Friday, March 30, 2012

เพื่อน

เพื่อน


เพื่อน 4 คน ที่ไม่ได้พบกันมานาน 30 ปี ได้พบกันในงานสังสรรค์จึงคุยกันเรื่องลูกในขณะที่เพื่อนคนที่สี่เข้าห้องน้ำ

เพื่อนคนที่1 : ลูกเก่งมาก เรียนจบ MBA ไต่เต้าเป็น CEO รวยจนซื้อรถเบนซ์ให้เพื่อนรัก

เพื่อนคนที่ 2: ลูกชั้นเป็นกัปตันเครื่องบินบริษัทเล็กๆ เก่งจนกลายเป็นผู้ร่วมลงทุน ตอนนี้รวยจนซื้อเครื่องบินส่วนตัวใหม่เอี่ยม

ให้เพื่อนรักได้

เพื่อนคนที่3: ลูกเป็นวิศวกร ก่อสร้างจนรวยไม่รู้เรื่อง เป็นมหาเศรษฐี ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ให้เป็นของ ขวัญแก่เพื่อนรัก

ทั้งสามคนแสดงความยินดีแก่กันที่มีลูกแสนเก่ง ร่ำรวย ประสบความสำเร็จในชีวิต ทันใดนั้นเพื่อนคนที่สี่ก็เดินกลับจากห้องน้ำพอดี ก็ถามว่า "

แสดงความยินดีกันเรื่องอะไรล่ะ" "อ๋อก็เรื่องความสำเร็จของลูกพวกเรา เออ แล้วลูกเป็นยังไงบ้าง"

เพื่อนคนที่สี่ก็ตอบว่า "ลูกชายมันเป็นเกย์ หากินเต้นระบำเปลื้องผ้าในไนต์คลับ" เพื่อนทั้งสามก็พูดพร้อมกันว่า

"แหมน่าสงสาร ผิดหวังจังนะ" คำตอบของเขาก็คือ

"ไม่รู้สึกอับอายอะไร ฉันรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะเป็นลูก และจะว่าไปก็เป็นอาชีพที่ไม่เลวนะ วันเกิดเมื่อสองอาทิตย์ก่อน

มันได้ของขวัญเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ แถมเครื่องบินเจ๊ต และรถเบนซ์อีกด้วยนะ จากแฟน 3 คน"

คุณสมบัติ

คุณสมบัติ

สุภาพสตรีนางหนึ่งชื่อว่า แอ๊ปเปิ้ล อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว

แต่ยังโสดเลยลงประกาศหาชายในฝันทางหน้าหนังสือพิมพ์แต่มีข้อแม้ดังนี้

1. หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขอให้พูดจากันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือ

2. จะต้องไม่จากหล่อนไปไหน จะอยู่เคียงข้างกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

3. ต้องเต็มร้อยในเรื่องบนเตียง

หลังจากลงประกาศอยู่หลายวันไม่มีใครมาติดต่อ

อีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา ขณะที่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็มีคนมาเคาะประตู

พอหล่อนออกไปเปิดก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น แขนขาด้วน หน้าตาน่าสงสาร

แอ๊ปเปิ้ล..."มาหาใครคะ"

ชายพิการ..."ผมมาหาคุณแอ๊ปเปิ้ลครับ"

แอ๊ปเปิ้ล... "ดิฉันนี่แหละค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ"

ชายพิการ.. "คือ..ผมเห็นประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์

ผมก็เลยคิดว่าผมมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คุณต้องการ"

แอ๊ปเปิ้ล... (งงเล็กน้อย) "คุณมีคุณสมบัติอะไรที่ว่าครบ"

ชายพิการ... "ข้อ 1 ผมไม่ตบตีคุณแน่ เพราะผมไม่มีมือไม่มีแขน และ

ข้อ 2 ผมไม่ทอดทิ้งคุณไปไหนเพราะผมไม่มีขา"....

แอ๊ปเปิ้ล.... "เอ่อ ... เอ่อ.. แล้วข้อ 3 ล่ะคะ" หล่อนถามด้วยความสงสัยเป็นที่สุด

ชายพิการ... "คุณครับ ผมไม่มีมีมือ ไม่มีแขน ไม่มีขา

แล้วเมื่อสักครู่ที่ผมเคาะประตู คุณคิดว่าผมใช้อะไรเคาะละครับ"

นิทานเซน : ศิษย์ที่หลงทาง

นิทานเซน : ศิษย์ที่หลงทาง

ยังมีศิษย์เซนผู้หนึ่ง มีนิสัยเกียจคร้าน ทั้งยังชอบลักขโมยของผู้อื่น พฤติกรรมของเขาเป็นที่เอือมระอาของศิษย์เซนคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก

จนกระทั่งเมื่อศิษย์เซนเจ้าปัญหาถูกจับได้ว่าลักขโมยอีกครั้ง บรรดาศิษย์คนอื่นๆ จึงได้รวมตัวกันมาฟ้องร้องต่ออาจารย์เซนผานกุย โดยยื่นคำขาดว่าหากอาจารย์เซนไม่กำจัดศิษย์ผู้นี้ให้พ้นไปจากอารามโดยทันที เหล่าศิษย์ที่เหลือจะเป็นฝ่ายออกไปจากอารามเซนแห่งนี้แทน

มิคาด เมื่อได้ทราบเรื่องราว อาจารย์เซนผานกุยกลับกล่าวกับทุกคนว่า "พวกท่านล้วนเป็นผู้มีสติปัญญาสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดถูก-ผิด สิ่งใดดี-ชั่ว หากพวกท่านพาตัวพ้นจากอารามเซนแห่งนี้ไปล้วนไม่ก่อปัญหาภายนอก ทว่าศิษย์ผู้นี้ แม้แต่ถูก-ผิด เขายังมิอาจแยกแยะได้ หากเราไม่สอนเขาแล้วผู้ใดจะสอนเขา ดังนั้นเราจำเป็นต้องให้เขาอยู่ที่อารามแห่งนี้กับเรา ส่วนพวกท่านหากว่ามีผู้ใดไม่พอใจและตัดสินใจออกจากอารามนี้ไป ก็สุดแท้แต่เถิด"

เมื่อได้ยินดังนั้น ศิษย์เซนเจ้าปัญหาได้แต่คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความซาบซึ้งใจในจิตเมตตาของ อาจารย์เซน และพยายามกลับตัวเป็นคนดีในที่สุด

Thursday, March 29, 2012

ขนมยาย

ขนมยาย

ยายคนหนึ่ง มีอาชีพขายขนมไทย แต่ขายได้ไม่ดีนัก เพราะขนมไทย ไม่เป็นที่นิยมมากเท่าใด

แต่ทุกเช้า จะมีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง มาซื้อขนมกับแกทุกวัน โดยชายหนุ่มจะยื่นเงินให้ยายคนนั้น 20 บาท

โดยที่ไม่ได้รับขนมไปเลย แต่ชายหนุ่มคนนั้น ก้อทำเช่นนี้มาตลอด ไม่มีขาด

ยายก็ได้แต่พูดขอบใจทุกครั้ง

อยุ่มาวันหนึ่ง ชายหนุ่มก้อทำเช่นเดิม ยื่นเงินให้ยาย 20 บาท แล้วกำลังจะเดินจากไป แต่คราวนี้

ยายจับแขนชายหนุ่มไว้ แล้วเอ่ยปากว่า

พ่อหนุ่ม

ชายหนุ่มรีบตอบกลับว่า ยายครับ ยายไม่ต้องสงสัยหรือเอ่ยถามหรอกครับ ผมทำแบบนี้ทุกวัน เพราะผมอยากช่วยยายครับ

ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน

ยายตอบกลับว่า เปล่า.. ยายจะบอกว่า ขนมยายขึ้นราคาเป็น 25 บาทแล้ว

ผู้ชายไม่กินเหล้า

ผู้ชายไม่กินเหล้า

ชายคนหนึ่งเดินออกจากผับ มีขอทานคนหนึ่งหน้าตามอมแมม ตามตัวสกปรกนั่งอยู่ข้างทาง

" พี่ขอเงินสัก 20 ซิผมยังไม่กินข้าวเลย " ขอทานเอ่ยปาก

ชายหนึ่งหยุดกึ่ก........ แล้วบอกว่า

" เอาอย่างนี้ ไปกินเหล้ากับพี่ พี่เลี้ยงเอง "

ขอทานบอก " ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่กินเหล้า "

ชายหนุ่มเลยบอก " นั้นไปเล่นม้ากับพี่ไหม พี่ออกทุนให้ "

ขอทานก็ยังปฎิเสธ " ผมไม่เล่นการพนันคับ "

ชายคนนี้เลยถามต่อ" เอาอย่างนี้นั้น พี่พาไปลงอ่างดีกว่า "

ขอทานก็ตอบอีกว่า " ผมไม่เที่ยวผู้หญิงด้วยคับ "

ชายหนุ่มเลยยิ้มนิดๆๆ เหมือนถูกใจแล้วถามว่า

"เมื่อกี้น้องขอตังค์ พี่เท่าไรนะ"

ขอทานบอก : " 20 ครับพี่ "

ชายหนุ่มเลยก้มหน้าไปกระซิบว่า : " เอางี้แล้วกันพี่ให้น้อง 200 เลย ไปที่บ้านกับพี่หน่อยเด้อ !!! "

ขอทานทำหน้างง : " ทำไมเหรอคับ พี่ "

ชายหนุ่มควักตังค์ แล้วพูดว่า : " ไปให้เมียพี่มันดู หน่อยว่ะ ว่าคนที่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน

ไม่เที่ยวผู้หญิงนะ สารรูปมันเป็นอย่างไร "

Wednesday, March 28, 2012

อาจารย์กับนักศึกษา

อาจารย์กับนักศึกษา

ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนเริ่มการสอนจะต้องงัดเอาเรื่องตลกสัปดนมาเล่าทุกครั้ง

บางเรื่องก็ใช้ภาษาแบบโจ๋งครึ่มจนนักศึกษาหญิงอายหน้าแดงไปตาม ๆ กัน

กลุ่มนักศึกษาหญิงจึงคิดรวมหัวกันประท้วงด้วยการเดินออกนอกห้อง หากศาสตราจารย์ผู้นั้นเล่าเรื่องสัปดนในชั้นเรียนอีก

ศาสตราจารย์ไม่รู้ว่านักศึกษาหญิง กำลังตั้งป้อมประท้วง วันต่อมาเมื่อเข้าสอน จึงหาเรื่องตลกสัปดนมาเล่าอีก

"สวัสดีนักศึกษาทุกคน มีใครรู้บ้างมั๊ยว่าขณะนี้ประเทศอินเดียกำลังขาดแคลนกะหรี่ ?"

เพียงเริ่มต้นได้ประโยคเดียวนักศึกษาที่เป็นหญิงลุกขึ้นยืนพร้อมกันหมดแล้วเดินตรงไปที่ประตู

"เดี๋ยวก่อนพวกสาว ๆ จะรีบไปไหน" ศาสตราจารย์กวักมือเรียก

"เรือที่จะไปอินเดียยังไม่ออกวันนี้หรอก ต้องรอพรุ่งนี้เช้า"

นิทานเซน :หลักพุทธธรรม

ไป๋จีว์อี้ กวีเอกนามกระเดื่องในสมัยราชวงศ์ถัง ผู้ประพันธ์บทกวีไว้ทั้งสิ้น 3,840 บท ซึ่งหากนับกวีในยุคเดียวกัน ถือว่าเขาประพันธ์บทกวีไว้มากเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดิน

ไป๋จีว์อี้ มีอีกนามหนึ่งว่า เล่อเทียน ในวัยหนุ่มผ่านชีวิตลำบากยากแค้น จึงมีความเข้าอกเข้าใจความทุกข์ทรมานจากความยากจนของคนในสังคม เมื่ออายุได้ 28 ปี เขาสอบจองหงวนได้ในตำแหน่งจิ้นซื่อจึงได้เข้ารับราชการ ต่อมาถูกข้อหากระทำผิดต่อราชสำนักถูกลดยศไปรับตำแหน่งขุนนางดูแลเมืองเจียง โจว สุดท้ายสังกัดกระทรวงยุติธรรม

เล่ากันว่าครั้งหนึ่ง ไป๋จีว์อี้เอ่ยถามอาจารย์เซนเหนี่ยวเฉาว่า "ท่านอาจารย์ หัวใจหลักของพุทธธรรมคืออะไร?"

อาจารย์เซนตอบว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"

ไป๋จีว์อี้ได้ฟังดังนั้นก็ถอนใจด้วยความเบื่อหน่ายเพราะคิดว่าจะมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น พลางกล่าวว่า "หากตอบเช่นนี้ แม้แต่เด็กสามขวบก็ตอบได้"

อาจารย์เซนเหนี่ยวเฉาจึงตอบกลับไปว่า "แม้ว่าเด็กสามขวบก็สามารถตอบเช่นนี้ได้ แต่ไม่แน่ว่าจนกระทั่งแก่ชราจะสามารถปฏิบัติตามนี้ได้จริง"

ไป๋จีว์อี้เห็นจริงตามคำกล่าวของอาจารย์เซน จึงน้อมนำคำสั่งสอนนั้นเข้ามาไว้ในใจและนำไปปฏิบัติ

ปัญญาเซน : หลักธรรมคำสอนมีไว้ปฏิบัติ มิใช่เพียงท่องจำแต่ทำไม่ได้

Tuesday, March 27, 2012

ขายของ

ขายของ


สตรีนางหนึ่งแต่งงานมีลูกแล้ว และเธอก็มีชู้ด้วย 1 คน
ทุกวันพุธเธอจะพาชู้มาที่บ้านเพื่อทำการ(จึ๊กกระดึ๋ย)
และระหว่างนั้นเธอก็จะให้ลูกชายอายุ 8 ขวบไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า

พุธหนึ่งสามีเธอเกิดเลิกงานเร็ว ผิดปกติและกลับบ้านก่อนเวลา
เธอตกใจมากจึงรีบพาชายชู้มาหลบในตู้เดียวกะ ที่ลูกชายเธออยู่
พอตู้เสื้อผ้าปิดลงเด็กน้อยก็พูดขึ้นว่า

"ในนี้มืดจังเลยนะครับ"
"อื้อ นั่นน่ะสินะ" ชายชู้ตอบ
"ผมมีลูกเบสบอลลูกนึง ขายให้คุณ 50 ดอลล่า เอามั้ยครับ?"
เด็กน้อยเสนอ

ชายชู้รีบตอบปฏิเสธทันที
"ไม่เอาเว้ย ขายขูดรีดกันนี่หว่า"
"งั้นผมไปบอกพ่อดีกว่าว่าคุณอยู่ในนี้
"เออ เอามาก็ได้วะ" ชายชู้จำยอม

พุธต่อมาก็เกิดเหตุการแบบเดียวกันขึ้น อีก
ชายชู้จึงถูกพาไปหลบในตู้เสื้อผ้าเดิม
"ในนี้มืดจังนะครับ" เด็กชายพูดขึ้น
"เออ นั่นสินะ" ชายชู้กัดฟันพูด
"ผมมีไม้เบสบอลจะขายคุณ 50ดอลล่าเอามั้ยครับ?"
"เอามาเล้ย"

ครั้นพุธต่อมาผู้เป็นสามีลาพักร้อน
เขาชวนลูกชาย
"นี่ลูก พ่อว่าเราไปเล่นเบสบอลกันดีมั้ย?"
เด็กชายตอบว่า
"ไม่ได้หรอกพ่อ ผมขายไม้กะลูกบอลไปแล้วในราคา100ดอลล่า

ผู้เป็นพ่อโกรธมาก
"แกนี่ทำแบบนี้ได้ยังไง แกไปหลอกขายใครเข้ามันเป็นบาปรู้มั้ย
และพระผู้เป็นเจ้าจะไม่ยอมรับลูก ขึ้นสวรรค์ มานี่พ่อจะพาไปโบสถ์"

ที่โบสถ์......
ผู้เป็นพ่อพาเด็กชายมาที่ห้อง สารภาพบาปซึ่งเป็นห้องที่เล็กๆและค่อนข้างมืด
"เอ้า เข้าไป แล้วบอกหลวงพ่อไปซะว่าแกทำบาปอะไรมา"
เด็กน้อยเข้าไปในห้องนั้นและประตู ก็ปิดลงทิ้งให้เด็กชายอยู่ในความมืด
เด็กน้อยรู้สึกกลัวจึงรำพึงออกมา
"ใน นี้มืดจึงเลย..."

ทันใดนั้นบาทหลวงก็ตอบกลับมาว่า

"จะเอาอะไรมาขายอีกละ"

คิดไปได้

คิดไปได้

ชายอเมริกันคนหนึ่งได้พบรักกับสาวชาวเยอรมัน

เขาจึงได้ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกับเธอ และนำเธอมาอยู่ที่อเมริกาด้วยกัน

แม้ว่าเธอจะพูดอังกฤษไม่ได้เลย

แต่ด้วยความรัก ทำให้เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่ในอเมริกากับเขา

ทุกครั้งถ้าเป็นไปได้ เมื่อเธอจะไปไหนไม่ว่าไปเที่ยวหรือไปซื้อของ

เธอก็จะพาสามีของเธอไปด้วยเพื่อที่จะไปสื่อสารกับคนอื่น

แต่ก็มีความจำเป็นที่เธอจะต้องออกไปตลาด

เพื่อซื้อกับข้าวมาทำให้สามีเธอกินทุกเย็น

เย็นวันหนึ่ง สามีของเธอบอกเธอว่า เขาอยากกินขาหมูอบ

เมื่อเธอไปที่ตลาด เธอพูดอย่างไร คนขายก็ไม่เข้าใจเธอ

เธอจึงตัดสินใจถกกระโปรงขึ้น แล้วชี้ขาของเธอให้เขาดู

คนขายจึงเข้าใจและนำขาหมูมาให้เธอ

อีกวันหนึ่ง สามีเธอต้องการที่จะกินอกไก่ เธอก็ไปที่ร้าน

และพยายามที่จะบอกคนขายอีก แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงตัดสินใจถอดเสื้อออก

แล้วชี้ไปที่หน้าอกของเธอจึงเข้าใจ

แต่แล้วเย็นวันหนึ่ง

เมื่อสามีของเธอบอกเธอว่าเขาต้องการที่จะกินไส้กรอก เธอก็จนใจ จึงตัดสินใจพาสามีของเธอออกไปด้วย

คุณคิดว่าเธอจะทำอย่างไร

**************

***********

*********

กำลังคิดอะไรกันอยู่

ลืมไปแล้วเหรอไง สามีเธอพูดภาษาอังกฤษได้ !! คนทะลึ่ง

Monday, March 26, 2012

ยับไปหน่อย

ยับไปหน่อย

มีชายชราสองคน กำลังนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่ ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ข้างห้อง มีหญิงชราอยู่คนหนึ่ง
เห็นชายชราสองคนนั้นกำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ จึงคิดอะไรสนุกๆ ทำ จึงถอดเสื้อผ้าแล้วเดินผ่านห้องชายชราสองคนนั้น

ชายชราคนหนึ่งพูดว่า "แกเอ้ย เมื่อกี้เห็นผู้หญิงเดินผ่านมั้ย อีกคนพูดว่า เห็นสิแล้วแกคิดยังไงบ้าง

ชายชราคนแรกพูดว่า
"ก็ใช้ได้ แต่เสียดายชุดที่แกใส่ยับไปหน่อย คงจะไม่ได้รีดมานาน

ไม่มีปัญหา

ไม่มีปัญหา

เพื่อนผมคนหนึ่งขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด
ด้วยความเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลเขาก็เลยหลับใน
ลืมตาขึ้นมาอีกทีเขาก็เห็นลูกวัวตัวหนึ่งอยู่ในระยะกระชั้นเกินกว่าจะหลบทัน
แล้วก็ โครม!

เขาเลยหายง่วงเป็นปลิดทิ้งแล้วลงไปคุยกับเจ้าของวัวเรื่องค่าเสียหาย
เอางี้แล้วกันพี่ ลูกวัวนี่ตัวละเท่าไหร่เนี่ย เดี๋ยวผมใช้ให้ เขาถาม

เนี่ยพึ่งมีคนมาขอซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้วจะให้สองพัน
แต่ผมไม่ขาย เจ้าของวัวบอก

เอางี้ผมให้พี่สองพันห้าแล้วกัน ตกลงนะครับ
เพื่อนผมเสนอ หวังให้จบๆเรื่องไป

โอ๊ย ไม่คุ้มหรอก ที่ผมไม่ขาย
เพราะผมกะเลี้ยงไว้ขายตอนโต ผมกะเลี้ยงสัก 6 ปี
ขายได้เหนาะๆสามสี่หมื่น เอางี้แล้วกันผมคิดสามหมื่นพอ
เจ้าของวัวแสดงความเขี้ยวออกมา

เพื่อนผมไม่พูดไม่จา
หยิบสมุดเช็คขึ้นมาเขียนจำนวนเงินสามหมื่นเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วยื่นส่งให้

ไม่มีปัญหาครับ อีก 6 ปีพี่ไปขึ้นเงินได้เลย!

Friday, March 23, 2012

ขอดูรูป

ขอดูรูป

หนุ่มคนหนึ่งไปเที่ยวแคมป์เปลือย ซึ่งทุกคนเปลือยกายกันหมด วันหนึ่ง เขาได้รับจดหมายจากแม่
แม่อยากดูรูปของเขาขณะเดินทางไปท่องเที่ยว โชคร้ายที่เขามีรูปถ่ายอยู่ใบเดียว
แล้วก็ดันเป็นรูปที่ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวของเขาอีกต่างหาก ชายหนุ่มเลยตัดรูปตัวเองออกเป็นสองส่วน
แล้วส่งรูปถ่ายครึ่งบนไปให้แม่

ไม่นานก็ได้รับจดหมายตอบกลับมาว่า แม่ชอบรูปของเขามาก และบอกมาด้วยว่ายายก็อยากเห็นรูปของเขา
อยากให้เขาส่งรูปไปให้ยายดูหน่อย

ชายหนุ่มเหลือแต่รูปครึ่งล่าง แต่เขาปลอบใจตัวเองว่า
"เฮ้ย ไม่มีอะไรหรอก ยายน่ะแก่แล้ว ตาก็ไม่ดี ส่งรูปครึ่งล่างไปให้ดูก็ได้ ไม่รู้เรื่องหรอก"

ไม่นานต่อมา เขาได้รับจดหมายตอบจากยาย ซึ่งเขียนมาบอกว่า

"หลานยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ แต่ยายว่าทรงผมใหม่ของหลานมันดูรกรุงรังไปหน่อย
ทำให้จมูกของหลานดูยาวขึ้นอีกเยอะเลย!!!"

ใครจะรู้

ใครจะรู้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งหลงใหลในรสชาติของถั่วอบเป็นอันมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้าง
ยามเมื่อต้องปล่อยแก๊สออกมา แต่เขาก็ยังชอบที่จะกินถั่ว

แล้ววันหนึ่งเขาพบหญิงสาวสวยถูกใจมากนางหนึ่ง หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันพอควร เขาก็ตกหลุมรักหล่อน
และตกลงใจปลงใจที่จะแต่งงาน ตามด้วยการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะเลิกกินถั่ว!! เพราะขืนยังกินอยู่ ต้องอายสาวเจ้าน่าดู๊...

หลังจากงานแต่งงานผ่านไป 2-3 เดือนวันหนึ่งระหว่างทางขับรถบ้าน หลังเลิกงานรถเจ้ากรรมเกิดเสีย...
เนื่องจากบ้านของเขาอยู่ชนบท จึงไม่มีรถประจำทางไปถึง หนทางเดียวที่จะกลับบ้านได้ คือ ต้องเดิน
เขาจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยา เพื่อบอกว่า เขาอาจจะถึงบ้านช้าสักหน่อย เพราะรถเสีย และต้องเดินเท้ากลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาเดินผ่านร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง แล้วกลิ่นถั่วอบก็โชยออกมายั่วใจเขา เขาจึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า
กว่าจะเดินกลับถึงบ้านก็ต้องใช้เวลา และพลังงานมากน่าดู น่าจะหาอะไรรองท้องสักหน่อย ว่าแล้วเขาจึงเดินเข้าไปสั่ง
ถั่วอบ 3 ถุงใหญ่พิเศษ เพื่อเดินกินระหว่างทางกลับบ้านเขาเดินไปกินไป อย่างเพลิดเพลินจนถั่วหมดโดยไม่รู้ตัว
และเขาก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ครั้นเมื่อกดกระดิ่งปุ๊บ ภรรยารักเดินออกมาเปิดประตู พร้อมกับพูดว่า

สวัสดีค่ะ ที่รัก..
น้องมีสิ่งจะทำให้พี่ประหลาดใจอย่างที่สุดในอาหารมื้อเย็นวันนี้เลยละค่ะ

ว่าแล้วเธอ ก็ควักผ้าปิดตามาปิดฉับลงที่ใบหน้าสามี และจูงเขามานั่งที่เก้าอี้ที่หัวโต๊ะอาหาร และให้เขาสัญญาว่าจะไม่ใช้แทคติคใดๆ แอบมองอย่างเด็ดขาด ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในท้องของเขา

โชคช่วยที่เผอิญมีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ภรรยาที่กำลังจะเอื้อมมือมาเปิดผ้าผูกตา จึงบอกว่า ขอเวลาไปรับโทรศัพท์ประเดี๋ยว
แต่พี่ห้ามแอบดู ก่อนน้องจะกลับมานะ เธอย้ำ แล้วก็ไป...

ขณะที่ภรรยาไปรับโทรศัพท์ เขาก็ฉวยโอกาสนี้ ผายลม เสียงของมันไม่ดังนัก แต่เหม็นราวไข่เน่าทีเดียว จนแม้แต่ตัวเขาเองยังต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไล่กลิ่น หลังจากรู้สึกว่า ดีขึ้น ลมระลอกใหม่ก็เริ่มบุกอีก แน่นอน เขาเริ่มผายลมระลอกใหม่ เสียงมันดังราวเครื่องยนต์ดีเซลกำลังทำงาน กลิ่นแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก...เขาจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไปมาอย่างรวดเร็ว
โดยหวังว่า จะทำให้กลิ่นมันจางลงไปบ้าง

แต่ไม่ทันไร ข้าศึกชุดใหม่ก็มาถึง คราว นี้แย่ยิ่งกว่า 2 ครั้งแรก หน้าต่างสั่นไหวเพราะแรงลม จานบนโต๊ะเขย่า และนาทีต่อมาดอกไม้บนโต๊ะก็เหี่ยวเฉา ก็เพราะสัญญาว่าจะไม่เปิดตา เขาจึงไปไหนไม่ได้ นอกจากต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ
รอจนกว่าภรรยาจะกลับมา เขานั่งรออยู่ราว 10 นาที และเป็น 10 นาที ที่มีกิจกรรมแบบว่าตลอด ผายลม..

โบกผ้าเช็ดหน้า.. ซ้ำไปซ้ำมา.. เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาวางโทรศัพท์ เขาจึงรีบพับผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋า และยิ้มให้ภรรยาอย่างไร้เดียงสา
ราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภรรยากล่าวขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย และถามว่า
เขาไม่ได้แอบดูแน่นะ ...

เมื่อเขายืนยัน เธอจึงปลดผ้าผูกตาให้เขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันชวนตื่นเต้นว่า Surprise

เป็นช่วงเวลาอันน่าสะพึงกลัว... ที่เขาพบว่า มีแขกนั่งอยู่รอบโต๊ะกินข้าว 12 คน เพื่อร่วมงาน Surprise party
ในงานวันเกิดของเขานั่นเอง

Thursday, March 22, 2012

ไม่รอดแน่

ไม่รอดแน่

ลูกงูเลื้อยมาหาแม่งู ด้วยท่าทางตกใจสุดขีด

ลูกงู : แม่ครับๆ!! เราเป็นงูพิษหรือเปล่าครับ
แม่งู : เป็นสิจ๊ะ ก็เราเกิดมาเป็นงูเห่านี่จ๊ะ กัดใครเข้าไป ถึงตายทันทีเลยนะ
ลูกงู : งั้นผมต้องตายแน่ๆเลย
แม่งู : อ้าว ทำไมล่ะ?
ลูกงู : ก็ผมดันเผลอกัดปากตัวเองนะสิครับ!!

กฎต้องเป็นกฎ

กฎต้องเป็นกฎ


เจ้าโจรนักปล้นที่ขึ้นชื่อ เรื่องความโหด เมื่อใดที่มันเข้าปล้นเป็นต้องมีการข่มขืนเหยื่อไปทุกครั้ง
และมันก็ยึดมั่นในกฎนี้ตลอดมา วันหนึ่งเจ้าโจรเหิมเกริมถึงขนาดเข้ามาปล้นในพระราชวัง
เพราะตั้งใจว่าจะเข้าปล้นในห้องเจ้าหญิง

"หยุดนะ นี่คือการปล้น" เจ้าโจรร้องตวาดเสียงดัง

แต่บังเอิญเหลือเกินที่ขณะนั้นเจ้าหญิงไม่อยู่ห้อง มีเพียงแม่นมพรหมจรรย์วัย 80 เท่านั้นที่นอนเฝ้าห้องบรรทมอยู่
มันตกใจมาก จึงรีบกวาดข้าวของมีค่าใส่ถุง เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหญิงเดินเข้าห้องมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี

"เจ้าเข้ามาทำอะไรในห้องข้า?" เจ้าหญิงถาม

"มัน คือ โจรจอมโหดเพคะ แม่นมวัย 80 ตอบเสียงสั่น แถมมันยังขึ้นชื่อเรื่องยึดมั่นในกฏเป็นอย่างมาก
ปล้นที่ไหนต้องข่มขืนเหยื่อที่นั่น และตอนนี้หม่อมฉันก็จะกลายเป็นเหยื่อของมันแล้วเพคะ" แม่นมว่าพลางร้องไห้โฮ

เจ้าหญิงนึกสงสารแม่นมมากที่จะต้องโดนข่มขืน จึงพยายามขอร้องเจ้าโจรโหด

"เจ้าโจร เจ้าอย่าข่มขืนแม่นมเลยนะ แกแก่มากแล้ว สงสารแก" เจ้าหญิงว่า

แต่ก่อนที่เจ้าโจรจะตอบออกมา แม่นมก็พูดขึ้นมาเสียงดัง

"ไม่ได้หรอกเพคะ กฎยังไงก็ต้องเป็นกฎ เพคะ!"

Wednesday, March 21, 2012

เกือบตาย

เกือบตาย

ชายคนหนึ่งกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เลย
จึงไม่รู้ว่าเมื่อเข้าเรือนหอจะต้องทำอะไร...อะไร บ้าง
จึงไปปรึกษาเพื่อนให้ช่วยแนะนำ เพื่อนก็ไม่รู้ว่าจะบอกตรง ๆ ยังไง
จึงพากันเดินไปตามถนน บังเอิญ มีสุนัขคู่หนึ่งกำลัง.....กันอยู่พอดี

เพื่อนจึงชื้ให้ว่าที่เจ้าบ่าวดูว่า....
เพื่อน : นี่.....นี่ ......เค้าทำกันอย่างนี้
ว่าที่เจ้าบ่าว : อ๋อ... เข้าใจแล้ว

หลังจากแต่งงานไปแล้วหนึ่งเดือน
เจ้าบ่าวกับเพื่อนก็มาเจอกันอีกครั้ง เพื่อนจึงอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร
จึงถามว่า

เพื่อน : เป็นยังไงบ้างวะ......สำเร็จไม๊

เจ้าบ่าว : ขอบใจมากเพื่อน...สำเร็จ...
ได้ผลดีเลยละ แต่ลำบากมากเลย

เพื่อน : ลำบากยังไง

เจ้าบ่าว : ลำบากตรงที่.........
กว่าจะลากเจ้าสาวลงมากลางถนนได้
ต้องออกแรงลากเกือบตาย

อวยพรบ่าว-สาว

อวยพรบ่าว-สาว


ในงานแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของฝ่ายเจ้าสาว ได้ถูกเชิญให้ขึ้นไปอวยพร

บ่าวสาว ท่านอวยพรว่า...

"ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมรู้จักเจ้าสาวเป็นอย่างดี เพราะเธอเป็นเลขาของผมเอง ทำงานร่วมกันมาก็หลายปี

จากการที่ได้ทำงานใกล้ชิดกันทำให้ผมได้เห็นนิสัยใจคอ ของเธอ ผมได้เห็นอะไรต่อมิอะไรดีๆในตัวเธอ

และผมกล้ายืนยันกับทุกๆคนในที่นี้ว่า จิ๋มเธอน่ารักมาก"

จบคำอวยพร เล่นเอาแขกเฮกันลั่นกันทั้งงาน

ปรัชญานี้สอนให้รู้ว่า หากคุณมีลูกสาว อย่าพยายาม ตั้งชื่อว่า "จิ๋ม"

ฮาๆ เปลี่ยนช่องทีวีบ่อยๆ

ฮาๆ เปลี่ยนช่องทีวีบ่อยๆ

เคยดูทีวี แบบเปิดช่องไปๆมาๆ กันไม๊?

สมมติว่าคุณดู ทีวีแล้วเอารายการแต่ละช่องมาต่อกันจะเกิด

เริ่ม สวัสดีครับท่านผู้ชมทุกท่าน ช่อง 3 เปิดสถานีวันนี้เรามาพบกับ
เปลี่ยนช่อง กด สินค้าสุขภัณฑ์ในครัวเรือนของคุณต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก
เปลี่ยนช่อง กด กองกำลังผสม ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา และอังกฤษได้บุกเข้าสู่
เปลี่ยนช่อง กด สถาณีวิทยุโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 7 ร่วมกับ
เปลี่ยนช่อง กด นางอองซาน ซูจี และสมาชิกพรรคเอ็นแอลดี ถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ใน
เปลี่ยนช่อง กด ทะเลทรายซาฮาร่า เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมายมที่รอการ
เปลี่ยนช่อง กด ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ มันถึงเวลาแล้วที่เราจะ
เปลี่ยนช่อง กด การ์ดสแลช! กิลม่อนเปลี่ยนร่างเป็น!
เปลี่ยนช่อง กด ประธานาธิปดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และนายโทนี่แบล์ ได้พบปะหารือกันเพื่อ
เปลี่ยนช่อง กด สุขภาพลูกน้อยของคุณ ผ้าอ้อมแพมเพอร์ส ดีต่อ
เปลี่ยนช่อง กด ต่อหน้าฉัน เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
เปลี่ยนช่อง กด ทำได้โดยการยิงประตูขึ้นนำในนาทีที่ 25 โดย
เปลี่ยนช่อง กด อีหล้า! อีลูกไม่รักดี ตอนแกเกิดฉันน่าจะ
เปลี่ยนช่อง กด โอม มะลึกกึกกึ๊ยส์ มะลึกกึกกึ๊ยส์ มะลึกกึกกึ๊ยส์
เปลี่ยนช่อง กด เมื่อพระสงฆ์สวดพระคาถาจบแล้ว ลำดับต่อไป
เปลี่ยนช่อง กด เชิญพบกับข่าวต่างประเทศ เราจะเริ่มกันที่การประชุม APEC ซึ่งได้ข้อสรุปว่า
เปลี่ยนช่อง กด แมลงสาป น่าเกลี๊ยด น่าเกลียด ไต่กันยั๊ยเยี๊ย ทำลายข้าวของ วันนี้เรา
เปลี่ยนช่อง กด ไม่รอให้ฟ้า ให้ดิน ลิขิต ไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไป ไม่ว่า
เปลี่ยนช่อง กด การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ อาจมีข้อขัดแย้งอยู่บ้าง แต่ในที่สุด
เปลี่ยนช่อง กด สหรัฐอเมริกา ก็ประกาศอิสรภาพในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งส่งผลให้
เปลี่ยนช่อง กด คำตอบนะครับ..... ถูกต้องนะคร้าบ!!!
เปลี่ยนช่อง กด ไชโย ไชโย ไชโย กินเหล้าขวดโตแล้วหาแฟนใหม่ แฟนเก่าเขา
เปลี่ยนช่อง กด คือนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ คือคนไทยผู้ยิ่งยง
เปลี่ยนช่อง กด แล้วพบกันใหม่ วันนี้เวลา 5 นาฬิกา สำหรับตอนนี้สวัสดีครับ....

Tuesday, March 20, 2012

ขำๆ ฮาๆ เลียนแบบ

ขำๆ ฮาๆ เลียนแบบ

ด.ช.จอร์จเดินผ่านหน้าห้องพี่สาวจะไปห้องของตัวเอง ระหว่างนั้นได้ยินเสียง

"อูย...อยากได้ผู้ชายๆๆ" พอแอบดูที่ช่องประตูก็เห็นพี่สาวนอนแก้ผ้าลูบตัวไปด้วย

จอร์จสงสัยหนักว่าพี่สาวเป็นอะไร?

วันต่อมา ด.ช.จอร์จเดินผ่านหน้าห้องพี่สาวอีก และก็ได้ยินเสียงพี่ร้องเหมือนเดิมว่า

"อยากได้ผู้ชายๆๆๆๆๆๆ" เขาครุ่นคิดหนักว่า นี่พี่สาวเป็นอะไร?

หลายวันต่อมา ด.ช.จอร์จเดินผ่านหน้าห้องพี่สาวแต่กลับไม่ได้ยินเสียง นึกสงสัยก็เลยย่องไปแอบดู

ปรากฏว่าพี่สาวกำลังนอนอยู่กับผู้ชายจริงๆ เขาจึงกลับรีบวิ่งไปที่ห้องตัวเอง แก้ผ้า นอนเอามือลูบตัว จากนั้นก็ร้องลั่นห้อง...

"อูยส์ อยากได้รถบังคับ อยากได้หุ่นยนต์"

อย่าไปเชื่อมันมาก

อย่าไปเชื่อมันมาก


ชายหนุ่มขับรถผ่านทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง แล้วเครื่องยนต์ก็เสีย ชายหนุ่มลงจากรถ เหลียวซ้ายแลขวาหาคนช่วย

เขาเห็นแม่วัวตัวหนึ่งยืนมองอยู่

“หม้อน้ำร้อนไปมั๊ง” แม่วัวว่า

ชายหนุ่มตกใจ เขาวิ่งไปที่โรงนาที่อยู่ใกล้ๆ

“แม่วัวพูดได้ มันรู้ว่ารถผมเสียตรงไหน” ชายหนุ่มละล่ำละลักพูดกับเจ้าของนา

“แม่วัวตัวใหญ่ ที่มีสีดำสองจุดบนหลังใช่ไหม” ชาวนาถาม

“ใช่ ตัวนั้นแหละ” ชายหนุ่มตอบ

“อย่าไปเชื่อมันมากนะ มันไม่รู้เรื่องรถยนต์หรอก”

..ณ..งานแต่งงานของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง....

..ณ..งานแต่งงานของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง....

ในงานแต่งงานงานหนึ่ง ในขณะที่ดื่มกินกันไปได้สักพักใหญ่

พิธีกรในงานก็เชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวทีเพื่อกล่าวอะไรเล็กๆน้อยๆ

เป็นการขอบคุณแขกที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่ง

เจ้าบ่าวที่เริ่มจะได้ที่ก็ขึ้นกล่าวทันที ว่ากันเป็นกลอนเลย

" วันนี้ดีใจจะได้เมีย
หลังจากที่ได้เสียกันหลายหน
วันนี้จะมีเมียเป็นตัวตน
ขอบใจแขกทุกคนที่มางาน "

พอกล่าวจบเท่านั้น พวกเพื่อนๆเจ้าบ่าวปรบมือกันเกรียวกราว

ต่างก็พูดกันขรมว่า " มันแน่จริงๆเลยว่ะ...เพื่อนกู "

ฝ่ายเจ้าสาวก็รู้สึกอับอายและเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง จึงกล่าวขอบคุณ

บรรดาแขกที่มาร่วมงานด้วยเสียงหวานๆน่ารักว่า...." เช่นกันค่ะ "

" วันนี้ดีใจจะได้ผัว
หลังจากที่เสียตัวมาหลายหน
ในวันนี้จะมีผัวเป็นตัวตน
แต่เป็นคนที่เท่าไหร่...ไม่ได้จำ "

Monday, March 19, 2012

ไม่รู้จัก...น้อยลง

ไม่รู้จัก...น้อยลง

ชายหนุ่มนักดื่มผู้หนึ่งเดินมาหา บาร์เทนเดอร์แล้วสั่งว่า

"น้องขอ น้อยลง แก้วนึงสิ"

"มันคืออะไรครับพี่ เกิดมาไม่เคยได้ยินค็อกเทลชื่อนี้เลย"

บาร์เทนเดอร์ งงอย่างสุดๆ

"เป็นบาร์เทนเดอร์ได้ยังไง ขนาดพวกหมอยังรู้จักเลย" ชายผู้นั้นบ่น

"หมอเนี่ยนะรู้จักเครื่องดื่มแปลกๆอย่างนี้" บาร์เทนเดอร์สงสัยสุดขีด

"ก็ หมอที่ฉันไปหา กี่รายๆก็สั่งให้ดื่ม "น้อยลง" ทั้งนั้นเลยล่ะ"

ทำไมคะลุง

ทำไมคะลุง

สองสาวนั่งคุยกันขณะโดยสาร รถไฟขบวน กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา

สาว1: ผู้ชายเนี่ยนะฉันดูนิด เดียวรู้เลยว่า...ขนาดไหน

สาว2 : เธอรู้ได้ยังไง ดูตรงไหนล่ะ

สาว1: ก็ ดูที่ขนาดรองเท้าซิ ถ้าเบอร์ 8 แสดงว่ายาว 8 นิ้ว

สาว2 : งั้นแฟนฉัน ใส่รองเท้าเบอร์ 12 ต้องยาว 12 นิ้วแน่เลย

(ทั้งคู่หัวเราะคิกคัก หันไปเห็นลุงนั่งอยู่ซึ่งก็ได้ยินเรื่องเมื่อสักครู่)

สาว1:ทำไม ลุงไม่สวมรองเท้าคะ ไม่ปวดเท้าหรือคะ

ลุง:อ๋อ ลุงเท้าใหญ่เกินไป ยังหาเบอร์รองเท้าไม่ได้เลยหนู

พินัยกรรมลับ

พินัยกรรมลับ

โจกับไมค์ สองนักขายเข้าไปขอหลบพายุหิมะในบ้านของหญิงโสดเสน่ห์แรงนอกเมืองกลางดึก

โจได้ยินเสียงไมค์ย่องลงจากเตียงและเดินเข้าไปในห้องเจ้าของบ้าน

โจไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยจนกระทั่งได้รับจดหมายลงทะเบียนที่ส่งมายังออฟฟิศของ เขาหลังจากนั้นเก้าเดือน

เขาเดินถือจดหมายเข้าไปในห้องทำงานของไมค์ แล้วถามว่า “จำคืนที่เราติดพายุหิมะ แล้วแกดอดเข้าไปหาเจ้าของบ้านได้ไหม”

“จำ ได้” ไมค์ตอบ

“แกบอกเธอว่าชื่อโจใช่ไหม” โจรุก

“ใช่” ไมค์ตอบเสียงสั่น “มีอะไรเหรอ”

“อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอก” โจตอบ

“เธอเพิ่งตาย และยกสมบัติทั้งหมด 100 ล้านให้ฉันว่ะ”

Friday, March 16, 2012

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

ไอ้หนุ่มคนหนึ่งโดนไล่ออกจากงาน
เขาเดินขึ้นไปบนสะพานแห่งหนึ่ง แล้วตัดสินใจว่าจะโดดน้ำตาย

ก่อนจะกระโดดลงไปเขาเหลือบมองลงไปข้างล่าง
มีภาพหนึ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ
ชายจรจัดแขนด้วนทั้งสองข้างคนหนึ่งกำลังเต้นรำอยู่ริมฝั่งน้ำ

"ชีวิตเรายังไม่เลวร้ายเท่าไหร่เลยนี่หว่า"
เขาบอกกับตัว เองแล้วเปลี่ยนใจไม่โดดลงไป
เขาเดินลงไปหาชายจรจัดแขนด้วน

"ขอบคุณครับ" เขาบอก
"ผมเกือบจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายอยู่ แล้วเชียว
แต่ผมเห็นคุณยังเต้นรำได้ทั้งๆที่แขนด้วนทั้งสองข้าง
คุณ สอนให้ผมเข้าใจคุณค่าของชีวิต"

"ใครบอกว่าตูเต้นรำ" ชายแขนด้วนพูดหน้าบูด
"ตู คันตูดแต่ไม่รู้จะเกายังไงตะหากล่ะ!!!"

Thursday, March 15, 2012

เรียกไม่เหมือนกัน

เรียกไม่เหมือนกัน

มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งนั่งในสวน สาธารณะ
นั่งกันอยู่นานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนฝ่ายหญิง เริ่มขยับตัวแต่แล้ว.....ก็
มีเสียงดังฟุบ ฝ่ายหญิงจึงชวนฝ่ายชายกลับ
ฝ่ายชายหนุ่มก็ถามหญิงสาว ว่าทำไมรีบกลับ

ฝ่ายสาวก็กระมิดกระเมี้ยนตอบว่า
......คือมันเมื่อยน่ะค่ะ

ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงบอกว่า
บ้านน้องเรียกเมื่อยหรือจ๊ะ แต่บ้านพี่เรียกตดจ๊ะ

Wednesday, March 14, 2012

เสร็จ...แน่!!!

เสร็จ...แน่!!!

หนุ่มร่างท้วมมาก พยายามที่จะลดน้ำหนักมานาน เขาใช้สารพัดวิธีการ แต่ไม่เคยได้ผลเป็นที่พอใจซะที

วันหนึ่งเขาเห็นโฆษณาบริการลดน้ำหนักในหนังสือพิมพ์

"ลดน้ำหนักทันใจ กิโลกรัมละ 500 บาท ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน"

เขาจึงลองโทรศัพท์ไปตามหมายเลขที่ให้ไว้

"ต้องการลดกี่กิโลคะ"

เสียงจากศูนย์ลดน้ำหนักถามอย่างไม่มีอ้อมค้อม

"เอ่อ...” หนุ่มตุ้ยนุ้ยอึ้งเมื่อเจอคำถามโดนใจ

“สัก 2 กิโลแล้วกันครับ"

“ขอชื่อ ที่อยู่และเบอร์ติดต่อกลับด้วยค่ะ พนักงานของเราจะไปถึงพบคุณพรุ่งนี้ที่บ้าน เวลา 10 นาฬิกานะคะ”

เช้าวันถัดมามีสาวสวยหุ่นเพรียวแต่งตัวด้วยชุดแนบเนื้อสุดเซ็กซี่มาปรากฏตัวหน้าบ้าน

“ดิฉันเป็นพนักงานจากศูนย์ลดน้ำหนักค่ะ ถ้าคุณจับดิฉันได้ จะทำอะไรก็ยอมทั้งนั้นค่ะ”

แม่สาวบอกอย่างหน้าตาย เห็นหนุ่มทำเฉย เลยถอดเสื้อชั้นในออกเป็นโนบราให้เซ็กซี่เข้าไปอีก เจ้าหนุ่มเริ่มเข้าใจ
แปลงร่างเป็นตัวหื่นทันที ไล่ล่าสาวน้อยอย่างเอาจริงเอาจัง
แต่ไม่ว่า พยายามสักเท่าใด แม่สาวน้อยก็ใช้ความคล่องตัวหลบหลีกไปได้ทุกที
จนเวลาผ่านไปร่วมสามชั่วโมง เจ้าหนุ่มลิ้นห้อย แทบไม่มีแรงจะยืน แม่สาวก็ประกาศ

“จบแล้วค่ะ ทีนี้คุณลองชั่งน้ำหนักดูสิคะ”

หนุ่มร่างใหญ่ลอง ชั่งน้ำหนักดู ไม่น่าเชื่อ น้ำหนักของเขาลดลงไป 2 กิโลพอดี เจ้าหนุ่มยังคาใจ
หลังจากพักเรียกความฟิตอยู่หลายวัน เขาโทรไปนัดแนะกับทางศูนย์ใหม่
คราวนี้เป้ามายของเขา ไม่ได้อยู่ที่การลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวแล้ว กะว่าคราวนี้แม่สาวไม่พ้นมือแน่

“ผมต้องการลด 10 กิโลครับ”

เจ้าหนุ่มบอกกับพนักงาน กะว่างานนี้เขาจะมีเวลาเหลือเฟือให้ไล่ล่าแม่สาวน้อยจนมุมได้แน่ๆ

“นั่นมันมากไปนะคะ” พนักงานที่ศูนย์แย้ง

“ผมว่าได้ก็ต้องได้สิน่า” เจ้าหนุ่มยังคงยืนยัน

พนักงานเห็นว่าคงจะขัดเจ้าหนุ่มไม่ได้ จึงต้องยอมตามนั้น
จนเมื่อถึงเวลานัด เจ้าหนุ่มไปนั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่หลังประตู จนเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น
เขารีบเปิดประตูออกไปอย่างตื่นเต้น แต่กลับต้องรู้สึกประหลาดใจ
เพราะที่หน้าประตู คงเป็นคนในชุดรัดรูปเช่นเดิม เพียงแต่..
คราวนี้เป็นชายล่ำ ร่างใหญ่มาก ท่าทางเป็นแต๋วชัดเจน
ที่หน้าอกมีตัวหนังสือตัวโตเท่าหม้อแกง เขียนไว้ว่า

"ถ้าผมจับคุณได้ คุณเสร็จผมแน่!!!!"

Tuesday, March 13, 2012

บาร์ทอง

บาร์ทอง

ขี้เมานายหนึ่งหลังจากกลับถึงบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ ก็ถูกภรรยาซักว่าไปไหนมา

"คุณไปไหนมาทั้งคืนยะ" ภรรยาถาม

"ไปบาร์เปิดใหม่มาจ๊ะ เยี่ยมจริง ๆ" เขาตอบ

"ชื่อ The Golden Saloon ที่นั่นนะทุกอย่างเป็นทองหมด
ประตูยักษ์ ส ทอง,พื้นเป็นทอง แม้แต่โถฉี่ยังเป็นทองเลยล่ะ"

ฝ่ายภรรยาก็ยังไม่ค่อย เชื่อพ่อเจ้าประคุณเท่าไร

วันต่อมาเธอก็หาเบอร์โทรศัพท์จากสมุดโทรศัพท์ พบว่ามีที่หนึ่งชื่อ

The Golden Saloon เธอก็เลยลองโทรไปถามเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของสามีตัวดี

"ที่นั่น Golden Saloon หรือเปล่าค่ะ" เธอถามกับบาร์เทนเดอร์ซึ่งมารับโทรศัพท์

"ใช่ ครับ" บาร์เทนเดอร์ตอบ

"คุณมีประตูยักษ์สีทองหรือเปล่าค่ะ"

"แน่นอนครับ"

"มีพื้นเป็นสีทองด้วยเหรอ"

"ก็เป็นส่วนใหญ่ครับ"

"แล้วโถฉี่สีทองล่ะ"

เสียงบาร์เทนเดอร์เงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงบาร์เทนเดอร์ตะโกน

"เฮ้ย ดุ๊ก อั๊วว่า เราเจอไอ้คนที่มันมาฉี่ใส่แซกโซโฟนเราเมื่อคืนแล้วว่ะ"

อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวมันท้อ

"อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวมันท้อ"

หนุ่มคนหนึ่งขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด ด้วยความที่ฝนตกหนัก และถนนเป็นดินลูกรัง รถของเขาจึงไปตกอยู่ในหล่ม

แต่โชคยังดีที่บังเอิญมีชาวนาจูงควายเดินผ่านมา ลุงชาวนาแสดงน้ำใจของคนไทยแท้ ๆ ที่ยังไม่ถูกวัฒนธรรมเมือง

เข้ามาแทรกแซง เขาผูกควายเข้ากับรถแล้วสั่งให้มันลาก

"เอ้า ลากเข้า เจ้าเผือก"

ลุงแกร้องเชียร์ควายของแก

"เอ้า ช่วยหน่อยเจ้าบุญมา" .. ลุงชาวนาสำทับซ้ำ

"อีกนิดนึง เจ้าทอง" ... ลุงชาวนาตะโกนต่อ

“คุณลุงครับ” ชายหนุ่มสงสัย

“ทำไมควายของลุง มีชื่อหลายชื่อจังครับ”

"จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไปหลานชาย” .. ลุงกระซิบ

“ควายของลุงชื่อบุญมา ตาบอดมาหลายปีแล้ว

ลุงหลอกมันว่ามีเพื่อนช่วยกัน ลากอยู่หลายตัวน่ะ

Monday, March 12, 2012

ฝึกจิต ขณะขับรถ

ฝึกจิต ขณะขับรถ (ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ )

มีหลายคน สอบถามผม เรื่อง จะปฏิบัติธรรม จะฝึกสติ ในขณะขับรถยนต์ได้อย่างไร ?
ก็ขอให้ลองอ่าน Note นี้ ซึ่งเป็นความเห็นของผมดูนะ ไม่มีใครผิดใครถูกนะครับ เป็นแค่ความเห็นหนึ่งเท่านั้นเอง อย่าไปจริงจัง อย่าเอาไปเป็นมาตรฐานอะไรนักเลย

(๑) คำว่า "สมาธิ" : ในความหมายที่ผมเข้าใจ คือ "ต่อเนื่อง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่อกแว่ก "
(๒) ผมใช้คำว่า ฝึกจิตให้เป็นสมาธิ หมายถึง จิตว่าง จิตโล่ง จิตโปร่งสบาย อย่าง ต่อเนื่อง อย่างคงที่ รักษาสภาพจิตว่างโล่งๆได้ตลอดเวลา ได้นาน ๆ _ ดังนั้น อย่าไปนึกว่า ต้อง นั่งปิดตา ดูลมหายใจ หยุดคิด ไม่คิดเลย ตลอดเวลา เพราะ ว่า เราคงทำแบบนั้น ขณะขับรถยนต์ ไม่ได้ ปิดตาขับ ก็ ชนกันแน่ๆ
(๓) "จิตว่าง" : หมายถึง จิตไม่เสวยอารมณ์ จิตปราศจากกิเลส จิตสบายๆ จิตไม่ตก จิตไม่เป็นกุศล จิตไม่เป็นอกุศล จิตโล่ง จิตเป็นอิสระจากความคิด จิตและความคิด เป็นอิสระ ไม่ส่งอิทธิพลต่อกัน
เมื่อจิตว่างๆ กลางอกของเราจะโล่งๆ ตัวเราจะเบาๆ เราจะรู้ตัวทั่วพร้อม มีสติอย่างต่อเนื่อง ความคิดของเรา จะไม่มีกิเลส ไม่มีอคติ ไม่มีลำเอียง
(๔) การขับรถไปด้วย อบรมจิตไปด้วยนั้น เริ่มต้นจาก เรา ต้อง หายใจลึกๆชัดๆ เพื่อ สลัดนิวรณ์ ( ง่วง เบื่อ เซ็ง สงสัย แค้น เครียด ฯลฯ) ออกไปก่อน ทำใจของเราให้สบายๆ โล่งๆ
(๕) อยู่กับความคิดปัจจุบัน ซึ่ง ในการขับรถ "ความคิดปัจจบัน" คือ ขับรถให้ดีๆ เคารพกฏจราจร ขับอยู่ในทาง อยู่ในช่องของตนเอง ระวังรถตัดหน้า หยุดกระทันหัน สิ่งกีดขวาง รถคันหลังจะชนท้ายเราได้ไหม ไฟหน้าสูงเกินไปไหม อันตรายต่างๆ สภาพพร้อมของ รถยนต์ ฯลฯ
(๖) มือ (Hands) ก้น (ass) รับรู้ถึงแรงกระแทก ที่ ล้อทุกล้อ ลมที่กระแทกตัวถัง แรงสะบัดของพวงมาลัย ความร้อน หนาว ฯลฯ เท้า (Feet) ก็รับรู้ พลังของเครื่องยนต์ ความเร็วของรถยนต์ ความร้อน ฯลฯ ตา ก็ มองถนน มองป้ายจราจร ป้ายบอกทาง อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ฯลฯ จมูก ก็รู้ถึง กลิ่นที่ผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น และ หู ก็ รับรู้ ถึง เสียงของเครื่องยนต์ ที่อยู่ในระดับปกติ ลมที่ผ่านตัวรถไป เสียงผิดปกติหากเกิดขึ้น ฯลฯ เป็นการใช้ "กาย" รับรู้ ใช้ อายตนะ ของ หู ตา จมูก รับรู้

(๗) ตัวการใหญ่ ที่ทำให้จิตเกิดอาการ คือ "ความคิดจร" : เป็นความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิด ไม่ได้เชื้อเชิญ เป็นความคิดที่มาแซง มาเบียด มาแย่งความคิดปัจจุบัน (คือ ขับรถให้ปลอดภัย) ออกไป เป็นความคิดที่ชวนให้จิตเกิดอาการ เช่น ขับรถไป มองเห็น สาวสวยบนคัทเอ้าท์โฆษณา (แผงป้ายโฆษณา ริมถนน ที่ ชวนให้ จิตหื่นกาม) เมื่อ ตากระทบรูปสาว Sex สัญญา ความคิดปรุงแต่ง (สังขาร) ก็สามารถจู่โจมจิตให้เกิดอารมณ์ได้ ยกเว้น เราจะติดตั้ง ระบบป้องกัน ระบบเตือนถัย ซึ่ง ระบบเตือนและป้องกันนี้ เขาเรียกกันว่า "สติ"
(๘) ดังนั้น ขับรถไป ขับแบบมีสติ ขับแบบ รักษาจิตใจอย่างสบายๆ ทำจิตใจโล่งๆ และ หาก มีความคิดจร ความคิดที่ไม่เป็นปัจจุบัน เช่น คิดถึงสาวสวย หนุ่มหล่อ คิดถึงเรื่องที่ทะเลาะกับแฟน กับใครสักคน กับเจ้านาย โกรธคนที่ขับรถปาดหน้า หยุดกระทันหัน แซงคิว เบียดกินทาง ส่งเสียงดัง มอเตอร์ไซค์ชนกระจกมองหลังด้านข้าง ฯลฯ ก็ให้ รู้เท่าทัน ความคิดจร ที่ ชวนให้จิตของเรา ปรี๊ดๆๆๆๆๆ จี๊ดๆๆๆๆ ออกอาการ หรือแม้น แต่ ฟังเพลงเพราะๆ จน ละ ความคิดปัจจุบัน ผลคือ เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ
(๙) ขณะขับรถ ก็ ทำใจให้โล่งๆ สบายๆ คิดอยู่กับปัจจุบัน อย่าเปิดโอกาสให้ความคิดจรเล่นงานเรา เช่น โกรธ หลง (ใจลอย หลับใน) โลภ (เอาเปรียบ เพื่อนร่วมถนน แซง ปาด โกง เห็นแก่ตัว ไม่มีเมตตา ฯลฯ) หาก มีความคิดจร ถ้าเป็น อกุศล ชวนให้ โกรธ โลภ หลง ก็ดับไป ละไป ให้อภัย ช่างหัวมัน หยวนๆไป
(๑๐) ต้องรู้จัก "สำเหนียก" คือ ถ้าจะฟังเพลง ฟังเทปเสียง สนทนากับใครก็ตาม ฯลฯ ก็ มีสติ ระลึกเสมอว่า เรากำลังควบคุมรถ เป็นวัตถุอันตราย ให้กลับมา ความคิดปัจจุบัน รักษากฏจราจร ดูทาง ฟังเสียงรถ เสียงเครื่อง กะระยะปลอดภัย ฯลฯ
(๑๑) สำเหนียก หมายถึง ทำกิจกรรมหลายๆอย่างพร้อมกันได้ โดย กิจกรรมหลัก ไม่เสียหาย ซึ่ง กิจกรรมหลักในที่นี้ คือ ขับรถอย่างปลอดภัย เคารพกฏจราจร มีน้ำใจ และ ไปถึงที่หมาย
(๑๒) ถ้าง่วง อย่ามีอัตตา อย่าอวดเก่ง อย่าเกรงใจ จง นอน
(๑๓) อย่าประมาท อย่าซิ่ง อย่าคะนอง อย่าเอาปมด้อยมาระบายด้วยการขับรถ อย่าอวดใครว่าขับรถเก่ง อย่าประชดใครด้วยการขับรถเร็ว อย่าเอาชีวิตคนอื่นมาย่อยยับเพราะปมในใจของเรา อย่าเอาท้องถนนมาเป็นที่ระบายอารมณ์
(๑๔) หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย _ ไม่ต้องด่าใคร ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องมีนิวรณ์ (แค้น อาฆาต กังวล เบื่อ ง่วง เครียด ติดเพลง ติดกินของอร่อย ฯลฯ) _ จิตเป็นปกติ คือ จิตว่างๆ สติต่อเนื่อง นี่แหละ เป็น อธิจิต อธิศีล อธิปัญญา
(๑๕) ขอให้ ทุกท่าน ปลอดภัย มีความสุข เข้าใจเรื่อง จิตเป็นสมาธิ เข้าใจเรื่องความคิดจร เห็นสถาวะที่ว่า "จิต กับ ความคิด" เป็นคนละตัวกัน ทำงานแยกกัน เป็นอิสระต่อกัน
(๑๖) ย้ำ หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย หากใจคอไม่สบาย ก็ จง หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย แบบนี้อีก ตัดความคิดจร ความคิดงี่เง่าออกไป ความคิดหาเลือก ความคิดอวดเก่ง ฯลฯ ออกไป
มีความคิดอยากจะทำอะไรบ้าๆ (ปาดหน้า เอาคืน ตามไปด่า ขอดูหน้า ขอสั่งสอน ประลองความเร็ว ฯลฯ) ก็ดับความคิดนั้นๆ
กายมันฟ้อง ว่า เหนื่อยง่วง เมา ฯลฯ ก็นอน อย่ามีความคิด อวดเก่ง "เอาอยู่" ตายมาเยอะแล้ว



หลงกล

หลงกล

สามหนุ่มกับหนึ่งสาวนั่งรถไฟไปด้วยกัน
ถึง แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แต่เนื่องจากทุกคนมีอายุรุ่นราวคราว เดียวกัน
การพูดคุยจึงถูกคอ พอเวลายิ่งผ่านไปดึกขึ้น
ดีกรีเรื่อง ที่คุยก็เริ่มเคลื่อนลงต่ำไป ใต้สะดือมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด
สาวคน เดียวในกลุ่มก็เอ่ยขึ้น

"ถ้าพวกคุณให้เงินชั้นคนละยี่สิบบาท ชั้นจะโชว์ขาให้ดู”

ทั้งสามหนุ่มนึกสนุก ควักเงินออกมาให้
แล้ว สาวเจ้าก็ถลกกระโปรงยาวกรอมเท้าขึ้นมาเกือบถึงเข่าให้เห็นช่วงน่องเรียวสวย

"ถ้าพวกคุณให้ชั้นคนละร้อย ชั้นจะโชว์ต้นขาให้ดูเลยเอ้า" เธอก็พูดต่อ
ทั้งสามหนุ่มควักเงินออกมาคนละ ร้อยเหมือนถูกมนต์สะกด
แล้วสาวสวยก็ถลกกระโปรงขึ้นไปอีกนิดให้เห็นต้นขา ขาวนวลเนียนน่าลูบไล้
ในสภาพที่ทั้งสามหนุ่มกำลังกระสับกระส่ายกับภาพ ยวนตา
สาวเจ้าก็งัดไม้ตายออกมา ทีนี้

"ถ้าพวกคุณให้ชั้นอีกคนละพัน ชั้นจะโชว์ให้ดูที่ๆชั้นผ่าไส้ติ่ง"

สามหนุ่มไม่รอช้า ควักเงินออกมาให้โดยดี แล้วเตรียมดูภาพประทับใจ
สาวน้อยชี้ออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูด

“โน่นไง เห็นมั้ย ชั้นผ่าที่โรงพยาบาลนั้นแหละ !”

เศรษฐีขี้เหนียว

เศรษฐีขี้เหนียว

เศรษฐีขี้เหนียวซื้อของขวัญ ปีใหม่ฝากเพื่อนจนครบเกือบทุกคน ขาดแต่ของของเพื่อนเก่าที่ย้ายไปอยู่ต่างเมือง งบประมาณก็เหลือแค่นิดเดียว
เขาเดินหาอยู่นานก็ไม่ได้ของที่ราคาถูกเงินและถูกใจซะที จนกระทั่งเหลือบไปเห็นเศษแก้วแตกกองนึงอยู่บนโต๊ะ ไอเดียอุบาทว์เกิดขึ้นทันที

"แก้วนี่ จะทิ้งหรือ"
เขาถามพนักงานในร้าน

"ใช่ ครับ มีพนักงานคนนึงทำแตก เรากำลังจะเก็บไปทิ้งครับ" พนักงานบอก

"ถ้าผมขอได้มั้ย" เขาถามต่อ

"ได้ สิครับ" พนักงานงงเล็กน้อย

"แล้วถ้า จะช่วยห่อของขวัญให้ผมด้วยจะได้ไหม" เขารุกไล่

"ไม่มีปัญหาครับ ท่านซื้อของกับเราตั้งหลายชิ้น เดี๋ยวจะห่อให้เรียบร้อยเลยครับ" พนักงานใจดี

"ดี งั้นช่วยส่งให้ผมด้วยนะ ตามที่อยู่นี่แหละ" เศรษฐีขี้เหนียวยังไม่วาย
แต่พนักงานในร้าน ก็ยอมโดยดี

เศรษฐี ขี้เหนียวเดินออกจากร้านอย่างภาคภูมิใจในไอเดียสุดประหยัดของตน และมั่นใจว่าเพื่อนจะต้องคิดว่าแก้วนั้นแตกระหว่างการขนส่ง

หนึ่งเดือนผ่านไป เพื่อนเขียนจดหมายมาบอก
"ขอบใจมากสำหรับแก้วแตกที่ส่งมา แต่คราวหลังไม่ต้องห่อแยกชิ้นอย่างนี้ก็ดีว่ะ ขี้เกียจแกะทีละชิ้น"

Friday, March 9, 2012

มายาหญิงมีร้อยเล่มเกวียน..... (เมาแล้วขับ)

มายาหญิงมีร้อยเล่มเกวียน..... (เมาแล้วขับ)

ผู้หญิงกับผู้ชายขับรถมาชนกันอย่างจัง
โชคดีที่ทั้งสอง ไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างคลานออกมาจากซากรถ
ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่า
หญิงสาวคู่กรณีหน้าตาดีทีเดียว

เธอหันมาบอกเขาว่า
"ไม่น่าเชื่อเลยว่า เราสองคนจะรอดมาได้
อาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสของเรา ก็ได้"

เธอเจื้อยแจ้ว ต่อไปว่า
"รถของฉันพังยับทั้งคัน

แต่ไวน์ขวดนี้ ไม่บุบสลาย
แสดงว่า เราเกิดมาเพื่อคู่กันแน่ ๆ เลย
งั้นเรามาดื่มฉลอง ความรักของเราในอนาคตกันเถอะ"

"ยินดีครับ"
ขายหนุ่มตอบรับด้วยหัวใจพองโต
แล้วดื่มไวน์ไปครึ่งขวด
ก่อนจะส่งคืน ให้หญิงสาว

"ไม่หรอกค่ะ ฉันว่าจะ
นั่งรอตำรวจเงียบ ๆ ดีกว่า"

คนละเรื่องเดียวกัน

คนละเรื่องเดียวกัน


เหตุการณ์: คุณตัวนางหนึ่งอาศัยอยู่กับยาย ตอนเย็นๆ ก็จะออกไปทำงาน โดยคุณยายไม่รู้ว่าหลานสาวทำงานอะไร

เย็นวันหนึ่งตำรวจออกทำการกวาดล้าง และจับคุณตัว สาวๆ ได้หลายสิบคน เธอก็โดนจับ ไปกับเขาด้วย ตำรวจจัดแจงให้คุณตัว

เข้าแถวเรียงกัน เพื่อขึ้นรถไปโรงพัก บังเอิญคุณยายจะไปซื้อของที่ตลาด เดินผ่านมาเห็นพอดีเลยถามหลานสาวว่า

ยาย: "อีหนูมาเข้าแถว ทำอะไรอยู่นี่?"

หลาน: ด้วยความอายและไม่อยากให้ยายรู้ เธอเลยตอบว่า "กำลังเข้าแถวรอแจกส้มเขียวหวานน่ะยาย"


ยาย: เห็นว่าเป็นของ ฟรีแบบนี้ไม่ควรพลาด เลยเข้าไปต่อแถวเป็นคนสุดท้าย สักพักตำรวจที่เดินจดบันทึกประวัติคุณตัว

ไล่มาจากหัวแถวก็มาถึงคุณยายท้ายแถว

ตำรวจ: "ยาย...ยายแก่ปูนนี้ แล้วยังไหวอีกเหรอ ยายทำได้ยังไงเนี่ย" ตำรวจถามด้วยความงุนงงสงสัย

ยาย: "ไม่เห็นจะ ยากเลยพ่อหนุ่ม ยายก็แค่ถอนฟันปลอมออกแล้วก็ ดูดๆ อมๆ จนน้ำแห้ง แค่นี้ก็เรียบร้อย"


ตำรวจ: "!!!!!!!!!!!!!!!!??????????"

ช่วยเพื่อนสร่างเมา

ช่วยเพื่อนสร่างเมา

ตำรวจเดินตรวจตรา บริเวณ RCA ตามนโยบายจัดระเบียบสังคม พบภาพพิศดารภาพหนึ่ง

มีชายคนนึงยืนเอานิ้วแยงก้นชายอีกคนนึงอยู่ในความมืดแถวที่จอดรถ

"คุณมาทำอนาจารอะไรแถวนี้" ตำรวจ ถามนำ

"เปล่าอนาจารนะครับคุณตำรวจ"

ชายคนที่เอานิ้วแยงก้นเพื่อนแย้ง

"เพื่อน ผมเมามาก ผมแค่จะช่วยให้ มันอ้วกจะได้สร่างเมาเร็ว ๆ

"พูด เป็นเล่นน่ะ" ตำรวจไม่เห็นด้วย

"คุณเอานิ้ว ล้วงก้นยังงี้มันจะหายเมาได้ยังไง"

"ใจเย็นสิคร้าบ " เขายิ้มเผล่

"รอผมเอานิ้วมายัดปากมันก่อน ดูซิว่ามันจะอ้วกมั้ย"

Thursday, March 8, 2012

ข้อเสียของการใส่เหล็กดัดฟัน

ไ = อ้ = ส = า = ร = ะ = เ = ล = ว

ไ = อ้ = ส = า = ร = ะ = เ = ล = ว

หญิงสาวอายุ 16 เข้าไปสารภาพผิดกับบาทหลวง

หญิงสาว : หลวงพ่อขา เมื่อวานนี้หนูพูดคำไม่สุภาพกับผู้ชายคนหนึ่งค่ะ
หนูด่าเขาว่า "ไอ้สารเลว" ค่ะ

บาทหลวง : ทำไมหนูถึงพูดจาแบบนั้นล่ะ
หญิงสาว : เขาจับมือหนูโดยไม่ได้รับอนุญาตค่ะ

บาทหลวง : อย่างนี้เหรอ (พูดแล้วก็จับมือหญิงสาว)
หญิงสาว : ใช่ค่ะ หลวงพ่อ

บาทหลวง : เรื่องแค่นี้ไม่น่าถึงกับต้องด่าเขานี่
หญิงสาว : แต่เขาจับหน้าอกหนูด้วยนะคะ หลวงพ่อ

บาทหลวง : อย่างนี้เหรอ (พูดแล้วก็จับหน้าอกหญิงสาวด้วย)
หญิงสาว : ใช่ค่ะหลวงพ่อ แบบนี้เลยค่ะ

บาทหลวง : ก็ยังไม่มีเหตุผลพอที่จะด่าเขาอยู่ดีนั่นแหละ
หญิงสาว : นอกจากนั้นแล้ว เขายังถอดเสื้อผ้าหนูด้วยนะคะ

บาทหลวง : (น้ำลายหก) อย่างนี้เหรอ
(ว่าแล้วก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าเธอ)
หญิงสาว : ใช่ค่ะหลวงพ่อ

บาทหลวง : (แสร้งทำหน้าเครียด) มันชักจะมากไปหน่อยแล้วนะ
แต่หนูก็ยังไม่ควรว่าเขาอยู่ดี
หญิงสาว : แต่เขาก็เอาใส่เข้าไปในของหนูด้วยนะคะหลวงพ่อ

บาทหลวง : (ได้โอกาส รีบเอาของตัวเองใส่เข้าไปบ้าง)
อย่างนี้เหรออออ
หญิงสาว : ใช่ค่ะหลวงพ่อ (หญิงสาวตอบเสียงสั่น)

บาทหลวง : (ทำตาลอย เคลิบเคลิ้ม)
เธอก็ยังไม่ควรด่าเขาว่าไอ้สารเลวอยู่ดีนั่นแหละ
หญิงสาว : แต่เขาเป็น เอดส์นะคะ

บาทหลวง : ไ = อ้ = ส = า = ร = ะ = เ = ล = ว ! !!!!!

Monday, March 5, 2012

ถูกกว่า

ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด

ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด

ห้างแพ็กโกรกำลังรับสมัครพนักงานขาย มีผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกมารอสัมภาษณ์กับผู้จัดการ
อยู่หลายคนซึ่งก็รวมถึงบุญเนตรหนุ่มรูปหล่ออยู่ด้วยคนหนึ่ง

ผู้จัดการ : คุณบุญเนตร ผมดูประวัติของคุณน่าสนใจมากทีเดียว ผมอยากจะจ้างคุณนะ แต่ว่า....ผมคง
ไม่สามารถทำอย่างที่ผมต้องการได้ เพราะว่าผมเห็นคุณขยิบตาข้างหนึ่งบ่อยๆ มันอาจทำให้ลูกค้าของห้าง
เกิดความไม่พอใจได้ด้วยสำคัญว่าคุณไปก้อร่อก้อติกกับเขา

บุญเนตร : อ๋อ เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ถ้าผมกินยาเม็ดคุมกำเนิดเพียง 2 เม็ดเท่านั้น อาการ
ขยิบตาของผมก็จะหายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ

ผู้จัดการ : จริงหรือ ? ไม่น่าเชื่อเลยนะ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมก็คงรับคุณเข้าทำงานได้ไม่มีปัญหา

บุญเนตรเอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง เพื่อจะหยิบยาเม็ดคุมกำเนิดขึ้มมากิน แต่แล้วปรากฏว่าม
ีถุงยางอนามัยแบบต่างๆติดมือเขาขึ้นมาด้วยเป็นจำนวน 5 - 6 อัน พอเขากินยาเม็ดคุมกำเนิดไป 2 เม็ด
อาการขยิบตาข้างเดียวของเขาก็หายเป็นปลิดทิ้งอย่างที่เขาว่าทัน ที

ผู้จัดการ : อืม์... แม้อาการขยิบของคุณจะหายก็จริง แต่ผมเกรงว่าผมจะจ้างคนที่สำส่อนอย่างคุณไม่ได้
เสียแล้วล่ะ เพราะพฤติกรรมของคุณอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกค้าสตรีของห้างเราได ้

บุญเนตร : ผมไม่ได้เป็นคนอย่างที่คุณคิดหรอกนะครับ ผมไม่ได้สำส่อน ผมมีภรรยาที่ดีและน่ารักมาก
ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดนอกใจเธอเลยครับ

ผู้จัดการ : อ้าว แล้วอย่างนั้นคุณจะอธิบายเรื่องถุงยางอนามัยเหล่านี้อย่างไรล่ะ ?

บุญเนตร : อ๋อ ทุกครั้งที่ยาผมหมดและผมต้องไปซื้อยาคุมกำเนิดที่ร้านขายยา คงอาจเป็นเพราะผมต้อง
ขยิบตาข้างเดียวไปด้วยนะซี บางทีคนขายทำเป็นรู้ดีผมจึงได้ถุงยางอนามัยแทนยาคุมกำเนิดอย่าง ที่คุณ
เห็นนั่นแหละ

Friday, March 2, 2012

แจ๋วมาก

แจ๋วมาก

นักกอล์ฟสาวสองนางออกรอบในตอนเช้าวันเสาร์อันสดใสวันหนึ่ง เมื่อนางหนึ่งทีออฟ เธอเห็นลูกของเธอ

ลอยละลิ่วไปที่กลุ่มหนุ่มที่อยู่ที่หลุมข้างหน้า ลูกนั้นถูกที่หนุ่มคนหนึ่งอย่างจัง เธอเห็นเขาเอามือสอดเข้าไปที่ง่ามขา

ล้มตัวลงบนพื้นสนาม บิดตัวไปมาอย่างปวดร้าว สาวรีบวิ่งไปแล้วกล่าวคำขอโทษอย่างระล่ำระลัก เธอบอกว่า

เธอเป็นนักกายภาพบำบัด เธอสามารถใช้วิชาความรู้ของเธอทำให้เขาบรรเทาความเจ็บปวดได้

“เอ้อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็คงหาย” หนุ่มบอก

แต่เธอยืนยันที่จะช่วยเขา เธอดึงมือเขาออกจากง่ามขา จับให้นอนหงาย ขยายเข็มขัดเขาออกแล้ว

เอามือสอดเข้าไปข้างในกางเกง นวดอย่างแผ่วเบา สักพักแล้วถามเขาว่า เป็นอย่างไรบ้าง

“วิเศษเลยครับ คุณทำได้ดีมาก แต่หัวแม่มือซีครับ ที่มันถูกลูกกอล์ฟ มันยังปวดขนาดหนักเลย”

ในสภา

ในสภา

สส.คนที่ 1 "คุณน่ะไอ้หน้าโง่"

สส.คนที่ 2 "คุณน่ะไอ้งี่เง่า"

ประธานสภา "เอาละ เมื่อท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ์ได้แนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ดำเนินการประชุมกันต่อไป"

แคชเชียร์ตาบอด

แคชเชียร์ตาบอด

ภวรัญชน์ นึกสนุกอยากจะตกปลา จึงเข้าไปในร้านขายเครื่องกีฬา หลังจากเมียงๆ มองๆ

คันเบ็ดอยู่สักพักใหญ่ เธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อคันไหน เพราะเธอไม่มีความรู้อะไรเรื่องคันเบ็ดเลย

ในที่สุดเธอเสี่ยงหยิบมาคันหนึ่ง เดินมาที่แคชเชียร์ ซี่งเป็นหนุ่มใหญ่ สวมแว่นตาดำ บอกว่า

"ขอโทษค่ะ ฉันไม่มีความรู้เรื่องคันเบ็ดเลย กรุณาแนะนำหน่อยได้ไหม คันนี้เป็นไงคะ"

"ขออภัยครับ ผมตาบอดสนิทเลย" แคชเชียร์บอก "แต่ถ้าคุณโยนคันเบ็ดนั่นลงบนโต๊ะแรงๆ

ผมจะบอกได้ว่า มันทำด้วยอะไร ดีหรือไม่ดี"

ภวรัญชน์ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เธอโยนคันเบ็ดลงบนโต๊ะหน้าแคชเชียร์ ซึ่งบอกว่า

"นั่นน่ะเป็นคันเบ็ดยาว 6 ฟุต ทำด้วยแกรไฟท์ ตัวรอกยี่ห้อ เซบโก้ 202 ดีมากครับ ราคา 800 บาทครับ"

ภวรัญชน์ ฉงน กล่าวว่า "เก่งจริงนี่คุณ ฉันเอาอันนี้แหละ"

แคชเชียร์ตาบอดหยิบคันเบ็ดมาห่อ ภวรัญชน์ เกิดผายลมออกมา ปล่อยทั้งกลิ่นและเสียง เธออายก็อาย

แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา แคชเชียร์ส่งคันเบ็ดที่ห่อมาแล้วให้ บอกว่า

"950 บาทครับ"

"อ้าว เมื่อกี้นี้คุณบอก 800"

"เฉพาะคันเบ็ดน่ะ 800 ครับ แต่ค่านกหวีดเป่าเรียกเป็ดอีก 100 และค่าเหยื่อปลาเน่าอีก 50 รวมเป็น 950 บาท ครับ"

Thursday, March 1, 2012

ไม่คิดเงิน

ไม่คิดเงิน

เมื่อท่านประธานกรรมการบริษัทมาทำงานแต่เช้าผิดปกติ ก็ได้เห็นกรรมการผู้จัดการกำลังจูบกับเลขานุการของท่านประธาน

อย่างดูดดื่มในห้อง ท่านระเบิดออกมาว่า

"เฮ้ย นี่เรอะงานที่ฉันเสียเงินจ้างพวกแกให้มาทำ"

"ไม่ครับ ตอนนี้ผมให้บริการฟรีครับ" ผู้จัดการถอนปากมาตอบ

ขอความเมตตาศาล

ขอความเมตตาศาล

หนูน้อยอายุ 10 ขวบคนหนึ่ง ขอความกรุณาต่อศาลในคดีที่เขาตกเป็นจำเลยที่ยิงพ่อและแม่ของเขาเองตายทั้งคู่

ด้วยเหตุผลที่ว่า

"ตอนนี้ผมเป็นลูกกำพร้าครับ"

เชื่อแล้ว

เชื่อแล้ว

นุตประวีณคุยฟุ้งกับเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานาน

"นี่ นายรู้ไหม เรานี่เป็นนักสะสมของเก่าที่ลือชื่อในวงการเชียวนะ"

"กันเชื่อแล้ว เราเพิ่งเห็นเมียของนายเมื่อกี้นี้เอง" เพื่อนตอบ

สัญญานะ

สัญญานะ

พุฒิสรรค์ เมากลับบ้านดึกตามเคย เพราพนิตผู้เป็นภรรยาเหลืออด ร้องออกมาว่า

“นี่ถ้าคุณไม่หยุดเมาหยำเปอย่างนี้ ฉันจะเลิกกับคุณละ”

“เอ้อ คุณสัญญาแล้วนะ อย่าลืมสัญญาละ เอิ้ก”