[ตำนาน นิทาน เรื่องเล่า]
.....................ประมาณกาลล่วงมากว่า ๒๐๐ ปี ได้มีพระพุทธรูป ๓ องค์ ปาฏิหาริย์ลงมาจากทางเหนือลอยมาตาม ลำแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นได้มาผุดขึ้นที่แม่น้ำบางปะกง พอมาถึงบริเวณตำบลบางขวัญ และตำบลบ้านใหม่ ได้แสดงปาฏิหารย์ลอยทวนน้ำให้ชาวบ้านเห็น ต่อมาจึงเรียกบริเวณนี้ว่า "สามพระทวน" และเพี้ยนมาเป็น "สัมปทวน"ในเวลาต่อมา จากนั้นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ลอยต่อไปจนถึงคุ้งน้ำ ชาวบ้านพากันใช้เชือกฉุดขึ้นฝั่งแต่ไม่สำเร็จ บริเวณนี้จึงได้ชื่อว่า "บ้านบางพระ" จากที่นี่ได้ลอยเข้าไปในคลองเล็ก ๆ แล้วลอยวน สถานที่นี่จึงได้ชื่อว่า "แหลมหัววน" จากนั้นชาวบ้านได้อาราธนาพระพุทธรูปขึ้นฝั่งแต่ไม่สำเร็จ จึงทำพิธีตั้งศาลเพียงตาบวงสรวง สามารถอัญเชิญพระพุทธรูปองค์เล็กขึ้นฝั่งได้อย่างง่ายดาย แล้วนำขึ้นประดิษฐานที่วัด ถวายนามพระว่า "พระโสทร" หมายถึงพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ล่วงถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เปลี่ยนเป็น "โสธร" มีความหมายว่าสะอาด
...................... ครั้นแล้วพระองค์พี่ใหญ่ ได้ลอยสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสามเสนในปัจจุบัน กล่าวว่าคนสามแสนช่วยกันฉุดอาราธนาไม่สำเร็จจึง เรียกบริเวณนั้นว่า สามแสน แต่ภายหลังกลายเป็นสามเสน สุดท้ายล่องลอยไปที่แม่น้ำแม่กลอง จังหวัด สมุทรสงคราม รับการอาราธนาขึ้นประดิษฐานที่วัดบ้านแหลม
.......................... องค์สุดท้ายล่องไปผุดที่จังหวัดสมุทรปราการ ชาวบ้านแถบนั้น อาราธนาขึ้นประดิษฐานที่วัดบางพลี และเรียกว่าหลวงพ่อโต วัดบางพลี เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป
...................... กล่าวกันว่าองค์หลวงพ่อโสธร แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางสมาธิเพชร หน้าตักกว้างศอกเศษ ทรงสวยงาม ต่อมาพระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงพอกปูนเสริมหุ้มองค์จริงไว้ภายในเป็นรูปที่ปรากฏในปัจจุบัน
คุณค่า/แนวคิด/สาระ
.......................การสร้างตำนานพระลงน้ำเป็นกลวิธีหนึ่งของคนในสมัยก่อน ที่พยายามสร้างสานความสัมพันธ์ทาง สังคมแก่ผู้คนในท้องถิ่นต่างๆ ในลักษณะเชื่อมโยงสภาพภูมิศาสตร์หรือเรื่องราวเหตุการณ์ ให้เป็นเสมือนว่า ต่างก็มีรากเง้าที่ผูกพันกันมาช้านาน เป็นลูกเป็นหลานเป็นญาติมาจากต้นตอเดียวกัน ทำให้เกิดการช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
[ตำนาน นิทาน เรื่องเล่า]
No comments:
Post a Comment