Friday, March 23, 2012

ใครจะรู้

ใครจะรู้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งหลงใหลในรสชาติของถั่วอบเป็นอันมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้าง
ยามเมื่อต้องปล่อยแก๊สออกมา แต่เขาก็ยังชอบที่จะกินถั่ว

แล้ววันหนึ่งเขาพบหญิงสาวสวยถูกใจมากนางหนึ่ง หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันพอควร เขาก็ตกหลุมรักหล่อน
และตกลงใจปลงใจที่จะแต่งงาน ตามด้วยการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะเลิกกินถั่ว!! เพราะขืนยังกินอยู่ ต้องอายสาวเจ้าน่าดู๊...

หลังจากงานแต่งงานผ่านไป 2-3 เดือนวันหนึ่งระหว่างทางขับรถบ้าน หลังเลิกงานรถเจ้ากรรมเกิดเสีย...
เนื่องจากบ้านของเขาอยู่ชนบท จึงไม่มีรถประจำทางไปถึง หนทางเดียวที่จะกลับบ้านได้ คือ ต้องเดิน
เขาจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยา เพื่อบอกว่า เขาอาจจะถึงบ้านช้าสักหน่อย เพราะรถเสีย และต้องเดินเท้ากลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาเดินผ่านร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง แล้วกลิ่นถั่วอบก็โชยออกมายั่วใจเขา เขาจึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า
กว่าจะเดินกลับถึงบ้านก็ต้องใช้เวลา และพลังงานมากน่าดู น่าจะหาอะไรรองท้องสักหน่อย ว่าแล้วเขาจึงเดินเข้าไปสั่ง
ถั่วอบ 3 ถุงใหญ่พิเศษ เพื่อเดินกินระหว่างทางกลับบ้านเขาเดินไปกินไป อย่างเพลิดเพลินจนถั่วหมดโดยไม่รู้ตัว
และเขาก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ครั้นเมื่อกดกระดิ่งปุ๊บ ภรรยารักเดินออกมาเปิดประตู พร้อมกับพูดว่า

สวัสดีค่ะ ที่รัก..
น้องมีสิ่งจะทำให้พี่ประหลาดใจอย่างที่สุดในอาหารมื้อเย็นวันนี้เลยละค่ะ

ว่าแล้วเธอ ก็ควักผ้าปิดตามาปิดฉับลงที่ใบหน้าสามี และจูงเขามานั่งที่เก้าอี้ที่หัวโต๊ะอาหาร และให้เขาสัญญาว่าจะไม่ใช้แทคติคใดๆ แอบมองอย่างเด็ดขาด ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในท้องของเขา

โชคช่วยที่เผอิญมีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ภรรยาที่กำลังจะเอื้อมมือมาเปิดผ้าผูกตา จึงบอกว่า ขอเวลาไปรับโทรศัพท์ประเดี๋ยว
แต่พี่ห้ามแอบดู ก่อนน้องจะกลับมานะ เธอย้ำ แล้วก็ไป...

ขณะที่ภรรยาไปรับโทรศัพท์ เขาก็ฉวยโอกาสนี้ ผายลม เสียงของมันไม่ดังนัก แต่เหม็นราวไข่เน่าทีเดียว จนแม้แต่ตัวเขาเองยังต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไล่กลิ่น หลังจากรู้สึกว่า ดีขึ้น ลมระลอกใหม่ก็เริ่มบุกอีก แน่นอน เขาเริ่มผายลมระลอกใหม่ เสียงมันดังราวเครื่องยนต์ดีเซลกำลังทำงาน กลิ่นแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก...เขาจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไปมาอย่างรวดเร็ว
โดยหวังว่า จะทำให้กลิ่นมันจางลงไปบ้าง

แต่ไม่ทันไร ข้าศึกชุดใหม่ก็มาถึง คราว นี้แย่ยิ่งกว่า 2 ครั้งแรก หน้าต่างสั่นไหวเพราะแรงลม จานบนโต๊ะเขย่า และนาทีต่อมาดอกไม้บนโต๊ะก็เหี่ยวเฉา ก็เพราะสัญญาว่าจะไม่เปิดตา เขาจึงไปไหนไม่ได้ นอกจากต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ
รอจนกว่าภรรยาจะกลับมา เขานั่งรออยู่ราว 10 นาที และเป็น 10 นาที ที่มีกิจกรรมแบบว่าตลอด ผายลม..

โบกผ้าเช็ดหน้า.. ซ้ำไปซ้ำมา.. เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาวางโทรศัพท์ เขาจึงรีบพับผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋า และยิ้มให้ภรรยาอย่างไร้เดียงสา
ราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภรรยากล่าวขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย และถามว่า
เขาไม่ได้แอบดูแน่นะ ...

เมื่อเขายืนยัน เธอจึงปลดผ้าผูกตาให้เขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันชวนตื่นเต้นว่า Surprise

เป็นช่วงเวลาอันน่าสะพึงกลัว... ที่เขาพบว่า มีแขกนั่งอยู่รอบโต๊ะกินข้าว 12 คน เพื่อร่วมงาน Surprise party
ในงานวันเกิดของเขานั่นเอง

No comments:

Post a Comment