Thursday, November 19, 2009

ตำนาน เมืองลับแล อุตรดิตถ์ [ตำนาน นิทาน เรื่องเล่า]

[ตำนาน นิทาน เรื่องเล่า]

มี ๒ ตำนาน ดังนี้

ตำนานที่ ๑ ครั้งหนึ่งมีหนุ่มเมืองใต้ (เมืองทุ่งยั้ง) เดินทางหลงป่าไปทางเหนือได้เห็นหญิงสาวสวยออก จากเมืองลับแล โดยซ่อนกุญแจไว้ ชายหนุ่มจึงแอบขโมยกุญแจและใช้เล่ห์กลมนต์อุบายเกี้ยวพาราสีจนสาว หลงเชื่อ พาไปอยู่กินเป็นสามี ในเมืองลับแลชายหนุ่มได้เห็นความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ของเมืองลับแล แต่มีแต่ ผู้หญิงสาวสวยทั้งหมด ด้วยเหตุที่ชาวเมืองลับแลเป็นผู้ยึดมั่นในศีลธรรม ผู้คนเคร่งครัดปฏิบัติธรรมเป็นนิจ ไม่ มีการกล่าววาจาหรือกระทำโกหกหลอกลวงกัน ต่อมาชายหนุ่มกับสาวงามเมืองลับแลได้มีลูกด้วยกันหนึ่งคน วันหนึ่งผู้เป็นแม่ไปธุระนอกบ้านชายหนุ่มจึงอยู่บ้านกับลูก ลูกเกิดร้องไห้หาแม่ชายหนุ่มจึงพูดโกหกลูกว่า แม่
มาแล้ว เพื่อให้ลูกหยุดร้องไห้ชาวบ้านได้ยินคำโกหกของชายหนุ่ม จึงพากันขับไล่ชายผู้นั้นให้ออกจากเมือง ภรรยาซึ่งรักสามีแต่ก็ไม่อาจช่วยได้ และเกรงสามีจะได้รับความลำบาก จึงแอบเอาของสำคัญใส่ย่ามให้สามี โดยกำชับว่า เมื่อถึงบ้านให้เอาออกดูห้ามเอาออกดูระหว่างทาง เมื่อเดินทางพ้นเมืองลับแล ชายหนุ่มอยากรู้ ว่าภรรยาเอาอะไรใส่ถุงให้เพราะหนัก จึงเอาออกดู ก็เห็นขมิ้นเต็มถุงย่ามจึงเอาออกขว้างทิ้งเกือบหมดเหลือ
ตกค้างอยู่เล็กน้อย ครั้นกลับถึงบ้านจึงเล่าเรื่องราวให้เพื่อนญาติพี่น้องฟังพร้อมกับยืนยันคำพูดด้วยการเอา ขมิ้นติดถุงย่ามออกมาอวด ปรากฏว่าขมิ้นนั้นเป็นทองคำ ด้วยความเสียดายจึงชวนพรรคพวก ญาติพี่น้อง ออกตามไปเก็บขมิ้นที่ขว้างทิ้งระหว่างทาง แต่หาทางเก่าเข้าเมืองลับแลไม่พบ ด้วยเหตุนี้เมืองลับแลจึงเป็น
เมืองอาถรรพณ์ที่ชายหนุ่มทั้งหลายหวังจะเข้าไป แต่ไม่มีใครเข้าไปได้อีกเลยเป็นแต่เล่าต่อ ๆ กันมาเป็นนิยาย ปรัมปราจวบจนทุกวันนี้
ตำนานที่ ๒ ในสมัยก่อนเมืองลับแลเป็นป่าดงลึกมีภูเขาล้อมรอบ เต็มไปด้วยสัตว์ป่าชุกชุม พวกพราน เนื้อผู้กล้าหาญ และมีเวทมนต์คาถาจะเดินทางเข้าไปล่าสัตว์ป่า แต่ปรากฎว่านายพรานทุกคนที่เข้าไปล่าสัตว์ ป่าจะไม่มีใครได้กลับออกมาจึงกล่าวขานกันว่า เพราะผีป่า (ผีก๊ะ ผีกระโล่ง ผีโพง ผีก๊าง ผีกองกอย ผีนางไม้)
จะจำแลงแปลงเพศเป็นสาวงามออกมาเกี้ยวพาราสีนายพรานผู้หลงเดินเข้าดงลับแล ก็จะนิมิตให้เป็นบ้านเมือง อย่างสวยงามมีผู้คนเป็นหญิงสาวล้วน ๆ พวกพรานหนุ่มก็พากันหลงกลมายาของนางผีสาวจนตกเป็น อาหารกันหมดไม่มีผู้ใดรอดออกมาได้เลย ต่อมามีชายหนุ่มขมังเวทย์ชาวเมืองกัมโภช (ทุ่งยั้ง) จำนวน ๓ คน
ชวนกันออกไปล่าสัตว์เดินทางแกะรอยสัตว์ จนหลงเข้าไปใกล้ดงเมืองลับแลแดนผีดุร้ายจนถูกอำนาจมืด ให้เข้าสู่นครสาวงาม เมื่อพบสาวๆ หนุ่มทั้ง ๓ ก็หลงเกี้ยวพาราสีเมื่อถึงเวลาค่ำหนุ่ม ๒ คนก็ถูกผีกองกอยกินเป็นอาหาร บังเอิญหนุ่มอีก ๑ คน โชคดีผีสาวตนหนึ่งได้หลอกพาเข้าไปอยู่ในถ้ำและเอาเป็นผัว เมื่อถึงเวลาผี
สาวกองกอยจะออกไปหากินก็จะเอาก้อนหินปิดปากถ้ำไว้ ทำอยู่อย่างนี้เป็นเวลา ๒ ปีกว่า จนมีลูกด้วยกัน ๑ คน อยู่มาวันหนึ่งเมื่อผีสาวออกจากถ้ำแล้วปิดถ้ำไว้ บังเอิญลูกเล่นอยู่ตรงปากถ้ำไปถูกก้อนหินทำให้ก้อนหิน ปิดปากถ้ำหล่นลงปากถ้ำก็เปิดออก ชายหนุ่มก็วิ่งออกจากถ้ำไป ผีกองกอยกลับมาจึงออกวิ่งตาม ชายหนุ่ม
จวนตัวจึงหลบลงที่หลุมมันเสา (หลุมหัวมันกินได้) เอาหัวมุดลงหลุมเอาก้นกระดกขึ้นข้างบน ผีสาวตามมา ทันก็เอามือจับก้นชายหนุ่ม ด้วยความตกใจและกลัวตาย หนุ่มก็ผายลมออกมาเสียงดังปุด ๆ ผีสาวก็เอามือ มาดมก็ได้กลิ่นเหม็นจึงอุทานว่า ป้ออี่ฮอมกูต๋ายเสียแล้วกูจะไปเอาถุงม่าบ้าม่าขั่ง (ถุงย่าม) มาหื้อผัวกู
เพราะหวังว่าผัวจะได้ไปสู่ที่เจริญมีกินมีอยู่ ว่าแล้วผีสาวก็เอาถุงย่ามมาให้ผัวแล้วกลับไปหาลูกสาวในถ้ำ ชายหนุ่มได้จังหวะก็ลุกขึ้น เอาถุงย่ามสะพายบ่าแล้วรีบรีบเดินทางเพื่อกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านจึงดูของในถุงย่ามก็พบว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องราวเมืองลับแลให้เพื่อนฝูงญาติพี่น้องฟัง ทุกคนจึงลงความเห็น ว่าเมืองลับแลเป็นเมืองผีกินคน เป็นเมืองแม่หม้าย เมืองมหัศจรรย์ ต่อ ๆ กันมา
คติ/แนวคิด
...................จากข้อมูลแห่งตำนาน สภาพต่อมาปรากฎว่าผู้คนเมืองลับแลจะมีผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นหญิงมากกว่าชาย และเป็นหม้าย เพราะสามีจะเสียชีวิตหมด (ผู้ชายเมืองลับแลจะอายุไม่ยืน) จะสังเกตได้ว่าจนถึงปัจจุบันใน วันพระจะมีผู้สูงอายุเป็นหญิงไปทำบุญที่วัดมากกว่าชาย (ประมาณร้อยละ ๘๐ เป็นผู้หญิง) ซึ่งจะมีสาเหตุอื่น
ประกอบก็เป็นได้จึงทำให้หญิงมีอายุยืนมากกว่าผู้ชาย

[ตำนาน นิทาน เรื่องเล่า]

No comments:

Post a Comment