ยังไม่แก่
ชลิฏา ประณิฏา และกรษิสฏา สามสาววัยดึกมาพบกันที่บ้าน ปรับทุกข์กันเรื่องความจำที่
ลดน้อยลงไปอย่างน่าใจหาย
ชลิฏาว่า” ฉันนะ ถือขวดแยมยืนอยู่หน้าตู้เย็น จำไม่ได้ว่าจะเอาไปเก็บหรือจะเอามากิน”
ประณิฏาคล้อยตามว่า” ฉันเองยืนอยู่กลางบันได จำไม่ได้ว่าจะขึ้นหรือลง”
กรษิสฏาแย้งว่า “ฉันยังเจ๋งอยู่นะ” ว่าแล้วก็ทำมืองอ เคาะไปบนโต๊ะอย่างแรงเพื่อเป็นการยืนยัน
เมื่อสิ้นเสียง เธอหันไปมองประตู บอกว่า “เอ๊ะ ใครมาเคาะประตูนะ”
Monday, January 23, 2012
ช้อศอก
ช้อศอก
คุณย่าไดัรับโทรศัพท์จากหลานชายคนโปรด บอกว่าจะพาหลานสะใภ้มาเยี่ยม
เนื่องจากคุณย่าเพิ่งย้ายไปอยู่ที่ใหม่จึงต้องบอกทางให้
“ย่าอยู่คอนโดสุขสบาย ริมถนนแหละ แกมาที่หน้าประตู เอาข้อศอกกดปุ่มที่มีลูกศรชี้ขึ้น
จะมีไอ้กระเช้าที่เขาเรียกว่า ลิฟท์ เลื่อนลงมารับ แกก๊อเข้าไปในกระเช้า แล้วก็เอาข้อศอก
กดปุ่มที่มีเลข 12 ประตูมันจะปิดเอง เมื่อเปิดอีกทีก็เดินเลี้ยวซ้าย หน้าห้องย่ามีเลข 15 ติดอยู่
แกก๊อเอาข้อศอกกดปุ่มที่ประตู ย่าก็จะเปิดประตูรับ เข้าใจไม๊ล่ะ”
“เข้าใจครับคุณย่า คุณย่าอยู่ชั้น 12 ห้อง 15 แต่ว่าทำไมถึงต้องเอาข้อศอกกดปุ่มด้วยละครับ”
“อ้าว นี่มาหาย่าทั้งที แกจะมามือเปล่ายังงั้นเรอะ”
คุณย่าไดัรับโทรศัพท์จากหลานชายคนโปรด บอกว่าจะพาหลานสะใภ้มาเยี่ยม
เนื่องจากคุณย่าเพิ่งย้ายไปอยู่ที่ใหม่จึงต้องบอกทางให้
“ย่าอยู่คอนโดสุขสบาย ริมถนนแหละ แกมาที่หน้าประตู เอาข้อศอกกดปุ่มที่มีลูกศรชี้ขึ้น
จะมีไอ้กระเช้าที่เขาเรียกว่า ลิฟท์ เลื่อนลงมารับ แกก๊อเข้าไปในกระเช้า แล้วก็เอาข้อศอก
กดปุ่มที่มีเลข 12 ประตูมันจะปิดเอง เมื่อเปิดอีกทีก็เดินเลี้ยวซ้าย หน้าห้องย่ามีเลข 15 ติดอยู่
แกก๊อเอาข้อศอกกดปุ่มที่ประตู ย่าก็จะเปิดประตูรับ เข้าใจไม๊ล่ะ”
“เข้าใจครับคุณย่า คุณย่าอยู่ชั้น 12 ห้อง 15 แต่ว่าทำไมถึงต้องเอาข้อศอกกดปุ่มด้วยละครับ”
“อ้าว นี่มาหาย่าทั้งที แกจะมามือเปล่ายังงั้นเรอะ”
Friday, January 20, 2012
ชุดรัก
ชุดรัก
หลังจากที่คุณลูกสาวแต่งงานได้ 2 วัน คุณแม่ไปเยี่ยมที่คอนโดของคู่บ่าวสาว
เมื่อเปิดประตูออกไปรับคุณแม่ คุณแม่ตกใจที่เห็นคุณลูกสาวเปิดประตูออกมารัด้วยร่างที่เปลือยเปล่า
“นี่แหละค่ะ ชุด รัก ของหนู” คุณลูกสาวบอก
“เออ เอาไว้ให้นานกว่านี้อีกเถอะ แล้วแม่จะมาเยี่ยมอีก”
อีกเดือนหนึ่งถัดมา คุณแม่ไปเยี่ยมอีก ก็พบคุณลูกสาวออกมารับที่หน้าประตูในชุดวันเกิดเช่นเดิม
บอกว่า “นี่แหละค่ะ ชุด รัก ของหนู”
คุณแม่เกิดไอเดีย เมื่อกลับไปบ้าน ตกเย็นก็คอยคุณพ่อกลับจากงาน เมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตูก็เปิด
ออกไปด้วยร่างที่เปลือยเปล่า บอกคุณพ่อว่า “นี่แหละชุด รัก ของฉัน”
คุณพ่อมองไปทั่วตัว บอกออกมาว่า “เอ้อ ชุดของเธอ ถ้าเธอรีดให้เรียบสักหน่อยก็จะดีนะ”
หลังจากที่คุณลูกสาวแต่งงานได้ 2 วัน คุณแม่ไปเยี่ยมที่คอนโดของคู่บ่าวสาว
เมื่อเปิดประตูออกไปรับคุณแม่ คุณแม่ตกใจที่เห็นคุณลูกสาวเปิดประตูออกมารัด้วยร่างที่เปลือยเปล่า
“นี่แหละค่ะ ชุด รัก ของหนู” คุณลูกสาวบอก
“เออ เอาไว้ให้นานกว่านี้อีกเถอะ แล้วแม่จะมาเยี่ยมอีก”
อีกเดือนหนึ่งถัดมา คุณแม่ไปเยี่ยมอีก ก็พบคุณลูกสาวออกมารับที่หน้าประตูในชุดวันเกิดเช่นเดิม
บอกว่า “นี่แหละค่ะ ชุด รัก ของหนู”
คุณแม่เกิดไอเดีย เมื่อกลับไปบ้าน ตกเย็นก็คอยคุณพ่อกลับจากงาน เมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตูก็เปิด
ออกไปด้วยร่างที่เปลือยเปล่า บอกคุณพ่อว่า “นี่แหละชุด รัก ของฉัน”
คุณพ่อมองไปทั่วตัว บอกออกมาว่า “เอ้อ ชุดของเธอ ถ้าเธอรีดให้เรียบสักหน่อยก็จะดีนะ”
Thursday, January 19, 2012
ผู้หญิงจะน่ากลัวที่สุดตอนไหน
ผู้หญิงจะน่ากลัวที่สุดตอนไหน
1. ประจำเดือนมา !!
2. กินยาลดความอ้วน !!
3. ผัวชวนทะเลาะ !!
4. โดนด่าว่าเซาะกราว !!
5. เมาครึ่งๆกลางๆ !!
6. เดินห้างแล้วไม่ได้ของกลับ !!
7. นมไซด์คัปไม่เท่าคนอื่น !!
8. ยืนรออะไรนานๆคนเดียว !!
9. เดินซอยเปลี่ยวแต่โจรไม่ฉุด !!
10. ผ้ากูหลุดแต่แม่งกูไม่เสร็จ !!
1. ประจำเดือนมา !!
2. กินยาลดความอ้วน !!
3. ผัวชวนทะเลาะ !!
4. โดนด่าว่าเซาะกราว !!
5. เมาครึ่งๆกลางๆ !!
6. เดินห้างแล้วไม่ได้ของกลับ !!
7. นมไซด์คัปไม่เท่าคนอื่น !!
8. ยืนรออะไรนานๆคนเดียว !!
9. เดินซอยเปลี่ยวแต่โจรไม่ฉุด !!
10. ผ้ากูหลุดแต่แม่งกูไม่เสร็จ !!
โจรชรา
โจรชรา
ซุบเปอร์คุณย่าวัยเจ็ดสิบจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของซุบเปอร์มาร์เกตแล้วเข้าไปซื้อของ
เมื่อกลับมา พอดีพบชายฉกรรจ์สี่คนไขกุญแจรถ และกำลังจะเข้าไปในรถพอดี คุณย่าวางถุงของ เปิดกระเป๋าถือ
หยิบปืนพกเล็กออกมา เล็งไปที่ชายทั้งสี่ บอกว่า “ออกมาเดี๋ยวนี้นะ นี่ปืนจริงๆนะ ไม่ใช่ปืนเด็กเล่น”
ชายทั้งสี่ชะงัก และวิ่งกระจายกันออกไป คุณย่าเก็บปืน หยิบถุงใส่ของไปขึ้นรถ ควักกุญแจรถมา
เพื่อจะสตาร์ตรถด้วยใจสั่นสะท้าน ปรากฏว่าใส่กุญแจไม่เข้า และเมื่อพิจารณารถ ซุบเปอร์คุณย่าก็พบว่าก็พบว่า
รถคันนั้นไม่ใช่ของคุณย่า รถของคุณย่าเองซึ่งเหมือนกันจอดห่างออกไปอีก 3 คัน เมื่อถอยออกมาจากรถ
ก็พบชายสี่คนพร้อมกับยามรักษาการณ์เข้ามา รวบตัวคุณย่าไว้ด้วยข้อหาปล้นทรัพย์
ซุบเปอร์คุณย่าวัยเจ็ดสิบจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของซุบเปอร์มาร์เกตแล้วเข้าไปซื้อของ
เมื่อกลับมา พอดีพบชายฉกรรจ์สี่คนไขกุญแจรถ และกำลังจะเข้าไปในรถพอดี คุณย่าวางถุงของ เปิดกระเป๋าถือ
หยิบปืนพกเล็กออกมา เล็งไปที่ชายทั้งสี่ บอกว่า “ออกมาเดี๋ยวนี้นะ นี่ปืนจริงๆนะ ไม่ใช่ปืนเด็กเล่น”
ชายทั้งสี่ชะงัก และวิ่งกระจายกันออกไป คุณย่าเก็บปืน หยิบถุงใส่ของไปขึ้นรถ ควักกุญแจรถมา
เพื่อจะสตาร์ตรถด้วยใจสั่นสะท้าน ปรากฏว่าใส่กุญแจไม่เข้า และเมื่อพิจารณารถ ซุบเปอร์คุณย่าก็พบว่าก็พบว่า
รถคันนั้นไม่ใช่ของคุณย่า รถของคุณย่าเองซึ่งเหมือนกันจอดห่างออกไปอีก 3 คัน เมื่อถอยออกมาจากรถ
ก็พบชายสี่คนพร้อมกับยามรักษาการณ์เข้ามา รวบตัวคุณย่าไว้ด้วยข้อหาปล้นทรัพย์
ทุกอาชีพสุจริต
ทุกอาชีพสุจริต
ที่โรงเรียนอนุบาล ครูถามนักเรียนว่าคุณพ่อมีอาชีพอะไร นรินทร์ บอกว่า คุณพ่อเป็นหมอ
พิภัชบอกว่า คุณพ่อเป็นวิศวกร ธนุสบอกว่า คุณแม่เขาเป็นผู้หญิงหากิน
ครูส่งเขาไปให้พบครูใหญ่ 15 นาที ต่อมาเขากลับมาที่ห้องเรียน
“ครูใหญ่บอกว่ายังไงบ้างล่ะ” ครูประจำชั้นถาม
“ครูใหญ่บอกว่าเป็นอะไรก็มีอาชีพสุจริตเหมือนกัน ครูใหญ่ยังให้ขนมผมกิน แล้วถามเบอร์
โทรศัพท์ที่บ้านผมด้วยละ”
ที่โรงเรียนอนุบาล ครูถามนักเรียนว่าคุณพ่อมีอาชีพอะไร นรินทร์ บอกว่า คุณพ่อเป็นหมอ
พิภัชบอกว่า คุณพ่อเป็นวิศวกร ธนุสบอกว่า คุณแม่เขาเป็นผู้หญิงหากิน
ครูส่งเขาไปให้พบครูใหญ่ 15 นาที ต่อมาเขากลับมาที่ห้องเรียน
“ครูใหญ่บอกว่ายังไงบ้างล่ะ” ครูประจำชั้นถาม
“ครูใหญ่บอกว่าเป็นอะไรก็มีอาชีพสุจริตเหมือนกัน ครูใหญ่ยังให้ขนมผมกิน แล้วถามเบอร์
โทรศัพท์ที่บ้านผมด้วยละ”
Wednesday, January 18, 2012
โชคดี
โชคดี
รถโดยสารขึ้นเหนือที่มีเส้นทางสูงชัน ทางการรถไฟจึงจัดให้ใช้หัวรถจักร 2 หัว เมื่อไปได้ครึ่งทางหัว
รถจักรหัวหนึ่งเกิดเสีย พขร. (พนักงานขับรถ) ประกาศว่า “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ เนื่องจากหัวรถจักร
ของเราขัดข้องหัวหนึ่ง เราจะถึงที่หมายช้าไป 3 ชั่วโมง “
แต่เมื่อวิ่งไปได้สักพักหนึ่ง หัวรถจักรคันที่สองเกิดเสียอีก รถจำต้องหยุดลงกลางป่า พขร. ประกาศว่า
“ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ เรามีทั้งข่าวร้ายและข่าวดีที่จะแจ้งให้ท่านทราบ ข่าวร้ายก็คือว่า หัวรถจักรอีกคัน
หนึ่งเกิดเสียลงอีก เราจำเป็นที่ต้องค้างอยู่กลางป่าจนกว่าจะมีผู้มาช่วย และข่าวดีที่จะแจ้งให้ทราบก็คือว่า
ท่านผู้โดยสารทุกท่านโชคดีที่เลือกการเดินทางด้วยรถไฟ แทนการเดินทางด้วยเครื่องบิน เนื่องจากเครื่องบินที่ไปเชียงใหม่
เพิ่งตกไปเมื่อเช้านี้อ่ะครับ ”
Friday, January 13, 2012
เหมือนกัน
เหมือนกัน
หนูน้อยวัย 5 ขวบกลับจากโรงเรียน ตาไวเห็นบิดาขับรถพาเพื่อนของแม่
เข้าไปในป่าหลังบ้าน เลยย่องไปดูก็ได้เห็นภาพที่หนูน้อยรีบกระหืดกระหอบไปบอกแม่ว่า
“แม่ครับ เมื่อกี้นี้นี้ผมเห็นพ่อขับรถพาน้าแป๋วเข้าไปในป่า แล้วพ่อก็หอมน้าแป๋ว
แล้วพ่อก็ช่วยน้าแป๋วถอดเสื้อ แล้วก็..”
“พอ พอ ไม่ต้องเล่าแล้วลูก เดี๋ยวรอพ่อกลับมาก่อน แล้วค่อยเล่า แม่อยากจะดูหน้าพ่อเขาว่า
จะอธิบายยังไงบ้าง”
เย็นนั้น เมื่ออยู่พร้อมหน้ากันที่บนโต๊ะอาหาร มารดาบอกลูกชายว่า “ไหนลูกลองเล่าซิว่า
เมื่อบ่ายนี้ ลูกเห็นอะไรบ้าง”
“ผมเห็นพ่อขับรถพาน้าแป๋วเข้าไปในป่า แล้วพ่อก็หอมน้าแป๋วแล้วพ่อก็ช่วยน้าแป๋วถอดเสื้อ
แล้วผมเห็นพ่อทำกะน้าแป๋วเหมือนกะที่ลุงแดงทำกะแม่ ตอนที่พ่อไปต่างจังหวัดน่ะครับ”
หนูน้อยวัย 5 ขวบกลับจากโรงเรียน ตาไวเห็นบิดาขับรถพาเพื่อนของแม่
เข้าไปในป่าหลังบ้าน เลยย่องไปดูก็ได้เห็นภาพที่หนูน้อยรีบกระหืดกระหอบไปบอกแม่ว่า
“แม่ครับ เมื่อกี้นี้นี้ผมเห็นพ่อขับรถพาน้าแป๋วเข้าไปในป่า แล้วพ่อก็หอมน้าแป๋ว
แล้วพ่อก็ช่วยน้าแป๋วถอดเสื้อ แล้วก็..”
“พอ พอ ไม่ต้องเล่าแล้วลูก เดี๋ยวรอพ่อกลับมาก่อน แล้วค่อยเล่า แม่อยากจะดูหน้าพ่อเขาว่า
จะอธิบายยังไงบ้าง”
เย็นนั้น เมื่ออยู่พร้อมหน้ากันที่บนโต๊ะอาหาร มารดาบอกลูกชายว่า “ไหนลูกลองเล่าซิว่า
เมื่อบ่ายนี้ ลูกเห็นอะไรบ้าง”
“ผมเห็นพ่อขับรถพาน้าแป๋วเข้าไปในป่า แล้วพ่อก็หอมน้าแป๋วแล้วพ่อก็ช่วยน้าแป๋วถอดเสื้อ
แล้วผมเห็นพ่อทำกะน้าแป๋วเหมือนกะที่ลุงแดงทำกะแม่ ตอนที่พ่อไปต่างจังหวัดน่ะครับ”
ประกาศสงคราม
ประกาศสงคราม
ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากปรธานาธิบดีประเทศข้างเคียง
“นี่ ผมขอประกาศสงครามกับประเทศคุณแล้วนะ”
“คุณคิดดีแล้วเหรอ ประเทศคุณมีกำลังพลเท่าไร”
“300 ยังไงผมก็เอาชนะคุณได้แหละ”
“ผมมีกำลังพลพร้อมรบอยู่ 3 ล้านคนนะ” ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจบอก
“เอ้อ ผมขอเวลาปรึกษากันนิดนะ”
เช้าวันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจได้รับโทรศัพท์
“เราเปิดสนธิสัญญาแวร์ซายน์ดูแล้ว เราจะต้องเลี้ยงดูเชลยศึกด้วย เราปรึกษากันดูแล้ว
เชลยศึกตั้ง 3 ล้านคนนี่เราเลี้ยงไม่ไหวแน่ “ ประธานาธิบดีประเทศข้างเคียงบอก
“ เราขอยกเลิกประกาศสงครามกับคุณแล้วละ”
ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากปรธานาธิบดีประเทศข้างเคียง
“นี่ ผมขอประกาศสงครามกับประเทศคุณแล้วนะ”
“คุณคิดดีแล้วเหรอ ประเทศคุณมีกำลังพลเท่าไร”
“300 ยังไงผมก็เอาชนะคุณได้แหละ”
“ผมมีกำลังพลพร้อมรบอยู่ 3 ล้านคนนะ” ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจบอก
“เอ้อ ผมขอเวลาปรึกษากันนิดนะ”
เช้าวันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจได้รับโทรศัพท์
“เราเปิดสนธิสัญญาแวร์ซายน์ดูแล้ว เราจะต้องเลี้ยงดูเชลยศึกด้วย เราปรึกษากันดูแล้ว
เชลยศึกตั้ง 3 ล้านคนนี่เราเลี้ยงไม่ไหวแน่ “ ประธานาธิบดีประเทศข้างเคียงบอก
“ เราขอยกเลิกประกาศสงครามกับคุณแล้วละ”
Subscribe to:
Posts (Atom)