป็นระยะๆ

ถ้าเป็นไปได้ก็ควรออกกำลังกาย ในแบบที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ได้ผ่อนคลาย จะเป็นโยคะก็ได้ หรือจะเป็นกายบริหารแบบพิลาทีสที่มุ่งเน้นไปที่การทำให้ร่างกายของเราอยู่ใน ท่าทางที่ถูกต้องก็ได้ ทำให้ได้ทุกวันจะป้องกันปัญหานี้ได้

ใครที่ใช้มาตรการประดานี้แล้วยังไม่ได้ผล แสดงว่า เท็กซ์เนคของคุณค่อนข้างไปทางรุนแรงแล้ว ควรไปพบแพทย์ อย่างน้อยๆ ก็อาจต้องใช้ยาจำพวกคลายกล้ามเนื้อช่วย แต่ถ้าอาการเกิดไปกระทบทำให้กลุ่มประสาทในบริเวณดังกล่าวถูกบีบ กดอยู่นานๆ จนเกิดอาการปวดประสาท ก็จัดอยู่ในขั้นต้องให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลเป็นการเฉพาะจะดีที่สุด

แล้วก็ต้องลดการตกไปเป็นส่วนหนึ่งของ"สังคมก้มหน้า"ลงให้เหลือน้อยที่สุดแล้วละครับ

10 อันดับแนวทางที่จะฟื้นฟูความรักให้กลับคืนมา

พวกเราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าคงจะต้องเจอกับปัญหาแบบนี้ อยู่บ้าง หรือไม่เคยรู้สึกมีปัญหากับอีกฝ่ายหนึ่ง โลกแห่งความจริงก็เป็นแบบนี้แหละ พวกเราก็ต้องพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าไปคิดเพ้อฝัน เราจะต้องสร้างความคิดให้เหมาะสมตามโลกแห่งความจริง จะมีอะไรบ้าง ลองมาดู 10 อันดับกัน


ชื่อ:  10.png
ครั้ง: 6865
ขนาด:  59.8 กิโลไบต์

10.สร้างความประหลาดใจ


ความซ้ำซากจำเจถือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายอย่างยิ่ง ถึงเวลาที่เราจะต้องทำในสิ่งที่แตกต่างกันออกไปได้แล้ว หากเราเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งในสุดสัปดาห์ ก็ต้องพยายามหาอะไรสักอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ ดีกว่าการออกไปกินอาหารมื้อเดิมๆอยู่เสมอ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายรู้สึกสนุกและตื่นเต้นขึ้นมาจากการทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ไม่เคยทำมา ก่อน

ชื่อ:  9.png
ครั้ง: 6846
ขนาด:  20.9 กิโลไบต์

9.สร้างอารมณ์ให้อยู่ในห้วงของความรัก


หากเราอยากมีอารมณ์ที่อยู่ในห้วงความรัก หรือหากไม่แล้ว เราก็ต้องฟังเพลงเพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มีอยู่ข้างในของเรา หากการฟังเพลงทำให้เราอยู่ในอารมณ์ห้วงแห่งความรักได้นั้น ก็จะทำให้เรามีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาได้ แล้วเพลงแบบไหนที่ทำให้เราเปลี่ยนอารมณ์ได้ล่ะ ก็อยู่ที่พวกเราเองว่า เราฟังเพลงแล้วรู้สึกแบบไหน ก็ต้องพยายามเลือกเพลงที่เหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่ายจะดีกว่ามาก



ชื่อ:  8.png
ครั้ง: 6874
ขนาด:  74.8 กิโลไบต์

8.ตรวจเช็คอารมณ์ของเราให้ดีๆ


เราลองนั่งดูแล้วก็ตรวจเช็คตัวเองภายในใจว่า ตัวเองมีอารมณ์ที่แปรปรวนมากน้อยแค่ไหนในแต่วัน ที่อาจจะทำให้ความสัมพันธ์อีกฝ่ายหนึ่งขาดสะบั้นลงได้หากอารมณ์ของเราอยู่ใน เกณฑ์ที่แย่เอามากๆ จะต้องจำไว้ว่าพวกเราจะต้องปรับปรุงแก้ไขและหมั่นเช็คอารมณ์ของตัวเองอยู่ เสมอ ไม่ใช่ไปบอกให้อีกฝ่ายปรับปรุงแก้ไข แต่เป็นตัวเราต่างหากที่เป็นฝ่ายที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขก่อน




ชื่อ:  7.jpg
ครั้ง: 6828
ขนาด:  7.0 กิโลไบต์

7.ค้นหาตัวเองให้พบ


พวกเราจะต้องรู้ให้ได้ว่าจะต้องทำตัวเองอย่างไรให้ดีที่สุด เราจะต้องค้นหาตัวเองว่าสิ่งไหนที่จะทำให้เรากับอีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขที่ สุด แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่ยอมดูตัวเอง แต่มักจะให้อีกฝ่ายหนึ่งสนองความปรารถนาตามที่พวกเขาต้องการ เราอย่าไปมองข้ามเรื่องนี้เป็นอันขาด เพราะว่าเราจะต้องใช้เวลาค้นหาตัวเองให้พบ ไม่ว่าจะเป็นจุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหาต่างๆที่เข้ามาสะสมในชีวิตของเรา ล้วนส่งผลต่อความสัมพันธ์อีกฝ่ายทั้งสิ้น



ชื่อ:  6.jpg
ครั้ง: 6828
ขนาด:  8.0 กิโลไบต์

6.ตรวจเช็คฐานะการเงินของเราให้ดีๆ


นี่ถือเป็นกฎที่เราจะต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าความรักส่วนหนึ่งบั่นทอนลงได้ก็เพราะเงินเป็นส่วนสำคัญเหมือนกัน เราก็ต้องมาเช็คการเงิน การคลังของตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า พอที่จะประคับประคองทั้ง 2 ฝ่ายให้รอดได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า การพูดถึงเรื่องเงินจริงๆแล้วถือเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสำหรับคนส่วนใหญ่ ที่บางทีเขาหรือเธออาจมีปัญหาทางการเงินจนไม่สามารถอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง จะให้ดีก็ต้องพยายามแก้เกมส์ตรงส่วนนี้ให้ได้


ชื่อ:  5.png
ครั้ง: 6866
ขนาด:  60.1 กิโลไบต์

5.พยายามสัมผัสร่างกายอีกฝ่าย


หากเราได้สัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย ก็คงรู้สึกดีไม่ใช่น้อย แต่เราจะต้องมีทักษะในการสัมผัสร่างกายอย่างที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เคยรู้สึกมา ก่อน ในความรักในชีวิตของพวกเรา พวกเราล้วนแล้วต้องการกำลังใจ สร้างอารมณ์และจิตใจให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้นกว่าเดิม การสัมผัสที่ดีจะต้องสร้างความรู้สึกที่ดีขึ้นในการสัมผัสในครั้งต่อๆไป จะต้องมีจังหวะโอกาสในการสัมผัสที่เหมาะสม เพียงแค่นี้ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มมีความรู้สึกดีกลับคืนมาแล้ว



ชื่อ:  4.png
ครั้ง: 6879
ขนาด:  95.0 กิโลไบต์

4.หาเวลาสร้างความสัมพันธ์ด้วยกันในช่วงสุดสัปดาห์


หากความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายเริ่มสะบั้นลง ก็จะต้องหาเวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจทั้งสองฝ่ายให้ กลับคืนมาอีกครั้ง โดยเราจะต้องทบทวนอดีตที่ผ่านมาว่า มีปัญหาตรงส่วนไหนบ้าง มีข้อผิดพลาดตรงไหน และจะแก้ไขให้กลับมาดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร บางเรื่องก็ใช้เวลานานมากน้อยไม่เหมือนกัน เราก็จะต้องใช้ความกล้าในการสร้างความสัมพันธ์ให้กับคืนมาดีเหมือนเดิม



ชื่อ:  3.jpg
ครั้ง: 6821
ขนาด:  6.7 กิโลไบต์

3.สร้างความรักให้กลับคืนมาอีกครั้ง


หากเราอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกลับคืนมา ก็ต้องมาดูในส่วนต่างๆอย่างเช่น พฤติกรรมของแต่ละฝ่าย การพูดการจา รูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายหนึ่ง แล้วก็มาดูว่าจะมีวิธีอย่างไรให้ความรักกลับคืนมาเบ่งบานอีกครั้ง แน่นอนว่าหลายคนคงเจอสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ก็ต้องหาดอกไม้แต่ละชนิดที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยเราก็ต้องค่อยๆหว่านเมล็ดพืชลงไปแล้วก็ทำการดูแลทะนุถนอมให้ดีจนมันเบ่ง บานขึ้นมาแล้ว




ชื่อ:  2.jpg
ครั้ง: 6856
ขนาด:  8.9 กิโลไบต์

2.จะต้องพูดในสิ่งที่เรารู้สึกลำบากใจออกมา


ทุกๆคนคงจะรู้สึกลำบากใจอยู่ไม่ใช่น้อยหากจะพูดอะไรออกมาที่อีกฝ่ายหนึ่ง อาจจะได้รับผลกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ เราอาจจะรู้สึกกลัวจนไม่อยากที่จะพูดออกมา เพราะกลัวความผิดและกลัวความโศกเศร้าเสียใจ แต่แน่นอนสถานการณ์ของคนเราก็ต้องพยายามหาทางแก้เกมส์ ซึ่งพื้นฐานหลักๆเลยก็คือ กล่าวคำว่า ขอโทษเป็นอันดับแรกไปก่อน แล้วเราก็พูดในสิ่งที่เรารู้สึกลำบากใจออกมา ไม่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะรู้สึกยังไงก็ตาม มันก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้อีกฝ่ายสามารถรู้ความจริงที่มีอยู่ และพยายามหาทางแก้ไขกันต่อไป



ชื่อ:  1.jpg
ครั้ง: 6872
ขนาด:  79.5 กิโลไบต์

1.ทำในสิ่งที่เราจะต้องทำ


ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างล่ะ มีความราบรื่นมากน้อยแค่ไหน แน่นอนพวกเราก็รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมลงมือทำจริงๆ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่า วิธีแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์กลับมาฟื้นฟูใหม่ได้อีกครั้ง คงไม่ต้องให้ผมอธิบายอะไรมากหรอก เพราะพวกเราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำยังไง ลุยเสียตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยครับ

Wednesday, September 24, 2014

วิธีเล่นหุ้นให้ได้กำไร โดยไม่ต้องเฝ้าจอ

วิธีเล่นหุ้นให้ได้กำไร โดยไม่ต้องเฝ้าจอ

คนที่เข้ามาลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์มีเป็นจำนวนมากที่ต้องทำงานประจำ ไม่สามารถที่จะเฝ้าจอได้ตลอดเวลาเหมือนกับนักเล่นหุ้นมืออาชีพทั้งหลาย แต่คุณก็สามารถสละเวลาอันน้อยนิดมาดูจอสักสิบนาทีได้ ซึ่งจะขอบอกวิธีการดังต่อไปนี้

1. ต้องเลือกหุ้นพื้นฐานที่ดีให้ได้ก่อน ไม่ต้องไปกังวลว่าหุ้นตัวนี้ราคาสูง คนที่เขามีหุ้น ตัวละบาทล้านหุ้น ไม่ได้มีเงินมากกว่า คุณที่มีหุ้นตัวละร้อย แค่หมื่นหุ้น คำว่า ล้าน กับหมื่น มันต่างกันมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขามีเงินมากกว่าคุณ

2. เมื่อได้หุ้นที่เหมาะสมแล้ว ให้ศึกษาหุ้นตัวนั้นย้อนหลัง อย่างน้อย 1 เดือน ดูราคา และปริมาณซื้อขายเป็นหลัก หลักง่ายๆ หุ้นตัวนั้นจะต้องอยู่ในกลุ่ม set 50 และเป็นหุ้นที่ most active

3. เวลาจะซื้อ ไม่ต้องบุ่มบ่ามเข้าไปซื้อเลย แต่ขอให้เข้ามาดูราคาใกล้ปิดตลาด ดูราคาซื้อขายที่ผ่านมาแล้วทั้งวัน ถ้าราคาใกล้ปิดตลาดต่ำกว่า ก็เข้ามาซื้อตอนที่เขาทำราคา matching เพื่อหาราคาปิด การซื้อเช่นนี้ จะทำให้คุณได้ราคาปิด ที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับราคาทั้งวัน

4. เวลาซื้อ คุณต้องบริหารพอร์ต ของคุณด้วย อย่าไปซื้อหมดจำนวนเงินของคุณ ให้เริ่มด้วยประมาณ20--30% ก่อน

5. วันรุ่งขึ้น คือวันที่คุณควรขายเมื่อหุ้นขึ้นจะไปรออะไรอีกล่ะ หุ้นขึ้นคุณก็ได้กำไรแล้ว ไม่ต้องโลภ นี่คือเงินกำไรที่เข้ากระเป๋าคุณภานใน 1 วัน

6. ระหว่างวัน เมื่อคุณขายได้ควรตั้งรับไว้ในราคาที่ต่ำกว่า ไม่มีใครรู้ว่าหุ้นจะไปทางไหน แต่ถ้าคุณทำได้ ขายสูง ซื้อต่ำ ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็สุดยอดแล้ว คุณได้เงินมาใช้ หุ้นก็เหลือเท่าเดิม

7. ในกรณีที่วันต่อไปหุ้นลง คุณก็ดำเนินการเหมือนอย่างที่กล่าวมาแล้ว ในข้อ 3 และ 4

8. แล้วก็ปฏิบัติการดังข้อ 5.

9. อย่าถามว่า ถ้าคุณซื้อแล้วหุ้นลงไปเรื่อยๆ จะทำอย่างไร คุณได้เลือกซื้อหุ้นที่คุณพิจารณา ว่ามีพื้นฐานดีที่สุดแล้ว คุณไม่มีเวลาที่จะเฝ้าหุ้นได้ ทั้งวันเช่นมืออาชีพทั้งหลาย ซึ่งเขาก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่คุณต้องยอมรับกับตนเองว่า ถึงแม้มันจะลงวันนึงมันก็ต้องขึ้นมา

Cr.....คนเล่นกับหุ้น

นอนน้อย′ ทำสมองฝ่อ จริงหรือ ?

วารสารสถาบันประสาทวิทยาอเมริกันตีพิมพ์ผลการศึกษาระบุว่า ปัญหาการนอนไม่หลับเชื่อมโยงสัมพันธ์กับการเกิดอาการสมองฝ่อ หรือปริมาณเนื้อสมองลดน้อยลง หลังทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ วิจัยพบการเชื่อมโยงกันดังกล่าว

กลุ่มวิจัยทดลองโดยนำกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ 147 คน อายุ 20 ปี และ 84 ปี มาเข้ารับการตรวจสมองผ่านเครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอ 2 ครั้ง ซึ่งการสแกนสมองแต่ละครั้งจะมีความห่างเฉลี่ย 3.5 ปี

จากนั้นนักวิจัยได้ให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการนอน เช่น นอนนานเท่าไร, ใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะนอนหลับ, หรือจำเป็นต้องใช้ยาช่วยให้นอนหลับหรือไม่

หลังกระบวนการค้นคว้าพบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 35 จากจำนวนทั้งหมดมีคุณภาพการนอนหลับย่ำแย่ และยังพบอีกว่า บุคคลที่มีปัญหาการนอนไม่หลับ มีขนาดสมองหดเล็กลงเป็นวงกว้างในหลายส่วน เช่น สมองบริเวณหน้าผาก, สมองบริเวณขมับ, หรือเนื้อสมองตรงผนังหุ้ม ซึ่งกรณีเช่นนี้เห็นได้ชัดในคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม แคลร์ อี. แซ็กตัน จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ผู้เขียนรายงานชิ้นนี้ กล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่าคุณภาพของการนอนหลับ เป็นสาเหตุ หรือเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสมองกันแน่ ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาต่อเนื่องต่อไปในอนาคต เพราะหากการศึกษาในอนาคตชี้ว่าการปรับปรุงคุณภาพการนอนช่วยลดความเสี่ยง อาการสมองฝ่อ

ดังนั้น การแก้ไขพฤติกรรมการนอนซึ่งมีวิธีรักษาอยู่หลายหนทางก็อาจเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยรักษาสุขภาพของสมองได้นั่นเอง

Wednesday, September 17, 2014

10 ความจริงอันโหดร้ายของมนุษย์เงินเดือน

10 ความจริงอันโหดร้ายของมนุษย์เงินเดือน T T
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความจริงหลายๆ อย่างก็ยากที่ยอมรับเหมือนกัน เหตุการณ์หลายๆ อย่างที่คนทำงานออฟฟิศน่าจะเจอกันบ่อยๆ อย่างน้อยก็ให้ไว้เตือนใจกันหน่อยแล้วกันนะครับ
1. ไม่มีใครทำงานได้ทุกอย่าง
แม้ว่าเราจะชอบมีคำพูดประเภทคนเราสามารถเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็นได้ถ้า พยายาม มันเลยทำให้หลายๆ คนมักมีความคิดเรื่องการโยกย้ายตำแหน่ง บ้างก็อยากลองไปทำงานในแผนกอื่นๆ ที่ดูน่าสนใจกว่า ดูน่าทำงานมากกว่างานของตัวเอง แต่เชื่อเถอะครับว่าเอาเข้าจริงแล้วการไปทำงานที่ตัวเองไม่เคยทำนั้นไม่ใช่ เรื่องง่ายๆ และมีน้อยคนที่จะสามารถไปทำงานใหม่ได้อย่างประสบความสำเร็จ อาจจะมีบ้างที่พอสามารถทำงานกันไปได้ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นหรือ “ถูกหวย” แบบที่คนเก่งๆ หลายคนเอามาเหล่าให้ฟังกันหรอก ทั้งนี้เราต้องพูดกันบนความเป็นจริงว่าการทำงานต่างๆ นั้นจำเป็นต้องใช้ทักษะและความสามารถหลายอย่าง บางอย่างฝึกกันได้แต่บางอย่างฝึกกันไม่ได้ บางอย่างอาจจะฝึกได้แต่ต้องใช้เวลาซึ่งการทำงานมันรอไม่ได้ขนาดนั้น ฉะนั้นถ้าคุณคิดว่าจะลองเปลี่ยนสายงาน อยากไปทดลองงานใหม่ๆ นั้น ควรคิดกันให้ดีๆ ว่าคุณเหมาะและพร้อมจะไปลองจริงๆ นะครับ
2. ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบคุณไปหมด
ต่อให้คุณเป็นคนดีมากมายในออฟฟิศ แต่เชื่อเถอะครับว่ามันก็จะมีคนที่ไม่ชอบคุณ ไม่ถูกกับคุณจนได้ ฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่าถ้าคุณคิดจะไปเอาใจและหวังให้ทุกคนใน บริษัทรักคุณ (ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว) คุณควรจะเลือกดูว่าคนไหนบ้างที่คุณควรให้ความสำคัญ ใครกันที่คุณควรจะแคร์และใส่ใจเป็นพิเศษ คุณอาจจะต้องแบ่งระดับความสำคัญของความสัมพันธ์กันให้ดีๆ แล้วดูว่าแต่ละคนอยู่ในระดับไหน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะไม่สามารถทำให้ทุกคนรักคุณได้ แต่อย่างน้อยก็ใช่ว่าคุณจะต้องสร้างศัตรูให้เยอะเต็มออฟฟิศนะครับ ^^”
3. เพื่อนร่วมงานบางคนเหมาะเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน
จริงอยู่ว่าคุณอาจจะสนิทและไว้ใจเพื่อนร่วมงานหลายๆ คน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนเหมาะจะกลายเป็นเพื่อนจริงๆ ของคุณในชีวิต ทุกวันนี้เรามักเจอสถานการณ์ประเภทพอเข้าที่ทำงานใหม่แล้วก็ Add Facebook กันไปหมดก่อนจะพบว่าภายหลังบางคนอยากจะ Unfriend ไปเสีย บางคนอยากจะ Block ไปเลยด้วยก็มี ทั้งนี้เพราะความสัมพันธ์ในที่ทำงานนั้นไม่ได้อยู่ในระดับความสัมพันธ์แบบ เพื่อนตั้งแต่ต้น มันก็จริงอยู่ว่าคุณอาจจะเจอคนที่ดี เจอคนที่ได้กลายเป็นเพื่อนสนิท กลายเป็นพี่ชาย กลายเป็นคนที่เคารพรัก แต่กับบางคนก็อาจจะดีกว่าถ้าคงความสัมพันธ์เป็น “เพื่อนร่วมงาน” หรือคุยกันด้วยเรื่องงานแทนที่จะคุยด้วยเรื่องส่วนตัว
4. วันนึงเพื่อนร่วมงานหรือไม่ก็คุณเองที่จะลาออก
แม้ว่าหลายๆ ครั้งคุณจะเจอเพื่อนร่วมงานที่คุณรักมาก เชื่อใจมาก หรือได้เจอหัวหน้าที่คุณรู้สึกว่าสุดยอดมากๆ อยากฝากชีวิตไว้กับเขา อยากทำงานร่วมกับเขาไปนานๆ แต่ความเป็นจริงแล้ววันหนึ่งคุณก็จะต้องแยกย้ายกันอยู่ดีเพราะแต่ละคนก็ต้อง มีทางชีวิตด้านหน้าที่การงานที่แตกต่างกันออกไป ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าคุณทำงานแผนกเดียวกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ 5 คนไปเรื่อยๆ มันคงไม่สามารถที่ทั้ง 5 คนจะถูกดันขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกเดียวกันได้ทุกคนอยู่แล้ว ถึงวันหนึ่งบางคนก็จะต้องเดินจากไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดีนั่นแหละ
5. ต่อให้คุณทำดีแทบตาย ก็ใช่ว่าคุณจะได้รับการโปรโมต
เรื่องนี้เรามักพูดกันบ่อยๆ ว่าบางคนสร้างผลงานแทบตาย เป็นคนทำงานที่ใครๆ ก็ชื่นชอบแต่กลับไม่ได้เลื่อนขั้นเพราะเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นทั้งในแง่หัวหน้ามองไม่เห็น หรือพรีเซนต์ไม่เก่ง ถ้าเอาหนักๆ ไปเลยก็คือโดนคนอื่นตัดหน้า เล่นเส้นเล่นสาย ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนกำลังใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว กรณีนี้ต้องถือว่าวัดใจกับหัวหน้าและองค์กรอยู่พอสมควร เพราะถ้าหัวหน้าของคุณมองเห็นศักยภาพของคุณและพร้อมจะสนับสนุนแล้ว คุณก็ช่างโชคดีที่จะมีโอกาสก้าวหน้าได้อีกเยอะ แต่ถ้าคุณดันโชคร้ายไปอยู่กับหัวหน้าที่ไม่ได้คิดเรื่องนี้แล้วล่ะก็ คุณก็อาจจะโดนเก็บเข้าหลังบ้านเอาได้ง่ายๆ เช่นกัน
6. ทุกออฟฟิศมีการเมือง
“ที่นี่มีการเมืองไหม” เป็นคำถามที่ผมมักจะได้ยินบ่อยๆ เวลาคนเปลี่ยนที่ทำงานซึ่งถ้าคนที่ผ่านงานมากมายหลายออฟฟิศก็จะพูดเหมือนกัน แหละว่า “ที่ไหนๆ ก็มีการเมือง” ทั้งนี้เพราะเป็นเรื่องธรรมดาว่าในออฟฟิศนั้นล้วนมีคนหมู่มากเข้ามาอยู่ด้วย กัน มันก็ย่อมมีคนบางกลุ่มที่มีคาแรคเตอร์ต่างจากอีกกลุ่ม ไหนจะมีเรื่องการเปลี่ยนถ่ายคนตามกาลเวลา มันเลยไม่แปลกที่จะเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้น ซึ่งไอ้พรรคพวกนี้แหละที่มักจะนำไปสู่ความขัดแย้งลึกๆ กันโดยไม่รู้ตัวและกลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างขั้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พอเป็นเช่นนี้เราถึงพูดกันเสมอว่าคุณคงไม่สามารถเลี่ยงการเมืองในออฟฟิศได้ หากแต่คุณจะเลี่ยงมันได้แค่ไหน หรือในออฟฟิศนั้นจะรักษาระดับความรุนแรงที่เกิดจากการเมืองได้อย่างไรต่าง หาก
7. เรื่องที่ถูกต้องอาจจะไม่ใช่เรื่องที่คุณ (หรือคนอื่น) ถูกใจ
สิ่งที่คนทำงานมักจะเจอบ่อยๆ คือคำสั่งจาก “เบื้องบน” ที่หลายๆ ครั้งก็ฟังแล้วตะหงิดๆ ประเภทใช่เหรอ มันถูกต้องเหรอ และพอเรานำเสนอสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องแล้วก็ดันกลายเป็นว่าไม่ถูกใจหัวหน้า หรือคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไป เรื่องนี้มันเลยเข้าวัฏจักรที่ว่าหลายๆ อย่างที่คุณคิดว่ามัน “ถูกต้อง” มันก็อาจจะไม่ได้ “ถูกใจ” เสมอไป (เช่นเดียวกับเรื่องที่หลายๆ คน “ถูกใจ” มันก็ไม่ได้ “ถูกต้อง” เช่นกัน) ซึ่งเมื่อเราทำงานไปเรื่อยๆ นั้นก็จะเจอสถานการณ์ของความขัดแย้งนี้อยู่เรื่อยๆ เป็นธรรมดานั่นแหละครับ
8. คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์นั้นจริงๆ หรอก
ต่อให้คุณได้รับตำแหน่งเป็น Brand Manager / Product Manager หรือเป็นผู้บริหารแบรนด์อะไรก็แล้วแต่ที่ได้รับอำนาจมากมายในการตัดสินใจ สร้างสรรค์ หรือขีดเส้นต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการ แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณก็ไม่ได้เป็นเจ้าของมันจริงๆ แต่อย่างใดเพราะท้ายที่สุดมันก็คือสินทรัพย์ของบริษัทซึ่งวันหนึ่งผู้บริหาร อาจจะสั่งยกเลิก สั่งเปลี่ยน หรือสั่งย้ายคุณได้ (เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบริษัทและสร้างมันขึ้นมาเองนั่นก็อีก เรื่อง) ฉะนั้นแล้วมันก็ดีถ้าคุณจะทุ่มเทและใส่ใจงานของคุณอย่างเต็มที่ประหนึ่งลูก แท้ๆ ของคุณ แต่คุณก็ต้องรู้ตัวว่าวันหนึ่งคุณก็จะต้องลาออกจากบริษัทและคุณก็ไม่สามารถ เอาแบรนด์หรือสินค้านั้นติดตัวคุณไปได้แต่อย่างใดหรอก
9. หลายๆ อย่างคุณทำเองได้ดีกว่า แต่คุณดันไม่ได้ทำงานนั้น
คนเป็นหัวหน้านั้นมักจะเจอสถานการณ์บ่อยๆ ประเภทเรื่องที่สั่งงานไปนั้นคุณรู้ว่าทำอย่างไรให้ดี ทำอย่างไรให้เร็วและมีประสิทธิภาพแต่พอลูกน้องไปทำแล้วดันไม่ได้ดั่งใจ บ้างก็รู้ว่าสามารถสร้างงานที่ดีกว่านี้ได้แต่คนอื่นดันทำไม่ได้และหลายๆ ครั้งมันก็สร้างความหงุดหงิดให้กับคุณเพราะมันไม่ได้ดั่งใจที่คุณวางไว้ แต่ก็นั่นแหละครับว่าทั้งบริษัทไม่ได้มีคุณคนเดียว และคุณก็ต้องยอมรับความจริงว่าหลายๆ อย่างนั้นคงไม่อาจได้ดั่งใจคุณ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะทำมันเสียทุกอย่างเช่นกัน
10. คุณจะได้เงินเดือนน้อยกว่าคนอื่นอยู่วันยังค่ำ
ที่ผมขึ้นแบบนี้เพราะอยากเตือนคนทั้งหลายที่พยายามถามว่าเงินเดือนคนอื่น เท่าไร เพราะถ้าคุณเมื่อไรที่คุณตั้งคำถามว่าคนอื่นได้เงินเดือนเท่าไรแล้ว ยังไงคุณก็จะเจอคนที่มีเงินเดือนมากกว่าคุณอยู่ดี แม้ว่าในบริษัทจะไม่มีคนเงินเดือนมากกว่าคุณ แต่คุณก็จะไปรู้ว่าบริษัทอื่นให้เงินเดือนมากกว่า วนไปวนมาแบบนี้ ถ้าคุณไม่ยอมรับความพอดีของเงินเดือนคุณ คุณก็จะต้องเจอความจริงข้อนี้วนไปวนมาไม่รู้จักจบสิ้นหรอกครับ ผมเขียน 10 ข้อนี้ด้วยการนึกประสบการณ์ส่วนตัวประกอบไปด้วย ถ้าคุณมีข้ออื่นๆ ที่คิดว่าเข้าท่าเหมือนกันก็ลองเมนต์มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ

Tuesday, September 16, 2014

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์

“กรดยูริก” คือ สารที่เป็นตัวการทำให้เกิดข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ สาเหตุสำคัญก็มาจาก “สารพิวรีน” ทั้งที่มีอยู่ในร่างกายและที่มีอยู่ในอาหาร อาหารที่เหมาะและไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเก๊าท

ในที่นี้จะขอกล่าวถึงอาหารที่เหมาะและไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ ซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3กลุ่ม ตามปริมาณของสารพิวรีนในอาหาร

1. อาหารที่มีสารพิวรีนมาก
อาหารที่มีสารพิวรีนมากจะมีผลต่อการอักเสบของโรคเกาต์ และมีผลอย่างมากต่อการเกิดโรคเกาต์ สำหรับอาหารที่มีสารพิวรีนมากที่ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรงดเว้นและหลีกเลี่ยง ได้แก่ ตับ, น้ำต้มเนื้อ, น้ำเกาเหลา, ไต, น้ำสกัดจากเนื้อเข้มข้น, ตับอ่อน, น้ำซุปใส, ปลาไส้ตัน, น้ำปลาและกะปิจากปลาไส้ตัน, ปลาซาร์ดีน, ยีสต์และอาหารหมักจากยีสต์ เช่น เบียร์, หอยเชลล์, ปลาทู, ปลารัง, เนื้อไก่, เป็ด, นก และไข่ปลา

2. อาหารที่มีสารพิวรีนปานกลาง
อาหารที่มีสารพิวรีนปานกลาง ก็ยังถือว่าต้องควบคุมปริมาณการรับประทานซึ่งหมายถึง ผู้ป่วยโรคเกาต์ทานได้ในปริมาณจำกัด สำหรับอาหารที่มีสารพิวรีนปานกลางที่ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรงดเว้นและหลีกเลี่ยง ได้แก่ เนื้อวัว, กระเพาะ, ผ้าขี้ริ้ว, เอ็น, เนื้อหมู, เนื้อปลา, ปู, กุ้ง, หอย, ถั่วเหลือง, ถั่วดำ, ถั่วแดง, ถั่วเขียว ผัก, หน่อไม้ฝรั่ง, ผักโขม, เห็ด, ดอกกะหล่ำ, ชะอม รวมทั้ง กระถิน

3. อาหารที่มีสารพิวรีนน้อย หรือเกือบไม่มีเลย
อาหารที่มีสารพิวรีนน้อย หรือเกือบจะไม่มีสารพิวรีนเลย เป็นอาหารที่ผู้ป่วยโรคเกาต์สามารถรับประทานได้ โดยไม่แสลงสำหรับอาหารที่มีสารพิวรีนน้อย หรือเกือบไม่มีเลยที่ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรควบคุมปริมาณการรับประทาน ได้แก่ ขนมจีน, เส้นก๋วยเตี๋ยวทุกชนิด, วุ้นเส้น, บะหมี่, เส้นหมี่, ขนมปังปอนด์, มะกะโรนี, ข้าวโพด, แคร็กเกอร์สีขาว, ไข่, นม, ผลิตผลจากนม เช่น เนยแข็ง ไอศกรีม, น้ำมัน, น้ำมันพืช, กะทิ, เนย, น้ำมันหมู, ผัก, ผลไม้ทุกชนิด, เกาลัด, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ , ขนมหวานต่างๆ ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เค้ก คุกกี้ เครื่องดื่ม เช่น กาแฟ, ชา, โกโก้ และ ช็อกโกแลต

ทั้งนี้ นอกจากการงดรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีการปฏิบัติตัวอื่นๆ ที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ ดังนี้

ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ดื่มน้ำวันละมากๆ เพื่อช่วยขับถ่ายกรดยูริก
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้าชนิดต่างๆ เบียร์
หากจะต้องทำการผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าเป็นโรคเกาต์ เพื่อป้องกันโรคเกาต์กำเริบหลังผ่าตัด
หลีกเลี่ยงภาวะเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ พยายามทำจิตใจให้สงบ

Saturday, September 13, 2014

ปวดหัว แก้ง่ายๆ แค่กิน

เรามาดูกันว่า อาหารอะไรบ้างที่ทำให้อิ่มท้อง แถมยังเป็นยาช่วยรักษาร่างกายได้ด้วย ไปดูกันเลย

ปลาทะเล
เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากะพง เนื่องจากปลาทะเลมีโปรตีนสูงซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายให้คง ที่ เมื่อระดับน้ำตาลคงที่อาการปวดหัวก็จะลดลง รวมทั้งมีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นตัวช่วยลดการอักเสบลดอาการปวด

กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และที่สำคัญมีแร่ธาตุโพแทสเซียม ที่ช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย จากการศึกษาพบว่ากล้วยช่วยลดความเครียดและทำให้เกิดความสุข

ขิง
ขิงสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวาน หรือแม้กระทั่งเป็นเครื่องดื่ม ขิงจะช่วยให้ผ่อนคลาย เลือดลมไหลเวียนได้ดี

ข้าวโพด
เนื่องจากข้าวโพด มีวิตามินบี 3 หรือไนอะซินสูง มีส่วนช่วยให้การไหลเวียนเลือดไปสู่สมองได้ดีขึ้น และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทำให้คลายความเมื่อยล้าได้

Thursday, September 11, 2014

เรื่อง ผมไม่เห็น

ขำๆๆคลายเครียด!!!เหตุปล้นธนาคาร
หลังจากโจรปล้นเสร็จ ก็คิดจะฆ่าปิดปากคนที่เห็นเหตุการณ์
จึงเอาปืนชี้แล้วหันไปถามชายคนแรก
“เมื่อกี้มึงเห็นกูปล้นไหม?”
ชายคนแรกตอบ…..”เห็นซิ”
สิ้นเสียงตอบ โจรยิงเปรี้ยงใส่หน้าผากตายทันที
โจรหันปืนไปหาชายคนที่สอง “เมื่อกี้มึงเห็นกูปล้นไหม?”
ชายคนที่สองรีบตอบเสียงดัง
..”กูไม่เห็น แต่เมียกูเห็น!!!”..

เรื่องเมนูวันนี้

สาวไทยรายหนึ่งแต่งงานกับหนุ่มฝรั่งเศสและเดินทางไปใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอยู่ ที่นั่น แย่หน่อยที่สาวไทยคนเก่งของเราพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เอาซะเลย การไปจับจ่ายกับข้าวมาทำอาหารของเธอจึงเป็นฝันร้ายสุดๆเลยทีเดียว
วันนึง เธอเกิดอยากได้ขาหมูมาทำอาหาร เธอไปที่ร้านขายเนื้อและพบว่าไม่สามารถสื่อสารให้เจ้าของร้านเข้าใจได้ว่า เธอต้องการอะไร เธอตัดสินใจถลกกระโปรงขึ้นแล้ว โชว์ขาอ่อนให้เจ้าของร้านขายเนื้อ เจ้าของร้านเข้าใจทันที เขาจัดขาหมูให้เธอเรียบร้อยตามต้องการ
วันถัดมาเธอจะไปซื้อเนื้ออกไก่ คราวนี้เธอถอดเสื้อให้เจ้าของร้านดูอก เจ้าของร้านก็หัวไวเหลือหลาย เขาจัดอกไก่ให้เธอได้ตามต้องการอีกแล้ว
หลายวันต่อมา คราวนี้เธอเกิดอยากได้ไส้กรอกขึ้นมา เธอก็เลยพาสามีไปร้านด้วย...
.
.
.

.
เดี๋ยวๆ  คิดไปไกลล่ะ ..
แค่บอกสามีให้ช่วยบอกเจ้าของร้านแค่นั้นเองแหละ คิดอะไรอยู่กันฟร่ะ

อย่ารอ "ความสมบูรณ์แบบ"

อย่ารอ "ความสมบูรณ์แบบ"

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ ใครบางคน ไม่ได้ทำอะไรบางอย่างซ่ะที คือ อยากรอจนสมบูรณ์แบบ รอความพร้อม ก่อนแล้วค่อยทำสิ่งต่อไป ซึ่งแน่นอน อะไรที่ว่านั้น ก็ไม่เคยได้เกิดจริงสักครั้ง

หลายคนบอกดิฉันว่า
"โค้ช... เดี๋ยว รอให้ผอมก่อน แล้วจะมาเรียนกับโค้ช แล้วว่าจะเริ่มปรับลุค"
ดิฉันตอบไปโดยไม่ลังเลเลยว่า " ไม่ต้องรอผอมหรอก มาเลย มาเริ่มกันเลย เพราะถ้ารอผอม คุณจะไม่มีโอกาสได้เริ่ม"

เมื่อไหร่กันล่ะ ที่เราจะรู้สึกว่าตัวเองผอม รู้สึกว่าตัวเองดีแล้ว เมื่อไหร่, วันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร.... เมื่อไหร่กัน

ดิฉันมองว่าเหล่านั้น คือ ข้ออ้างทั้งสิ้น
ดิฉันไม่เคยนับจำนวน คนที่บอกว่าจะมาลงเรียนกับดิฉัน
แต่ดิฉัน นับคนที่มาเรียนได้จริงๆ เพราะนี่แหละ คือคนที่อยากเปลี่ยนจริงๆ

ถ้าวันนี้พวกเราอยากจะเริ่มทำโปรเจคอะไร ให้ได้ออกกก้าวใหม่ทุกๆวัน ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย, การอ่านหนังสือ, การจัดการกับงานที่คั่งค้าง, การดูแลตัวเองและการดูแลคนที่เรารัก, การแต่งตัวใหม่ ที่ให้ชีวิตใหม่กับเรา อะไรก็ได้ ที่เป็นเป้าหมายของเรา เริ่มทำมันทุกๆวัน

สิ่งแรกที่เราจะได้คือ กำลังใจ ว่าเราสามารถเริ่มได้ เรามีวินัยกับตัวเอง สิ่งนี้สำคัญมากกว่าการทำให้เสร็จได้ในครั้งเดียวเสียอีก เพราะความมั่นใจนี้ มันเหมือนน้าที่รดลงบนต้นไม้ทีละหยดๆ ที่ต้นไม้นั้นค่อยๆเอาไปใช้ได้ ดีกว่าการราดน้ำทีเดียวทั้งถัง ต้นไม้ไม่สามารถเก็บเอาได้ทั้งหมด มันย่อยได้แค่ที่มันย่อยได้

ต่อไป คือ เราจะเห็นว่ามันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ในสิ่งที่เราได้ทำออกไป ดั่งที่เขาว่าไว้ว่า เรือที่เบนเข็มออก แม้เพียงครึ่งองศาไปเรื่อยๆ ปลายทางนั้นเป็นคนละเรื่องกับตอนแรก

ท้ายที่สุด ไม่ว่าโปรเจคเล็กใหญ่ที่พวกเราเริ่มและสานต่อจนเห็นอะไรบางอย่าง เราได้ผลลัพธ์ตามแรงที่เราลงไป อีกสิ่งที่ยิ่งใหญ่คือ ความรู้สึกว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งสิ้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอะไรที่เราเคยอ้างถึง ดินฟ้าอากาศ ยากดีมีจน ภาวะจำยอมต่างๆ
มันขึ้นอยู่กับเรา "เอาจริง" หรือเปล่าต่างหากที่สำคัญกว่า

ไม่มีใครยากจนที่สุดในโลกนี้ มีแต่คนที่มีความคิดที่ยากจน ทำให้เขาเลยต้องยากจน เพราะเราก็เห็นอยู่แล้วว่า มีคนรวยจากกองขยะ
ในโลกนี้มีแต่โอกาสทั้งสิ้น

สิ่งที่เราต้องทำ คือ เริ่มออกเดิน ตามหา อย่ามั่วนั่งรอความสมบูรณ์แบบ
ความสมบูรณ์แบบมีได้จากการทำ ... แต่มันไม่ได้มีมา ตั้งแต่ ที่จุดเริ่มต้น

Wednesday, September 10, 2014

หญ้าหวาน สมุนไพรรสหวานเจี๊ยบ เปี่ยมคุณค่า






หญ้าหวาน พืชสมุนไพรรสชาติหวาน สรรพคุณหญ้าหวาน และประโยชน์หญ้าหวาน มีมากมายจนคุณต้องประหลาดใจเลยเชียวล่ะ

ในทุกวันนี้ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจกับสุขภาพมากขึ้น มีหลายคนที่เลือกใช้สมุนไพรในการช่วยรักษาสุขภาพ และหนึ่งในสมุนไพรที่ปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากนั้นก็คือ หญ้าหวาน ที่เริ่มมีหลาย ๆ คนนำมาใช้ในการผสมเครื่องดื่มหรือทำอาหารด้วย เพราะเป็นพืชที่มีรสชาติหวานกว่าน้ำตาลแต่ไม่ทำให้อ้วน จึงถูกนำมาใช้เพิ่มความหวานแทนน้ำตาลกันมากขึ้น แต่ก็เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่รู้จักหญ้าหวานกันใช่ไหมล่ะ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับหญ้าหวานให้ดีมากขึ้นกันเถอะ

หญ้าหวาน (Stevia) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana Bertoni เป็นพืชที่ถูกจัดอยู่ในวงศ์ ASTERACEAE เป็นพืชล้มลุกระยะยาว มีลักษณะคล้ายต้นกะเพราหรือต้นแมงลัก ลำต้นกลมและแข็ง มีใบเดี่ยว รูปหอก ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย ใบให้สารที่มีรสหวาน และมีช่อดอกสีขาว หญ้าหวานเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศบราซิลและทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศปารากวัย ซึ่งมีการค้นพบว่าชาวพื้นเมืองปารากวัย ได้ใช้หญ้าหวานนี้ผสมกับชาเพื่อดื่มมาแล้วมากกว่า 1,500 ปี ต่อมาประเทศญี่ปุ่นก็ได้นำมาใช้อย่างกว้างขวาง สำหรับในประเทศไทยได้เริ่มมีการนำหญ้าหวานมาใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาเองค่ะ โดยนิยมปลูกในภาคเหนือ เพราะหญ้าหวานขึ้นได้ดีในสภาพอากาศค่อนข้างเย็น

สรรพคุณหญ้าหวาน กับประโยชน์ทางยา
หญ้าหวานถึงแม้จะเป็นสมุนไพรที่ไม่ได้ให้พลังงานกับร่างกายเหมือนพืชสมุนไพร ชนิดอื่น ๆ แต่หญ้าหวานก็มีสรรพคุณทางยาที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะช่วยลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงตับอ่อน ลดไขมันในเส้นเลือดและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและโรคอ้วนได้ แถมยังช่วยสมานแผลทั้งภายนอกและภายใน ทำให้แผลหายไวขึ้นได้ รวมทั้งทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ใครที่รู้สึกไม่ค่อยมีแรงล่ะก็ลองดื่มเครื่องดื่มที่ผสมหญ้าหวานก็จะช่วยให้ มีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นด้วยล่ะ และด้วยความที่หญ้าหวานเป็นพืชที่ไม่มีพลังงานนี่ล่ะ จึงมีการนำไปใช้ในการลดความอ้วนกันอย่างกว้าง ไม่ว่าจะใช้ผสมดื่ม หรือไปผลิตเป็นอาหารเสริม

หญ้าหวาน สมุนไพรพิชิตเบาหวาน
แม้ว่าหญ้าหวานจะเป็นสมุนไพรที่ให้ความหวานได้มากกว่าน้ำตาล 300 เท่า แต่ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์เพราะระดับความหวานเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ระดับน้ำตาล ในเพิ่มสูงขึ้น แถมยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และบำรุงตับอ่อนได้อีกต่างหาก ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานไม่ต้องกลัวถึงผลข้างเคียงของหญ้าหวานกัน แล้วล่ะค่ะ สามารถบริโภคหญ้าหวานได้อย่างแน่นอน

ประโยชน์หญ้าหวาน สิ่งดี ๆ ไม่ควรมองข้าม
ในปัจจุบันหญ้าหวานถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น ใบอบแห้ง, ใบแห้งบดสำหรับชงแบบสำเร็จรูป (ชาหญ้าหวาน), ใบสด, ใบแห้งบดสำหรับใช้แทนน้ำตาล (หญ้าหวานผง) และแบบสารสกัดจากใบแห้งด้วยน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะนำมาชงดื่มหรือนำไปผสมกับเครื่องดื่มเสียมากกว่า เพราะในหญ้าหวานมีสารที่เรียกว่า สารสตีวิโอไซด์ ซึ่งให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 200-300 เท่า มีความทนทานต่อกรดและความร้อน และไม่ถูกย่อยสลายด้วยสารจุลินทรีย์ เมื่อใช้หญ้าหวานกับอาหารหรือเครื่องดื่มจึงไม่ทำให้เกิดการเน่าเสีย และไม่กลายเป็นสีน้ำตาลเมื่อผ่านความร้อนสูงอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้ถูกนำไปใช้ในการผลิตอาหารหรือเครื่องดืมบางชนิดอย่างเช่น น้ำอัดลม น้ำชาเขียว ขนมเบเกอรี่ แยม เยลลี่ ไอศกรีม ลูกอม หมากฝรั่ง ซอสปรุงรส นอกจากนี้ สารสตีวิโอไซด์ยังถูกใช้ในการผลิตยาสีฟันในปัจจุบันอีกด้วย
หญ้าหวาน อันตรายหรือไม่ กินแล้วเป็นหมันจริงหรือ

แม้ว่าจะเคยมีการรายงานว่ามีชาวปารากวัยที่กินหญ้าหวานแล้วทำให้กลายเป็น หมันหรือไปลดจำนวนอสุจิให้น้อยลงก็ตาม แต่จากงานวิจัยก็พบว่า การใช้หญ้าหวานก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียงแต่อย่างใด เพราะได้มีการวิจัยแล้วกับหนูทดลองถึง 3 ชั่วอายุ ก็ไม่พบว่าจะมีหนูในรุ่นใดที่มีการกลายพันธุ์หรือกลายเป็นหมัน ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการใช้หญ้าหวานมายาวนานถึง 17 ปี และมีรายงานการแพทย์ของอิเคดะ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 ซึ่งได้รายงานรับรองไว้ในเอกสารทางการแพทย์ว่า ว่า ไม่พบแนวโน้มความเป็นพิษในหญ้าหวานแต่อย่างใด ดังนั้นหญ้าหวานจึงสามารถใช้ได้แต่ก็ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ

นอกจากนี้ อาจารย์วีรสิงห์ เมืองมั่น จาก รพ.รามาธิบดี ก็ได้ยังได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับหญ้าหวานว่าควรกินปริมาณเท่าใดจึงจะปลอดภัย คือ ประมาณ 1-2 ใบต่อเครื่องดื่ม 1 ถ้วยหรือสูงสุดกินได้ถึง 7.9 กรัม/วัน ซึ่งสูงมากเปรียบได้กับกินผสมกาแฟหรือเครื่องดื่มได้ถึง 73 ถ้วย/วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ดื่มกาแฟประมาณวันละ 2-3 ถ้วย เท่านั้น

เห็นไหมล่ะคะว่าหญ้าหวานมีประโยชน์และสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์มากเพียงใด ใครที่กำลังหนักใจเพราะตัวเองชอบรสหวานแต่ก็กลัวอ้วนล่ะก็ ลองหาหญ้าหวานมาใส่แทนน้ำตาลดูนะ รับรองว่าได้ผลดีแน่นอนจ้า