ความสัมพันธ์แบบ “เรยา” โปรยเสน่ห์หวังผลในรูปแบบ Informal Organization ย่อมมีให้เห็นให้พบเจอทุกรูปแบบ ไม่เว้นในที่ทำงาน
กระแสความดังของ “เรยา” ในละครเรื่องดอกส้มสีทอง ที่ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นห่วงลูกหลานว่า จะมีพฤติกรรมเลียนแบบ แม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเองก็ยังเป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อ เยาวชนในสังคม ข่าวคราววิพากษ์วิจารณ์ของตัวละคร “เรยา” นี้ ก็น่าจะมีแง่คิดให้ผู้บริหารองค์กรด้วยเช่นกัน
ตัวละคร “เรยา” เป็นใคร มีพฤติกรรมแบบไหน คงไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดของเนื้อหาในที่นี้ แต่พอสรุปสั้นๆ ได้ว่า “เรยา” ไม่เชื่อฟังแม่ ดุดัน ก้าวร้าว เกลียดการเรียน ใช้ความสะสวยของตนโปรยเสน่ห์ด้วยมารยาหญิง ปูทางลัดในหน้าที่การงาน มีแฟนหลายคนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับชายที่มีครอบครัวมั่นคง มีเงินทอง มีฐานะดี แสวงหาความร่ำรวยและอำนาจ ชอบเอาชนะ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยไม่คำนึงถึงครอบครัวของผู้อื่น
อันที่จริงพฤติกรรมแบบตัวละคร “เรยา” มีให้รู้ให้เห็นกันมาตั้งแต่มนุษย์ได้ถูกก่อกำเนิดมาบนโลกใบนี้พร้อมๆกับคำ ว่า “เสน่หา” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง
อาดัมกับอีฟ มนุษย์คู่แรกที่พระเจ้าได้สร้างให้มีแต่ความดีงาม ไม่มีกิเลสไม่มีเกลียดชัง ริษยาอาฆาต แต่ด้วยอีฟอยากได้ผลแอปเปิ้ลบนต้นแอปเปิ้ลศักดิ์สิทธิ์ อาดัมซึ่งทนต่อความงดงามในเรือนร่างของอีฟไม่ไหว จึงยอมเด็ดผลแอปเปิ้ลศักดิ์สิทธิ์เอาใจอีฟละเมิดต่อความตั้งใจของพระเจ้า
คลีโอพัตราในประวัติศาสตร์อียิปต์ ใช้วิธีประจบเอาใจโปรยเสน่ห์ต่อจักรพรรดิซีซาร์แห่งโรมให้รบกับน้องชายตนเอง เพื่อยึดครองบัลลังก์ในอียิปต์และยังเป็นการป้องกันไม่ให้อียิปต์ต้องตกเป็น เมืองขึ้นของโรม หลังซีซาร์ถูกลอบสังหารในโรม พระนางวางแผนสืบทอดอำนาจของตนเองโดยใช้วิธีเสน่หากับแม่ทัพมาร์ค แอนโทนี่ ผู้ซึ่งเป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนรักของซีซาร์
พระนางซูสีไทเฮาลูกสาวของข้าราชการขั้นต่ำ ถวายตัวเข้าวังมาเป็นนางกำนัลผู้เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง ก็ใช้เสน่หาหลอกล่อองค์ฮ่องเต้ ไต่เต้าจากนางสนมขั้นต่ำจนได้ครองตำแหน่งพระมเหสี หลังองค์ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ พระนางได้สั่งประหารผู้สำเร็จราชการด้วยข้อหาเป็นกบฎคบคิดกับชาวต่างชาติ เพื่อล้มราชวงศ์และสถาปนา ตนเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ได้เป็นใหญ่ว่าราชการหลังม่านบนแผ่นดินจีน
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ก็ไม่ได้ต่างไปจากละครที่เริ่มต้นในเรื่อง “มงกุฎดอกส้ม” และมาลงเอยที่ “ดอกส้มสีทอง” (น่าจะเรียกสลับสีกัน) เช่นกัน
ปัจจุบันในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวละครที่โปรยเสน่ห์เพื่อหวังผลแบบ “เรยา” คงไม่ได้มีเฉพาะแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นผู้ริเริ่ม อาจจะเป็นผู้ชายต่อผู้หญิง ผู้หญิงต่อผู้หญิง ผู้ชายต่อผู้ชาย ในที่ทำงานความสัมพันธ์แบบ “เรยา” โปรยเสน่ห์เพื่อหวังผลในรูปแบบ Informal Organization ย่อมมีให้เห็นให้พบเจอะกันทุกรูปแบบ
ตั้งแต่ระดับพนักงานกันเอง พนักงานกับหัวหน้างาน ผลที่ตามมาก็หนีไม่พ้นการทะเลาะเบาะแว้งกัน กลั่นแกล้งกันทั้งแบบเปิดเผยและแอบแฝงในที่ทำงาน หรือเกิดคำครหานินทาจากผู้คนรอบข้าง ด้วยการดูแลเอาใจใส่เฉพาะบุคคลเป็นพิเศษ ความไม่ยุติธรรมในการจัดสรรงาน ตลอดจนผลประโยชน์ที่ไม่เสมอภาค การตัดสินใจที่มีเบื้องหลัง แอบแฝงผิดแปลกไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ บ่อยครั้งเข้าความเลื่อมล้ำในการปกครองก็ส่งผลให้ผู้คนไม่ยอมรับ ไม่เชื่อถือ ไม่นับถือ ไม่เคารพและไม่ศรัทธา ที่สุดความเสียหายที่ไม่อาจประเมิน ย่อมตกอยู่กับองค์กร
ความยุ่งยากวุ่นวายและผลเสียหายที่เกิดขึ้นในที่ทำ งาน ไม่น่าจะแตกต่างอะไรกับเรื่องราวในบทละครดอกส้มสีทอง อะไรจะเกิดขึ้น หากหัวหน้าชายฝ่ายบุคคลของภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นขายดีแห่งหนึ่ง ผู้มีหน้าที่ดูแลซอฟต์แวร์รายงานเรื่องขาดลามาสาย คอยแก้เวลาให้ถูกต้องกับสุดหล่อที่กิ๊กกันอยู่ ทั้งๆที่สุดหล่อขาดงานเป็นประจำ แต่กลับได้รับรายได้ตามปกติ เพื่อนๆพนักงานต่างก็รู้อยู่ว่าใคร คอยรู้เห็นเป็นใจ
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่ออยู่ๆ ฝ่ายคิวซีสินค้าของโรงงานเย็บชุดนักเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งพบว่ากองชุดนัก เรียนสีขาวที่กำลังจะส่งไปขายก่อนเปิดเทอม เลอะเทอะเต็มไปด้วยน้ำแดงและต่างก็สงสัยกันว่า เกิดจากฝีมือของพนักงานสาวสองสามรายที่หมายปอง สาวหล่อคนเดียวกัน
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อผู้จัดการฝีมือฉกาจของบริษัทรับทำโฆษณากำลังจะรับกิ๊กขาประจำเข้ามาทำ งานใกล้ชิดกัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า ความสามารถและคุณสมบัติของเธอผู้นั้นไม่น่าจะตรงกับงาน อีกทั้งยังมีผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าต้องมาเป็นลูกน้องของเธอ
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อหมอของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งทนความสาวสวยหุ่นดีหน้าตาพริ ตตี้ของเซลล์ขายยาแห่งใหม่ไม่ได้ กำลังจะสั่งซื้อยาที่หมอเองก็ยังไม่ได้ทดสอบว่าดีจริงหรือไม่ หรืออะไรจะเกิดขึ้น เมื่อสุดหล่อเอ๊าะๆ ของข้าราชการสาวใหญ่ คอยนำความเท็จให้ร้ายเพื่อนร่วมงานในระดับเดียวกัน ใส่ความเพื่อหวังผลไต่เต้าได้เลื่อนตำแหน่งให้ใหญ่โตขึ้นในเร็ววัน
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อพนักงานสาวสองคนทำงานอยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาตบตีกันในคลังสินค้าจัดเก็บอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่ง เพราะต่างก็ทำตัวแบบ “เรยา” ในที่ทำงาน ที่จริง “เรยา” อีกคนก็คอยดูความเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น หรืออะไรจะเกิดขึ้น เมื่อพนักงานสาวเปรี้ยวของบริษัท ประกันภัยหัวก้าวหน้าแห่งหนึ่ง คอยโปรยยิ้มที่แฝงไปด้วยเสน่หา เล่นหูเล่นตากับเหล่าผู้จัดการอาวุโสที่มีครอบครัวแล้ว เข้าข่าย Sexual Harassment (คุกคามทางเพศให้ลำบากใจ) ในเบื้องต้น และอะไรจะเกิดขึ้นอีก หากหนึ่งในผู้จัดการโคแก่สิ้นคิดให้ความร่วมมือ เข้าทางสาวเปรี้ยว คอยออกหน้าออกตาจัดการปูทางอนาคตอันสดใสให้ทุกๆ เรื่อง ด้วยความหลงใหลในยิ้มบาดใจของเธอ อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป หากภรรยาทางบ้านตามมาราวี คราวนี้สารพัดดอก …คงปลิวว่อนในที่ทำงาน
อันที่จริงเรื่องความรักในที่ทำงานเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ต้องยึดมั่นว่า เป็นความรักจากใจจริง เป็นรักแท้ที่บริสุทธิ์แบบ Monogamy (การมีสามีภรรยาเดียวในเวลาเดียว) ไม่ใช่ Polygamy และต้องไม่แอบแฝงไปด้วยเป้าหมายของกิเลสแห่งวาสนาอำนาจ ลาภยศตำแหน่งและเงินตราที่ต้องแลกด้วยเสน่หาพร้อมๆ กับการทำลายเหยียบย่ำให้ร้ายผู้อื่น
การไม่รักษาศีลข้อที่ 3 เพียงข้อเดียว (ไม่ให้ผิดลูกเมียผู้อื่น ปัจจุบันต้องเพิ่มสามี เข้าไปด้วยเป็น “ไม่ให้ผิดลูกเมียสามีผู้อื่น”) ส่งผลให้กระทำผิดศีลที่เหลืออีก 4 ข้ออย่างหลีกหนีไม่พ้น เพราะเมื่อไปผิดลูกเมียสามีผู้อื่น ก็ถือเป็นการแอบ ลักลอบ ขโมย เป็นการผิดศีลข้อที่ 2 อย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้มาแล้วก็เกิดให้ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับเสน่หาอาลัย จึงถือเป็นการผิดศีลข้อที่ 5 ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นการมัวเมาทางสุรายาเสพหรือการพนันเท่านั้น จากนั้นก็ต้องทำผิดในศีลข้อที่ 4 เพราะคงจะคอยพูดปดมดเท็จสารพัดอย่างเพื่อนำมาสนองกิเลสที่หยุดไม่ได้ ที่สุดการเบียดเบียน ทำร้ายจิตใจของผู้อื่นหรืออาจถึงขั้นทำร้ายฆ่าแกงกันก็คือการผิดศีลข้อที่ 1 (ผิดยก Package กันไปเลย)มองบทละครของ “เรยา” เป็นอุทาหรณ์สอนใจ อย่าเห็นผิดเป็นชอบเป็นดีที่สุดครับ
Tags : บุญชัย ปัณฑุีรอัมพร
บุญชัย ปัณฑุรอัมพร
CEO Dialogue
No comments:
Post a Comment