รัฐบาลสเปนเตรียมพิจารณายกเลิก "วัฒนธรรมนอนกลางวัน"
เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศหลังเผชิญวิกฤติ
หนี้ยุโรป
หลังจากเมื่อเดือนก่อนคณะกรรมาธิการรัฐสภาสเปนได้เสนอให้รัฐบาลปรับเขตเวลา
ของประเทศ ให้เกิดความเหมาะสมในเวลาการทำงานเมื่อเทียบเวลากับดวงอาทิตย์
ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ล่าสุด
รัฐบาลยังเตรียมพิจารณายกเลิกวัฒนธรรมการนอนกลางวัน หรือ Siesta
ที่มีมาช้านานอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตของแรงงาน
และยกระดับเศรษฐกิจของประเทศหลังเผชิญวิกฤติหนี้ยุโรป
โดยปกติ ช่วงเวลาการทำงานและเปิดร้านค้าของคนสเปน คือ ตั้งแต่ 10.00 -
14.00 น. และ 16.00 - 20.00 น. โดยจะมีช่วง 2 - 3
ชั่วโมงระหว่างวันไว้สำหรับนอนกลางวัน
โดยที่บริษัทและร้านค้าจะให้พนักงานหยุดพัก เพื่อกลับไปทำกับข้าวทานที่บ้าน
จากนั้นก็ให้นอนหลับพักผ่อน แล้วจึงกลับมาเริ่มทำงานอีกครั้งในช่วงบ่าย
ส่งผลโดยตรงแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
เพราะนักนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเที่ยวชมที่ใดได้เลย เนื่องจากร้านค้าต่าง
ๆ ปิดทำการ
ซึ่งธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กับประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจ
เปราะบางที่สุดในยุโรปอย่างสเปน
โฆษกกระทรวงเศรษฐกิจสเปนได้กล่าวว่า
จำเป็นต้องมีการปรับชั่วโมงในการทำงานให้สิ้นสุดตอน 17.00 น. เป็นสากล
นอกจากนี้ เวลาทานอาหารกลางวันยังไม่ควรเกิน 40 นาที
เพื่อให้ประชาชนทำงานได้อย่างต่อเนื่องเต็มที่
ซึ่งคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ภาคการผลิตเติบโต
รวมถึงภาคสังคมได้รับการพัฒนาไปควบคู่กันด้วย
เนื่องจากพ่อแม่มีเวลาอยู่กับลูก ๆ มากขึ้นนั่นเอง
No comments:
Post a Comment